Home Alone (1990)

“นี่คือเทศกาลคริสต์มาส... ฤดูกาลแห่งความหวัง และฉันก็ไม่แคร์หากจะต้องออกไปยืนกลางถนนเพื่อโบกรถกลับบ้าน แม้ว่ามันจะทำให้ฉันสูญเสียอะไรไปก็ตาม ฉันยินดีแม้จะต้องขายวิญญาณของตัวเอง เพื่อที่จะได้กลับบ้าน ไปหาลูกชายของฉัน”
ภาพยนตร์เรื่องเยี่ยมที่ส่งให้หนูน้อย Macualay Culkin กลายเป็น Superstar ในทันที กับบทบาทของหนูน้อยที่ไม่ค่อนข้างมีปัญหากับญาติพี่น้อง และบังเอิญโชคไม่ดี จนอดไปเที่ยวกับครอบครัวในช่วงเทศกาลคริสต์มาส เลยต้องผจญกับคู่หูโจรติงต๊องที่ตั้งใจจะไปขโมยของในย่านคนรวยที่แพ็คของไปเที่ยวต่างประเทศพอดี
หนูน้อย Kevin (Macualay Culkin) เลยต้องอาศัยปฎิภาณไหวพริบในการที่จะเอาตัวรอดในบ้านของตัวเองอย่างโดดเดี่ยว ด้วยมุขฮาๆ นานาชนิดและมิตรภาพต่างวัย ที่จะทำให้คุณลืมไม่ลงไปเลยทีเดียว

Home Alone 2: Lost in New York (1992)

ภาคต่อของหนูน้อย Culkin ที่มารับเละกับค่าตัว 8 ล้านดอลลาร์ในตอนนี้ ซึ่งเป็นค่าตัวที่สูงที่สุดสำหรับเด็กอายุ 12 ปีในประวัติศาสตร์ฮอลลีวู๊ด
ภาคนี้ เป็นเทศกาลของปีต่อมา ที่ครอบครัวของ Kevin ตกลงจะเดินทางไปเที่ยวที่ Miami แต่ Kevin กลับพลัดหลงกับครอบครัวของเขาและไปโผล่ที่ New York พร้อมกับกระเป๋าตังค์และบัตรเครดิตของพ่อ!!!!
แน่นอนที่สุด ที่ภาคนี้จะมีอะไรให้ตื่นเต้นมากกว่าภาคที่แล้ว เพราะ Kevin ไม่ได้อยู่ในปราการที่คุ้นเคยอีกต่อไป แต่ตอนนี้ เขาต้องอาศัยความสามารถเฉพาะตัวในการเอาตัวรอดในเมืองใหญ่ และโรงแรมใหญ่ กับผู้จัดการโรงแรมที่แอบสงสัยในพฤติกรรมของเขา...
โดยปกติแล้ว หนังภาคต่อมักจะสนุกน้อยกว่าภาคแรก แต่สำหรับตอนนี้ ผมว่าไม่ใช่ เพราะว่ามันสนุกกว่า!!! และยังมีพล็อตเรื่องให้น่าติดตามมากกว่า!!!
หากคุณต้องการจะชมภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องนี้ ก็ไม่ต้องไปหาให้เหนื่อยนะครับ เพราะจะมีทีวีช่องใดช่องหนึ่ง นำกลับมาฉายให้ดูทุกปี เป็นอย่างนี้ติดต่อกันมาเกือบสิบปีแล้วครับ ฟังแค่นี้ คงรับประกันความสนุกได้แล้วนะครับ...

Love Actually (2003)

พบกับวิถีชีวิตที่ผิดแปลกแตกต่างกันถึง 8 คู่ในภาพยนตร์เรื่องเดียวที่มีการเชื่อมต่อกันได้อย่างลงตัว เพียบพร้อมไปด้วยดาราดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Hugh Grant, Liam Neeson, Bill Nighy, Colin Firth, Emma Thompson, Keira Knightley หรือแม้กระทั่ง Denis Richards ที่มาร่วมสร้างสรรค์ความสุขฉลองเทศกาลคริสต์มาสได้อย่างเต็มอิ่ม
วิถีชีวิตหนึ่ง ที่มีตำแหน่งนายกรัฐมนตรีค้ำคออยู่ ทำให้เกิดกำแพงบางอย่างไม่ให้จีบสาวคนที่ชอบได้ ส่วนอีกวิถีหนึ่ง ก็ต้องไปโหยหาความรักในต่างแดนอย่างจงใจ แต่อีกชีวิตหนึ่ง ก็บังเอิญไปหลงรักแม่บ้านในต่างแดนโดยบังเอิญ เพราะแฟนของตัวเองเกิดป่วยกระทันหัน
และยังมีนักร้องติดยา ลามก ที่ตกรุ่น ตกกระป๋อง และพยายามกลับมาดังอีกรอบภายใต้การผลักดันของผู้จัดการอ้วนที่แสนดี ก่อนที่จะตัดกลับไปยังเพื่อนรักที่แสนดี

และดันไปแอบรักแฟนเพื่อนอย่างหมดหัวใจ หรือหนูน้อยที่เพิ่งเสียแม่ไป แต่กลับมารักสาวน้อยที่ดังที่สุดในโรงเรียน

อันที่จริง ผมคงไม่ต้องเขียนถึงรายละเอียดมากนักก็ได้ เพราะเชื่อว่าภาพยนตร์ที่สุดดังเรื่องนี้น่าจะเคยผ่านสายตาทุกคนไปแล้ว อย่างน้อยก็คนละครั้ง แต่ครั้งนี้ หากคุณได้มีโอกาสได้ดูในช่วงเดือนธันวาคม คงทำให้แสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านหน้าต่างบ้านของคุณอบอุ่น และสวยงามขึ้นอีกมากเลยทีเดียวครับ

The Family man (2000)

นิโคลาส เคจกับมหัศจรรย์ในวันคริสต์มาส ที่ให้เขาพลิกชะตาชีวิตของตัวเองจากนักธุรกิจการเงินหนุ่มโสดที่ประสพความสำเร็จสูงสุด มาเป็นผู้จัดการร้านขายยางรถยนต์ที่มีครอบครัวที่อบอุ่น แน่นอนที่การเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันนี้จะทำให้เขาแทบสติแตก แต่สุดท้าย เมื่อเขาได้ตระหนักถึงความรักอันบริสุทธิ์ที่มีอยู่ในครอบครัว ก็ได้เวลาที่เขาต้องจากไป... เพื่อเป็นสุดยอดนักธุรกิจเช่นเดิม
เรื่องย่อที่จบลงในย่อหน้าเดียว แต่มีความประทับใจอยู่มากมายให้คุณได้ตักตวง ความอบอุ่นของครอบครัวที่พร้อมจะเสียสละเพื่อให้สมาชิกในครอบครัวได้สมหวัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม

Finding John Chirstmas

“How?”
“It’s Christmas”
บางครั้ง ซานตาคลอสก็ไม่ได้มาในรูปของชายชราร่างอ้วนหนวดเคราขาวเสมอไป...
สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมเพิ่งเคยได้ชมครั้งแรกผ่านทาง UBC ในช่วงเช้าของวันทำงาน ซึ่งคาดว่าจะมีคนดูไม่มากนัก แม้จะเป็นช่อง HBO ก็ตาม และผมขอบอกตามตรงว่าค่อนข้างเสียดายกับเรื่องที่หลายๆ คนคงจะไม่มีโอกาสได้ชม ทั้งๆ ที่ผมตั้งใจจะยกให้เป็นสุดยอดเรื่องเยี่ยมของเทศกาลคริสต์มาสประจำปีนี้ของผมเลยทีเดียว
เรื่องราวของน้องสาวที่ตามหาพี่ชายวีรบุรุษนักดับเพลิงที่หายสาบสูญไป ภายหลังจากช่วยเหลือเด็กนักเรียนออกจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งใหญ่เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว
หนังสือพิมพ์ประจำเมืองได้จัดการตีพิมพ์เรื่องราวและประกาศหาตัววีรบุรุษผู้นี้ พร้อมกับตั้งชื่อให้เป็น “John Christmas” พร้อมเงินรางวัล 50,000 เหรียญ
“คุณนั่นเอง... คุณช่วยเด็กๆ ไว้ได้มากเลยในวันนั้น”
“แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่ได้ออกมา”
รายละเอียดต่างๆ เริ่มเข้ามาปะติดปะต่อกันทีละเล็กทีละน้อย ก่อนที่จะออกมาภาพยนตร์ที่สุดแสนจะคลาสสิคและประทับใจ
ไม่มีดาราคนไหนที่คุ้นหน้าคุ้นตา หรืออยู่ในเกรดที่เราเรียกกันว่า “Superstar” แห่ง Hollywood แต่กลับกลายเป็นการทำให้ผู้ชมจดจ่อกับเนื้อหาอันยอดเยี่ยมที่กำลังดำเนินไป
ไม่มีฉากแอ็คชั่นสุดโหด เลือดท่วม หรือการไล่ล่ากันบนถนน แต่กลับทำให้รายละเอียดของทุกฉากทุกตอนแจ่มชัด และตรึงตาตรึงใจ
การจัดลำดับภาพ แสงและเงาล้วนไม่ใช่จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่จิตวิญญาณของเทศกาลคริสต์มาสต่างหากที่ทำให้เรื่องนี้ลอยตัวออกมาอย่างโดดเด่นจากเรื่องอื่นๆ ที่ผมได้กล่าาวถึงมาแล้วทั้งหมด
แล้วยังมีตัวเชื่อมเรื่องราวชั้นดีอย่าง Peter Falk ที่แสดงเป็น Max ผู้บันดาลให้ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นได้ ก่อนที่จะเฉลยคำตอบในตอนท้ายกับภารกิจอันยิ่งใหญ่ประจำปี
หากมีโอกาสได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมอยากให้อดทนชมตอนต้นเรื่องที่ดำเนินไปอย่างเรียบง่ายและเมื่อทุกอย่างเข้าที่ คุณเริ่มเข้าใจเรื่องราวได้เมื่อไร รับรองว่าคุณจะไม่ยอมถอนสายจากจอจนกว่าจะจบเรื่องทีเดียว
เชื่อผมเถอะครับ... ผมลองมาแล้ว

เอาล่ะครับ.. ครบทั้งสิบเรื่อง บวกกับเรื่องโบนัสที่ถือว่าเป็นสุดยอดเรื่องเยี่ยมและเป็นสุดยอด Surprise ไปด้วยพร้อมๆ กัน และทั้งๆ ที่ยังมีภาพยนตร์ดีๆ เกี่ยวกับคริสต์มาสที่เหลืออยู่ ไม่ว่าจะเป็น The Nightmare before Chirstmas ภาพยนตร์อนิเมชั่นที่กำกับโดย Tim Burton หรือ How the Grinch stole Christmas (2000) ที่นำแสดงโดย Jim Carry ที่ต้องการทำลายงานฉลองเทศกาลคริสต์มาสของชาว Who ใน Whoville แต่ผมคงต้องขอเบรคไว้ที่แค่นี้นะครับ ผมเชื่อว่าทุกคนคงมีภาพยนตร์ที่รักและชอบประจำเทศกาลอยู่แล้ว หากมีใครที่มีเรื่องอื่นๆ ที่อยากจะเล่าและแบ่งปันให้กัน ก็แนะนำมาได้ที่ท้ายบทความนี้นะครับ หรือจะส่ง Mail มาที่ editor@bareo-isyss.com ก็ได้นะครับ พวกเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมแบ่งปันความสุขกับพวกคุณทุกคน
และไม่ว่าเรื่องไหนก็ตามที่คุณมีโอกาสได้ชม อย่าลืมหาคนที่คุณรักที่สุดมานั่งชมใกล้ๆ ด้วย แล้วแบ่งปันประสพการณ์แห่งความสุขร่วมกันในเทศกาลคริสต์มาสนี้อย่างอบอุ่นและหวานชื่น...
ขอให้มีความสุขมากๆ นะครับ
Merry Christmas and Happy New Year

X-10

Back 1 | 2