1. ของที่ต้องเก็บเพื่อโชว์ (Show Items)
ของเหล่านี้ มักจะเป็นของที่ท่านถูกใจและซื้อมาเพื่อสะสม หรือซื้อมาเพื่อแสดงให้แขกได้ชื่นชม รวมไปถึง ความทรงจำ ของท่าน ที่อาจจะมาในรูปของภาพถ่าย ภาพเขียน หรือเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวท่านและครอบครัว หรืออาจจะเป็นหนังสือประเภทต่างๆ ซึ่งโดยมากของเหล่านี้ เราจะจัดเก็บใน ตู้โชว์ หรือชั้นที่วางในห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่นเป็นหลัก และเราจะให้อยู่ในกลุ่ม เก็บเพื่อโชว์ ครับ
2. ของที่เก็บเพื่อใช้งาน (Daily-use Items)
ของเหล่านี้ จะถูกเก็บไว้ในที่ๆ มิดชิดกว่าของแบบแรก เพราะมักจะเป็นของใช้ประจำวันเสียเป็นส่วนใหญ่ จำพวกเสื้อผ้า เครื่องใช้จิปาถะ ตลอดจนแผ่น CD, DVD จำนวนมากมาย เป็นต้น โดยของเหล่านี้ จะเป็นของที่เรามักจะไม่โชว์ให้ใครเห็น (ไม่ว่าจะเพื่อความเป็นส่วนตัว เช่นเสื้อผ้า หรือเพื่อไม่ให้รกหูรกตา เช่น CD) โดยอาจจะเก็บไว้ค่อนข้างมิดชิด แต่ก็จำเป็นต้องเข้าถึงได้ง่าย (Easy-to-Access) เพราะต้องใช้งานเป็นประจำทุกวัน โดยของเหล่านี้ มักจะมี ตู้ ชนิดต่างๆ ทำหน้าที่ในการเก็บครับ
3. ของที่เก็บสำรองไว้ใช้งาน (Live Stock)
หมายถึงของที่เราจัดเก็บเพื่อสำรองไว้ใช้งานโดยมีกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน เช่น ผ้าขนหนูสำรองที่ใช้เปลี่ยนทุก 3 วัน ผ้าปูเตียงสำรองที่เปลี่ยนทุกสัปดาห์ ชุดจานชามที่เปลี่ยนใช้ทุกเทศกาล หรือแม้กระทั่ง กระดาษชำระที่นำมาทดแทนเมื่อม้วนเก่าหมดไป เป็นต้น โดยสิ่งของเหล่านี้ จำเป็นต้องเก็บไว้ค่อนข้างมิดชิด (เพราะมักจะรก) แต่ก็จะต้องเข้าถึงได้ง่ายเช่นเดียวกัน (แม้ว่าจะไม่ง่ายเท่ากับของประเภทที่ 2) เราจึงมักจะมีเก็บของเหล่านี้ไว้ในห้องเก็บของ หรืออาจจะเก็บในตู้ขนาดใหญ่ในห้องครัวก็ได้
4. ของที่เก็บสะสมไว้เผื่ออนาคต (Dead Stock)
หมายถึงของที่เราซื้อมาเก็บสะสมไว้สำหรับใช้ในอนาคต โดยไม่มีกำหนดเวลาใช้ที่ตายตัวแน่นอน ซึ่งของเหล่านี้ อาจจะหมายรวมถึงของสะสมขนาดใหญ่ ที่เราจะเลือกโชว์ตามโอกาส เช่น ภาพเขียนหรือ ประติมากรรม รวมถึงชุดแฟนซีต่างๆ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังจะรวมถึงกระเบื้องหลังคาสำรอง, กระเบื้องพื้น, Wallpaper ม้วนสำรองที่เก็บไว้เพื่อใช้ในกรณีซ่อมบ้าน ซึ่งบางบ้านอาจจะมีของประเภทนี้ แต่บางบ้านอาจจะไม่มีก็ได้ แต่โดยมากของเหล่านี้ เรามักจะเก็บไว้ในห้องเก็บของใต้หลังคา หรือห้องเก็บของนอกบ้าน
|