Harry Potter Harry Potter Harry Potter Harry Potter
Harry Potter Harry Potter Harry Potter Harry Potter
Harry Potter Harry Potter Harry Potter Harry Potter
Harry Potter Harry Potter Harry Potter Harry Potter
 
 

 

เมื่อเด็กเป็นพระเอก

สวัสดีปีใหม่ค่ะ...เป็นยังไงบ้างคะสำหรับการท่องเที่ยวในวันหยุดยาวช่วงสิ้นปีที่ผ่านมานี้ ซึ่งปีนี้ คงต้องยอมรับว่าจุดหมายของคนส่วนใหญ่จะมุ่งขึ้นเหนือเพื่อไปหาหนาวกันเป็นแถวๆ เลยค่ะ โดยคนรอบตัวรำเพยที่รู้จักกัน ไม่ว่าจะเป็นพี่ เป็นน้อง เป็นญาติ เป็นเพื่อนหรือเป็นญาติเพื่อน เกือบจะร้อยละร้อย ไปเหนือกันเป็นแถวๆ เลยค่ะ

ไล่กันมาตั้งแต่ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน เลย น่าน ยาวกันลงมาจนถึงเพชรบูรณ์ ถือเป็นสัญญาณที่ดีนะคะ ว่าประชาชนในชาติมีความสุขกายสบายใจ ถึงขนาดไปเที่ยวฉลองกันใหญ่จนรถราติดขัดกันเป็นรถไฟสายหวานเย็น คือล่าช้าและจอดกันเป็นระยะๆ (อันนี้ ดูจากรายงานข่าว เพราะช่วงปีใหม่ปีนี้ รำเพยโดยเพื่อนทิ้ง เลยไม่มีโปรแกรมไปไหนกับเขา นั่งหนาวดูทีวีอยู่คนเดียว... -*-)

สำหรับเดือนนี้ รำเพยได้รับมอบหมายให้เขียนเกี่ยวกับเรื่องของเด็ก เพราะทุกเดือนแรกของปี เราจะมีวันเด็กกันไงคะ และวันเด็กปีนี้ ตรงกับวันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2550 ซึ่งเป็นปีหมูทองซะด้วย รำเพยก็เลยว่าจะมาเล่าเรื่องราวของภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับเด็ก โดยเน้นเรื่องที่มีเด็กๆ เป็นตัวแสดงนำ และเป็นภาพยนตร์ที่เด็กๆ ดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี ดีมั้ยคะ... ถ้าทุกคนพร้อมแล้ว ก็ล้อมวงเข้ามาฟังกันเลยค่ะ...

สำหรับภาพยนตร์ที่ตรงสเป็คเรื่องแรก คงต้องเป็นเรื่องที่ดังทะลุฟ้าอย่าง Harry Potter ล่ะค่ะ หากใครในเมืองไทยที่ไม่รู้จักนี่คงเชยน่าดูเลยเชียว เริ่มตั้งแต่ภาคแรก Harry Potter and the Sorcerer of Stone ในปี 2001 ที่น้อง Daniel Radcliffe เริ่มเล่นเป็นตอนแรก ที่ยังหน้าตาบ๊องแบ๊ว ใส่แว่นกลมๆ น่ารักชะมัด..ตามมาด้วยภาคสอง Harry Potter and the Chamber of Secret และภาคสาม Harry Potter and the Prisoner of Azkaban ล่าสุดที่พ้นจากโรงภาพยนตร์มาได้ปีกว่าๆ แล้วคือ Harry Potter and the Goblet of Fire ค่ะ

 

 
 
 
 

สำหรับปีนี้ คาดว่าจะมี Harry ออกมาทักทายอีกตามเคย โดยเป็นตอน Harry Potter and the Order of the Phoenix ที่หนุ่มน้อย Potter กลายเป็นหนุ่มซะแล้ว แถมมีบทจูบกับแฟนสาวซึ่งถือเป็น First kiss สำหรับ Potter อีกด้วย โดยในภาคนี้ จะมีคุณครูคนใหม่ที่จะมาสอนวิชาการต่อสู้แห่งศาสตร์มืด (Dark Arts ไม่รู้ว่าจะแปลว่าอะไรดี เลยเดาๆ เอานะคะ) เป็นคุณครูผู้หญิงในชุดสีชมพู!!!

อูย...ไปซะไกลเชียว รำเพยขอพากลับมาที่เดิมก่อนนะคะ สำหรับ Harry Potter นี่จัดว่าเป็นภาพยนตร์ที่เหมาะทั้งเด็กและผู้ใหญ่อย่างแท้จริง แถมยังเป็นแรงบันดาลใจชั้นเลิศให้กับผู้คนมากมาย แต่ภาคนี้ รำเพยยอมรับว่าเริ่มไม่แน่ใจว่าบทภาพยนตร์จะเหมาะสำหรับเด็กๆ อายุตั้งแต่เท่าไหร่ขึ้นไป เอาไว้มีข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อไหร่ รำเพยจะมาบอกให้ทราบอีกครั้งค่ะ

 

 
 
 

 

จากพ่อมดน้อย เราไปดูภาพยนตร์แนว Sci-Fi ที่โด่งดังเป็นตำนานอย่าง Star Wars กันดีกว่าคะ สำหรับ Star Wars นี้มีด้วยกันทั้งสิ้น 6 ภาค แต่ภาคที่มีหนูน้อย Jake Lloyd นำแสดง คือ Episode I: The Phantom Menace (เป็น Episode I แต่ทำขึ้นทีหลังในปี 1999) ซึ่งแสดงเป็น Anakin Skywalker ที่เป็นกุญแจสำคัญสำหรับตำนานของ Star Wars ทั้งหมด

แต่ก็อย่างว่าแหละคะ ภาพยนตร์สำหรับเด็กผู้ชาย แต่รำเพยเป็นเด็กผู้หญิงเลยไม่ค่อยชอบดู ดูทีไร หลับทุกที นี่ถ้าเกิดว่าเป็นหนังดังน้อยหน่อย ก็จะข้ามไปแล้วนะเนี่ย...

 
 
 
 

 

ไปต่อกับแนว Sci-fi ที่สนุกๆ อีกสักเรื่อง กับ Spy Kids ที่มีให้ชมถึง 3 ภาค เป็นเรื่องราวของ 2 ยอดสายลับ (นำแสดงโดย Antonio Banderas กับ Carla Gugino) ที่มาพบรักและแต่งงานกัน จนเกิดลูกสาวกับลูกชายคือ Carmen กับ Juni ที่ได้กลายมาเป็นสายลับเด็กเพื่อช่วยกู้โลก...

Spy Kids ทั้งสามภาคนี้ ถือว่าเป็นภาพยนตร์สำหรับเด็กจริงๆ คือดูได้สนุก ไม่มีพิษมีภัย ไม่มีการฆ่ากันให้ถึงตาย ไม่มีบทสยองขวัญ และที่สนุกที่สุด รำเพยชอบมากที่สุดคือภาคแรกค่ะ (ภาคนี้ Banderas ยังหล่ออยู่ค่ะ)

 

 
 
 

 

มาถึงแนว Fantasy บ้างนะค่ะ ภาพยนตร์ที่เด็กเล่นเป็นพระเอก และ Johny Depp เล่นเป็นตัวประกอบ..อิอิ.. ก็คือ Charlie and the Chocolate Factory งัยคะ นำแสดงโดย Freddie Highmore (คู่หูตัวน้อยของ Depp ที่เล่นคู่กันมาตั้งแต่เรื่อง Finding Neverland) พ่อหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารัก เล่นเป็นเด็กยากจนที่บังเอิญได้ตั๋วทองคำ 1 ใน 5 ใบของ Willie Wonka เพื่อเข้าไปเยี่ยมชมภายในโรงงานช็อคโกแลต Wonka อันโด่งดัง

ซึ่งภายในโรงงาน ก็มีเรื่องราวต่างๆ นาๆ ให้ผู้ชมได้ร่วมผจญภัยไปกับหนูน้อยผู้โชคดีทั้งห้า ที่มีบุคลิกแตกต่างกันออกไป และคงไม่ต้องบอกนะคะว่าคนที่โชคดีที่สุดในบรรดาห้าคนนั้นจะเป็นใคร...

 

 
 
 

 
 
 

 

Narnia หรือ The Chronicles of Narnia เรื่องราวแนว Fantasy อีกเรื่องที่สนุกสนาน เหมาะสำหรับเด็กๆ และถ้ารำเพยจำไม่ผิด รำเพยน่าจะเคยอ่านเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนยังเป็นเด็ก เป็นเรื่องราวของสี่พี่น้องที่หลงเข้าไปในตู้เสื้อผ้ามหัศจรรย์จนพบดินแดนน้ำแข็ง และมีแม่มดขาวที่ต้องการเป็นราชินีน้ำแข็งเป็นประมุข สุดท้ายสี่พี่น้องต้องไปเข้ากับราชาสิงโต เพื่อต่อสู้และเอาความเขียวขจีกลับมาสู่ป่าอีกครั้งหนึ่ง

 

 
 
 
 

มาถึงเรื่องราวที่เด็กเป็นนางเอกบ้างดีมั้ยค่ะ เริ่มต้นจากเรื่อง Fly Away Home เรื่องราวสุดแสนประทับใจของเด็กหญิงอายุ 13 ปีที่ไปเก็บไข่ของห่านป่ามาฟักจนเป็นตัว และลูกห่านป่าทุกตัวก็เข้าใจว่าเธอเป็นแม่ โดยเรื่องราวก็คงจะดำเนินต่อไปอย่างเรียบง่าย หากไม่ย่างเข้าฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงที่นกทั้งหมดจะอพยพไปหาที่อยู่ที่อุ่นกว่า ยกเว้นแต่ฝูงห่านป่าของเธอที่ยังคงทนหนาวอยู่ที่บ้าน จนในที่สุด แม่หนู Amy (นำแสดงโดย Anna Parquin ตอนนี้โตเป็นสาว เล่นเป็นนางเอกหลายเรื่องเชียวค่ะ) ต้องขอให้พ่อของเธอ สร้างเครื่องบินเพื่อให้เธอบินนำฝูงห่านป่าให้อพยพตามห่านตัวอื่นๆ ไปในที่สุด

ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นในปี 1996 และเป็นหนึ่งในเรื่องราวแสนประทับใจของรำเพย ยิ่งตอนนางเอกตัวน้อยนำเครื่องบินบินร่อนผ่านมหานคร และมีฝูงชนคอยต้อนรับนี่ น่าประทับใจจริงๆ ค่ะ หากต้องการสอนให้เด็กๆ รู้จักรักสัตว์ เรื่องนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังเลยค่ะ

 
 
 
 

 

ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นในปี 1996 และเป็นหนึ่งในเรื่องราวแสนประทับใจของรำเพย ยิ่งตอนนางเอกตัวน้อยนำเครื่องบินบินร่อนผ่านมหานคร และมีฝูงชนคอยต้อนรับนี่ น่าประทับใจจริงๆ ค่ะ หากต้องการสอนให้เด็กๆ รู้จักรักสัตว์ เรื่องนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังเลยค่ะ

 

 
 
 
 

A Little Princess ภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นใหม่จากเรื่องเดิม The Little Princess ที่นำแสดงโดย Shirley Temple เป็นเรื่องราวของเด็กหญิง Sara Crewe ที่ได้ไปใช้ชีวิตที่แสนอัศจรรย์ในอินเดีย ก่อนที่จะถูกส่งกลับมาเข้าโรงเรียนประจำในนิวยอร์ค เนื่องจากพ่อผู้ที่รักลูกสาวมาก ต้องไปปฎิบัติภารกิจทางทหาร และเมื่อข่าวการตายของพ่อของเธอมาถึง ทำให้เธอต้องสูญเสียทุกสิ่งที่เคยมี รวมทั้งสถานะของการเป็นนักเรียนอีกด้วย

A Little Princess เป็นภาพยนตร์ที่แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งจินตนาการ ที่ Sara (Liesels Matthews แสดง และได้แสดงอีกเรื่องใน Air Force One คู่กับ Harrison Ford) นำมาใช้เพื่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ และในที่สุด เธอก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า “ในสายตาของพ่อ เด็กหญิงทุกคนคือเจ้าหญิงตัวน้อย”


 

 
 
 

 

หากคุณไม่เคยเห็นเรื่องที่ส่งให้ Lindsay Lohan กลายเป็นดาราดัง ลองมาชมภาพยนตร์เรื่องนี้ดูสิคะ The Parent Trap เรื่องราวของ 2 เด็กหญิงฝาแฝด ที่ถูกพรากตัวออกจากกันตั้งแต่ตอนเกิด โดยคนนึงต้องอยู่กับพ่อที่ไร่องุ่นสุดสวยใน Napa Valley ขณะที่อีกคนหนึ่งต้องไปอยู่กับแม่ในฐานะ Fashion Designer สาวที่โด่งดังในกรุงลอนดอน

เรื่องราวจงใจให้บังเอิญที่สองสาวน้อยต้องมาเข้าค่ายฤดูร้อนที่เดียวกัน ก่อนที่ความจริงจะเปิดเผยออกมา เมื่อทั้งคู่ตกลงที่จะแลกรูปของพ่อและแม่กันดู และในที่สุดทั้งคู่จึงตัดสินใจที่จะสลับตัวกัน เพื่อจะได้ไปรู้จักกับผู้ให้กำเนิดอีกฝ่ายหนึ่งให้ครบถ้วน

 
 
 
 

 

ความสนุกสนานพร้อมความประทับใจของความซนและแก่นของฝาแฝด บวกกับมาดเท่ที่ดูดีของหนุ่มใหญ่เจ้าเสน่ห์อย่าง Dennis Quaid ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้จบลงอย่างมีความสุขของครอบครัวโดยถ้วนหน้ากันค่ะ

เรื่องสุดท้ายแล้วดีกว่า สำหรับเรื่องที่ประทับใจรำเพยมากที่สุด โดยเก็บไว้เป็นเรื่องสุดท้าย ก็ของดีต้องเอาไว้ท้ายสุดไงล่ะคะ... ซึ่งคงไม่มีใครลืมเรื่อง “แฟนฉัน” สุดยอดภาพยนตร์ที่ทำให้รำเพยยอมซื้อตั๋วภาพยนตร์เข้าไปดูหนังไทยได้เป็นเรื่องแรกในรอบสิบปีค่ะ กับเจี๊ยบและน้อยหน่า พร้อมทั้งแกงค์เด็กข้างบ้าน เอ๊ย แกงค์เด็กเมืองเพชรอย่าง แจ็ค บอย เป็นต้น แถมยังมีการย้อนอดีตให้รำเพยได้ระลึกถึงตอนเป็นเด็กไว้ผมเปียที่โรงเรียน กับบรรยากาศเก่าๆ ที่กลับมาได้อย่างสมจริง

 

 
 
   
 
 

 

มิตรภาพในวัยเด็กที่สนุกสนาน และผูกพันจนยากจะลืมเลือนแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานนับสิบปี เป็นพล็อตเรื่องแสนประทับใจให้ภาพยนตร์ที่เดินเรื่องอย่างเรียบง่าย รำเพยดูแล้ว เหมือนกับว่าเรื่องนี้มีส่วนผสมที่พอดี พอดี ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป ไม่ต้องปรุงแต่งให้เสียรสชาติ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครที่ไหน แต่ความทรงจำที่เปี่ยมสุขก็คงมีซ่อนอยู่ในใจของทุกผู้คน...

รำเพย รำพัน

ปล. สำหรับวันเด็กที่กำลังจะมาถึงของปีนี้ รำเพยขอให้คุณพระศรีรัตนตรัยจงดลบันดาลให้บ้านเมืองของเราสงบสุข ไม่มีภัยอันตรายใดๆ มากล้ำกลายเด็กๆ ที่จะออกไปสนุกกันในวันของพวกเขา และขอวิงวอนให้พวกมือเปื้อนเลือดทั้งหลาย จงหยุดกระทำการใดๆ ที่จะใช้ข่าวโศกนาฏกรรมของเด็กเป็นเครื่องมือในการแสวงหาอำนาจเถิดค่ะ...

และหากท่านผู้ปกครองทั้งหลายที่ยังไม่แน่ใจในความปลอดภัยในการพาบุตรหลานของท่านออกไปร่วมงานในวันเด็กปีนี้ รำเพยก็อยากจะแนะนำให้พาเด็กๆ ไปทำความเคารพญาติผู้ใหญ่ และนั่งเลือกภาพยนตร์เด็กๆ ดีๆ มานั่งดูกันเป็นครอบครัวแทนการออกไปข้างนอก น่าจะดีกว่านะคะ...

 

 
 

 

 

แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
ลงชื่อ:
ข้อความ :
 
Home | About Bareo | News & Events | Art of Design | Decor Guide | The Gallery | Living Young | Talk to Editor | Links
 
บริษัท บาริโอ จำกัด
50 ซอยบรมราชชนนี 4 ถนนบรมราชชนนี เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700 Tel. 66 2881 8536-7 Fax. 66 2881 8538
house servic, decoration design home architect architecture interior design designer homeplan residential furniture family decorat building build planning cost news information structure arch drawing apartment idea bangkok develop foreman เฟอร์นิเจอร์ การซ่อมแซมบ้าน วัสดุแต่งบ้าน ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องอาหาร ออกแบบ ตกแต่งภายใน ออกแบบตกแต่งภายใน เฟอร์นิเจอร์ บ้านสวย มัณฑนากร สถาปัตย์ ตกแต่ง บารีโอ บริการ ปรึกษา รับสั่งผลิตเฟอร์นิเจอร์ตามแบบ รับเหมาตกแต่ภายใน วรวุฒิ ธรรมกุลางกูร มยุรี ธรรมกุลางกูร