ไขปัญหากับช่างแม่น พูดมาก
ตอน ทาสีให้บ้าน
สวัสดีขอรับ..สำหรับเดือนนี้ คงอืดหน่อยสำหรับคนมีอายุอย่างกระผม ช่วงนี้ ยอมรับจริงๆ ว่างานเยอะมาก ต้องขอขอบพระคุณคุณลูกค้าทุกท่านที่ได้ให้การสนับสนุนบริษัทของเราเป็นอย่างดี พวกเราเลยต้องตั้งใจทำงานให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อเป็นการตอบแทนความไว้วางใจที่พวกท่านมีให้กับพวกเราครับ
อย่างไรก็ดี สำหรับเรื่องราวใน Website พวกเราจะพยายามรวบรวมความรู้เท่าที่พวกเรามีมาแบ่งปันกันให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อให้ผู้อ่านของเราทุกคน อย่างน้อยก็ได้มีความรู้ไว้พูดคุยหรือติติงช่างได้บ้าง ไม่ใช่ว่าเราจะจ้างเขามา แล้วเขาจะทำอะไรกับบ้านของเราก็ได้ ไม่งั้นเกิดช่างมั่วขึ้นมา แทนที่จะเป็นช่างแม่น สุดท้าย เราจะลำบาก เสียเงินเสียทองซ้ำซาก แล้วยังต้องมาปวดหัวแก้ปัญหาในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ทะเลาะกับช่างมันสนุกอยู่เมื่อไรล่ะครับ จริงมั้ยครับคุณ..
สำหรับการทาสีบ้านนั้น อันที่จริง ผมก็ไม่อยากจะพูดถึง แต่ บ.ก.ของเรายอมไม่ได้ บอกว่าหาข้อมูลยากเหลือเกิน ว่าแล้วก็สั่งให้คนแก่อย่างผมมานั่งเขียนบรรยายเกี่ยวกับกรรมวิธีในการทาสีโดยละเอียด ผมมันก็คนว่าง่าย ก็เลยต้องละมือจากเรื่องที่อยากเขียน มาเขียนเรื่องนี้ซะก่อน ว่าแล้วก็ขอเริ่มต้นเลยนะครับ..แต่น แต๊น..
อันว่าการทาสีบ้านนั้น หากจะทำให้ถูกวิธี นอกจากเราจะต้องรู้จักเรื่องสีตามที่เราเคยคุยกันไว้ในคราวที่แล้ว เรายังจะต้องรู้จักขั้นตอนและเทคนิคต่างๆ ในการทาสีอีกด้วย เริ่มกันตั้งแต่การเตรียมพื้นผิวเลยดีกว่านะครับ
พื้นผิวที่ดีและเหมาะสมกับการทาสี จำเป็นที่จะต้องเรียบ เนียน สะอาด ปราศจากฝุ่น หากมีรู มีร่อง
มีรอยอะไรก็แล้วแต่ เราก็ควรจะจัดการอุด ปะ และขัดซะให้เรียบร้อย เพราะสีก็เป็นแค่เนื้อฟิลม์บางๆ หากพื้นที่ที่ทาสี มีฝุ่น มีหลุม หรือมีร่อง ทาสีเสร็จ ก็จะเห็นชัด ดังนั้น หากต้องการงานทาสีที่เรียบเนียน สวย เราก็ควรจะเตรียมพื้นผิวให้ดีเสียก่อนนะครับ
ขั้นตอนแรกของการเตรียมพื้นผิว เราจะต้องเริ่มกันที่การขัดผิวก่อนนะครับ การขัดผิวนั้นเป็นหัวใจสำคัญของงานทาสีที่มีคุณภาพ เพราะจะช่วยให้พื้นผิวของเราเพิ่มขีดความสามารถในการยึดเกาะสี
ได้ดี แต่อย่าลืมใส่หน้ากากกรองฝุ่นสักหน่อยนะครับ จะได้ไม่หายใจเอาฝุ่นเข้าไปในปอดสวยๆ ของเรา
นอกจากนี้ บางทีช่างที่มีฝีมือดีๆ เขามักจะล้างผนังกันซะรอบหนึ่งแล้วปล่อยให้แห้งสนิทก่อนลงมือทาสี ซึ่งเหตุผลของการล้างผนังนั้นคือเพื่อล้างฝุ่นที่มักเกาะอยู่ตามผนังให้หลุดออกให้หมดเสียก่อน โดยขั้นตอนของการล้างผนัง ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพียงแต่ใช้น้ำสบู่อ่อนๆ ล้างผนังให้ทั่ว จากนั้นค่อยล้างด้วยน้ำเปล่าอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็รอให้แห้ง (โดยปกติ ก็ประมาณ 1 วัน ดังนั้น เราจึงควรบวกเวลาเตรียมพื้นผิวในระยะเวลาทำงานเผื่อไปด้วยนะครับ)
|