หน้าฝนมาอีกแล้ว ฝนตกบ่อย ๆ อย่างนี้ นอกจากจะทำให้บรรยากาศเหงา ๆ แล้ว สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่มากับฝนก็คือไวรัสหวัด ควรดูแลสุขภาพให้ดีนะคะ ลองอ่าน 8 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับโรคหวัดและไข้หวัดใหญ่ เพื่อเป็นการป้องกันตัวคุณเองและคนใกล้ชิดให้ไกลจากโรคหวัดค่ะ

8 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ
โรคหวัด และไข้หวัดใหญ่

1. โรคไข้หวัดใหญ่และโรคหวัดต่างกันอย่าไร ?

ทั้งโรคไข้หวัดใหญ่และโรคหวัดเป็นความเจ็บป่วยที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ แต่ว่าเกิดจากเชื้อไวรัสที่ต่างกัน เนื่องจากอาการของไข้หวัดใหญ่และโรคหวัดคล้ายกันมาก จึงทำให้แยกแยะความแตกต่างได้ค่อนข้างยาก

โรคไข้หวัดใหญ่เกิดจากระบบทางเดินหายใจของเราติดเชื้อไวรัส ซึ่งรวมถึงจมูก คอ หลอดลม และบางครั้งอาจรวมถึงปอด ในขณะที่โรคหวัดซึ่งเกิดจากไวรัสหวัด จะมีผลต่อระบบทางเดินหายใจตอนบนอย่างจมูกและคอเท่านั้น โดยปกติแล้วอาการของโรคไข้หวัดใหญ่จะรุนแรงกว่าโรคหวัดทั่วไปค่ะ

2. ทำไมคนส่วนใหญ่จึงกลัวโรคไข้หวัดใหญ่ ?

เนื่องจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สามารถทำลายปอดได้ ซึ่งอาจทำให้ปอดติดเชื้อและเป็นโรคปอดบวมได้ และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้หลาย ๆ คนกังวลกับไข้หวัดมาก ถ้าเชื้อไข้หวัดใหญ่พัฒนาไปสู่โรคปอดบวมซึ่งร้ายแรงอาจถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันโรคต่ำอย่างผู้สูงอายุ หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง

3. ทำอย่างไรได้บ้างเพื่อจะป้องกันหวัด ?

ทั้งโรคไข้หวัดใหญ่และโรคหวัดถูกถ่ายทอดโดยวิธีเดียวกัน โดยหยดน้ำที่มีขนาดเล็กมาก ๆ จากการหายใจของผู้ป่วย ถ้าผู้ป่วยไอหรือจามแล้วโดยใช้มือปิดปาก (ไม่ใช้กระดาษทิชชู่) มือของเขาก็จะนำเอาเชื้อไวรัสไปสู่สิ่งทีพวกเขาสัมผัส ถ้าคุณเกิดไปสัมผัสสิ่งเหล่านั้นเข้า แล้วเอามือไปขยี้ตาหรือจมูก นั่นก็หมายความว่าคุณได้ติดเขื้อหวัดเข้าแล้ว

วิธีการป้องกันตัวเองและหลีกเลี่ยงการแพร่เชื้อไรวัสไข้หวัดใหญ่

• ล้างมือบ่อย ๆ ลองใช้เจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์พกติดตัวไว้ เผื่อเวลาที่คุณไม่สามารถหาน้ำล้างมือได้
• ไอและจามโดยใช้กระดาษทิชชู่ปิดปาก แล้วรีบล้างมือทันที
• หันหน้าไปทางอื่นที่ไม่มีคนเมื่อคุณไอ
• ถ้าคุณเกิดจะจามทันทีแล้วหาทิชชู่ไม่ได้ ให้จามใส่แขนแทน
• อย่าสัมผัสตา จมูก หรือปาก ซึ่งจะเป็นการป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย
• ทำความสะอาดของที่ต้องใช้ร่วมกับผู้อื่น (อย่างเช่น โทรศัพท์ คีย์บอร์ด) บ่อย ๆ เนื่องจากเชื้อไวรัสสามารถอยู่บนพื้นผิวเหล่านี้ได้หลายชั่วโมง
• หลีกเลี่ยงการไปในที่ ๆ แออัดและมีคนเยอะ ๆ ในช่วงที่โรคหวัดและโรคไข้หวัดใหญ่ระบาด

4 . อาการของไข้หวัดใหญ่มีอะไรบ้าง และเมื่อไหร่ที่ผู้ป่วยเริ่มเป็นพาหะ ?

อาการโดยทั่วไปของโรคไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้ เหนื่อยล้า เจ็บปวดร่างกาย ตัวสั่น และไอ การไอเกิดจากการระคายเคืองของหลอดลม อาการเหล่านี้มักจะเป็นอยู่ประมาณ 3-4 วัน อาการไออาจจะนานกว่า อาจใช้เวลาประมาณ 7 – 10 วันในการเยียวยารักษา และอาจจะมีอาการเหนื่อย เพลียไปอีก 2-3 สัปดาห์

หลังจากที่คุณได้รับเชื้อไวรัสไปแล้ว 24 ถึง 72 ชั่วโมง ไวรัสจะแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย ถึงแม้ว่าคุณจะยังไม่มีอาการทราบว่าคุณได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากคุณจะยังไม่มีอาการเจ็บป่วยใด ๆ คุณจะยังคิดว่าคุณมีสุขภาพดีอยู่ และทำกิจกรรมอย่างปกติ โดยที่คุณไม่รู้เลยว่าคุณได้แพร่เชื้อไวรัสไปทุกที่ที่คุณไป

ถ้าคุณติดเชื้อไข้หวัดใหญ่คุณควรจะอยู่บ้าน ทันทีที่พบว่ามีอาการข้างต้น เพราะนั่นหมายความว่าคุณได้เป็นพาหะนำเชื้อไข้หวัดไปสู่เพื่อนร่วมงานของคุณแล้ว นอกจากนั้นแล้วการที่ได้พักผ่อนอยู่บ้านจะทำให้คุณหายเร็วขึ้นอีกด้วยค่ะ

5 . ทางแก้ไขและรักษาโรคไข้หวัดใหญ่มีอะไรบ้าง ?

ถึงแม้ว่าจะไม่มีทางใดทางหนึ่งที่จะหยุดโรคไข้หวัดใหญ่ได้ทันที แต่มีทางรักษาอีกหลายทางที่พอจะช่วยลดอาการเจ็บป่วยจากโรคไข้หวัดใหญ๋ได้ ถึงแม้ว่าจะมียาที่ช่วยลดไข้และลดอาการปวด แต่ยาเหล่านั้นแค่ช่วยให้ผู้ป่วยสบายตัวขึ้น แต่ไม่ได้ทำลายเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แต่อย่างใด

แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ ? ยาลดน้ำมูกช่วยให้ผู้ป่วยหายใจได้ดีขึ้นโดยตัวยาทำให้น้ำมูกในจมูกหดตัว น้ำเกลือแบบสเปรย์สำหรับพ่นจมูกก็ช่วยให้หายใจได้สะดวกขึ้นเช่นกัน ส่วนอาการไอ สามารถทำให้ดีขึ้นได้โดยดื่มน้ำสะอาดและน้ำผลไม้มาก ๆ

แต่ต้องจำไว้นะคะว่า เด็กเล็กและวัยรุ่นไม่ควรใช้ยาแอสไพริน

สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรลืมก็คือการดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อร่างกายจะได้ไม่ขาดน้ำ แล้วยังช่วยป้องกันไม่ไห้เชื้อชนิดอื่นเข้าสู่ร่างกายอีกด้วย ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มพวกชา กาแฟ หรือน้ำอัดลมค่ะ

6 . ควรใช้ยาปฏิชีวนะหรือไม่ ?

ยาปฏิชีวนะ ไม่สามารถรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ได้ค่ะ ยาปฏิชีวนะสามารถทำลายแบคทีเรีย แต่ไม่สามารถทำลายเชื้อไวรัสต่าง ๆ รวมทั้งไวรัสที่ทำให้เกิดโรคไข้หวัดใหญ่และโรคหวัด

7 . เมื่อไหร่ที่เราควรไปพบแพทย์ล่ะ ?

อาการเหล่านี้เป็นตัวบ่งบอกว่าไข้หวัดใหญ่อาจจะกำลังพัฒนาไปสู่โรคที่ร้ายแรงกว่าอย่างโรคปอดบวม ถ้าพบว่ามีอาการเหล่านี้ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

• หายใจลำบาก
• มีไข้สูงตลอด
• อาเจียนหรือร่างกายไม่สามารถกลืนอาหารหรือน้ำได้
• มีอาการเจ็บและลำบากในการกลืนอาหาร
• ไอตลอดเวลา
• ปวดหัว มืนหัว และเวียนหัวตลอดเวลา

8 . ถ้าเราแพ้อากาศจะทำให้เราติดเชื้อไข้หวัดใหญ่มากขึ้นหรือไม่ ?

ไม่ค่ะ อาการแพ้อากาศไม่มีผลต่อการเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สูงคือผู้ใหญ่อายุสูงกว่า 50 ปี และทารกอายุระหว่าง 6 เดือนถึง 23 เดือน รวมถึงหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ในช่วงที่โรคไข้หวัดใหญ่กำลังระบาด