บ้านแสนรักต่อให้มีการออกแบบที่สวยงามเริ่ดหรูมากเพียงใดก็ตาม แต่หากขาด Storage ไว้เก็บของหลากหลายชนิดที่เราต้องใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวันแล้ว บ้านของคุณก็จะกลายสภาพเป็นรกรุงรังได้ในไม่ช้าค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้องครัวแสนโปรดของคุณ ลองจินตนาการดูสิค่ะว่า อุตส่าห์ลงทุนออกแบบตกแต่งเสียทั้งเวลาเสียทั้งเงิน แต่จะหาที่เก็บหม้อไห จานชามที่เหมาะสมแทบจะไม่ได้เลย ภาพในครัวของคุณจะออกมาน่าเกลียดสักแค่ไหน

           นี่แหละค่ะ คือปัญหาที่ดีไซน์เนอร์จะต้องแก้ไขให้กับคุณ ถ้าเป็นดีไซน์เนอร์ที่มากด้วยประสบการณ์แล้ว (เซียนนั่นเอง) จะไม่ละเลยและมองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ไปเลยค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นสิ่งของชิ้นเล็ก ชิ้นใหญ่ขนาดใดก็ตาม ก็จะต้องมี Storage พิเศษสำหรับของสิ่งนั้นเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและดูสวยงามอยู่เสมอค่ะ

           ใน Issue นี้ขอนำเอาตัวอย่างการออกแบบ Storage ในห้องครัวมาฝากคุณๆ กันค่ะ เพราะสมัยนี้อุปกรณ์ครัวมีมากมายเหลือเกินค่ะ อาหารแต่ละประเภทก็มีอุปกรณ์ที่แตกต่างกันไป หากคุณมีการออกแบบ Storage ที่ดีแล้ว ทำให้ช่วงเวลาที่คุณเข้ามาทำกิจกรรมภายในห้องครัว จะให้ความรู้สึกที่ดี รู้สึกว่าการใช้งานเต็มไปด้วยประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ (ขนาดนั้นเลย)

           ขั้นแรกของการออกแบบ Storage คุณจะต้องเริ่มต้นจากการทำรายการสิ่งของทุกอย่างไม่ว่าจะชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่คุณต้องการจะเก็บไว้ในห้องครัวค่ะ ให้คิดไปจนถึงนิสัยการซื้อของใช้เข้าบ้านของคุณด้วยนะค่ะ ว่ามีจำนวนมากน้อยแค่ไหน บ่อยครั้งเพียงไร และที่สำคัญคือคุณชอบทำอาหารประเภทใดเป็นพิเศษ มันจำเป็นอย่างไรนะเหรอค่ะ? เรามีคำตอบให้คุณค่ะ

          หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบในการทำขนมอบเป็นพิเศษ แน่ใจได้เลยค่ะว่าคุณต้องมีอุปกรณ์พิเศษเต็มไปหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นถาดอบขนม ถ้วยตวงแป้ง เครื่องนวดแป้ง และอื่นๆ อีกมากมาย และคุณก็ต้องหาที่เก็บของพวกนี้ไว้รวมกัน ไม่ให้กระจัดกระจายเพื่อความสะดวกในการหยิบใช้งาน และก็ควรอยู่ใกล้กับส่วนเตรียมอาหารและเตาอบด้วยค่ะ คุณอาจต้องเสียสละช่องในตู้ Cupboard สักสองสามช่องไว้สำหรับเก็บอุปกรณ์เหล่านี้ รวมทั้งออกแบบให้มีขนาดพิเศษเพื่อรับมือกับถาดอบขนมขนาดใหญ่ รวมทั้งเพิ่มชั้นที่สามารถดึงออกมาได้สำหรับวางเครื่องปรุง ส่วนผสมอื่นๆ ค่ะ

          การออกแบบ Storage นั้นคุณต้องให้แน่ใจว่าสิ่งของที่คุณใช้งานบ่อยที่สุดจะต้องอยู่ใกล้มือของคุณให้คุณหยิบฉวยได้ง่ายที่สุด ความสูงที่เหมาะสมในการเก็บวางสิ่งของที่มีความถี่ในการใช้งานสูงควรอยู่ระดับเอวถึงหัวไหล่ของคุณ เพราะว่าในช่วงระดับนั้นง่ายต่อการหยิบจับและยังช่วยป้องกันไม่ให้คุณต้องก้มตัวหรือยืดตัวบ่อยๆ ค่ะ (เพื่อสุขภาพ) สำหรับสิ่งของที่นานๆ คุณจะใช้สักครั้งควรเก็บไว้ให้ไกลหรือสูงที่สุดค่ะ ส่วนของที่มีน้ำหนักเบาก็ควรเก็บไว้ชั้นบนของตู้ Cupboard และของที่มีน้ำหนักมากเก็บไว้ชั้นล่างเป็นดีที่สุดค่ะ

          รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญนะค่ะ คุณต้องใส่ใจซักนิด เพราะนอกจากห้องครัวของคุณจะมีรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยสดงดงามแล้ว หากมีการใช้งาน การหยิบจับที่สะดวกสบาย ถือเป็นสิ่งที่จะเพิ่มเติมความสมบูรณ์ให้กับห้องครัวของคุณได้มากทีเดียวค่ะ

หัวใจของการออกแบบ Storage ในห้องครัว

• เริ่มต้นด้วยการทำรายการสิ่งของที่ต้องการเก็บไว้ในครัว และตัดสินใจว่าชิ้นไหนเป็นชิ้นโปรดที่คุณต้องการจะนำเอาออกมาโชว์ค่ะ
  
  
• ออกแบบ Unit ให้มีขนาดเหมาะสมที่จะสามารถใส่อุปกรณ์พิเศษของคุณได้ (อุปกรณ์อบขนม / ทำ Pasta ฯลฯ)
  
  
• ห้องครัวที่มีการออกแบบตกแต่งอย่างเต็มรูปแบบเหมาะสำหรับเจ้าของบ้านที่มีงบประมาณเพียงพอ
  
  
• Unit แบบ all-in-one เหมาะสำหรับเจ้าของบ้านไม่ได้มีกิจกรรมในห้องครัวบ่อยๆ
  
  
• อย่ามองข้ามในรายละเอียดปลีกย่อย หาข้อมูลเพิ่มเติม รับรองว่าห้องครัวของคุณจะสมบูรณ์แบบที่สุดค่ะ

-- Mammos --