ถ้าถามว่ากาแฟมีประโยชน์หรือมีโทษมากกว่ากันนั้น เป็นคำถามที่สามารถตอบได้เลยว่ากาแฟไม่ได้มีประโยชน์และไม่ได้มีโทษ หากแต่สารคาเฟอีนและนิโคตินที่เป็นส่วนประกอบในกาแฟต่างหากที่ทำให้มีการถกเถียงกันมายาวนานว่าการดื่มกาแฟนั้น ดี – ไม่ดี เดียร์หยิบข้อควรระวังของการดื่มกาแฟมาฝาก 10 ข้อค่ะ ไม่แน่ใจว่าจะเป็นการหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองมากไปหรือเปล่าค่ะ

          1. จากความเชื่อที่ว่าคาเฟอีนเป็นสารเสพติดนั้น เรามาทำความเข้าใจก่อนว่า “สารเสพติด” เป็นสารที่ทำให้ห้ผู้เสพ เสพแล้วอยากเสพมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จะเกิดอาการอยากและลงแดงได้ ถ้าไม่ได้เสพ ผู้เสพจะต้องพยายามทำทุกทางเพื่อให้ได้เสพ คาเฟอีนในกาแฟมีฤทธิ์เป็นสารกระตุ้นอ่อนๆ ซึ่งจะไปกระตุ้นประสาทส่วนกลาง มีผลทำให้มีการสูบฉีดของกล้ามเนื้อหัวใจ ระบบการหายใจ การขับปัสสาวะ เมื่อเราดื่มกาแฟในช่วงเช้าจึงช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า

          2. ในกาแฟที่เข้มข้นช่วยให้ออกไซด์แตกตัว เป็นการกระตุ้นการเผาผลาญอาหารในร่างกาย และเป็นการลดภาวะความเสี่ยงของโรคมะเร็งลง

          3. การแฟมีส่วนทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าปกติ 3-4% ทำให้หลายคนเข้าใจว่าช่วยลดความอ้านได้

          4. การดื่มกาแฟจึงควรดื่มในอัตราที่พอเหมาะ และไม่ควรเกินวันละ 3 แก้ว จะเรียกว่าการดื่มกาแฟมีผลต่อร่างกายของคนแต่ละคนแตกต่างกันไป เรียกได้ว่า เคสบายเคสค่ะ เพราะบางคนดื่มกาแฟแล้วรู้สึกใจสั่น ในขณะที่บางคนดื่มแล้วรู่สึกสดชื่น

         5. อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการฟันธงลงไปว่าคาเฟอีนมีโทษ แต่ถ้าเลือกได้ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงค่ะ แล้วถ้ามันติด ไม่ดื่มแล้วรู้สึกขาดๆๆ ไปล่ะก็อย่าลืมดื่มนม เพื่อเป็นการชดเชยกับแคลเซียมที่ถูกขับออกมาด้วยค่ะ

         6. ในกาแฟมีสารนิโคติน แต่ไม่ใช่ชนิดเดียวกับในบุหรี่ แต่เป็นวิตามิน B รวมชนิดหนึ่ง ที่ช่วยลดคอเรสเตอรอลในเส้นเลือด จึงทำให้ช่วยป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือดแข็งตัว

         7. คาเฟอีนมีส่วนช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้อาการปวดบรรเทาลง ได้ผลเช่นเดียวกับยาแก้ปวด

         8. การดื่มกาแฟจะทำให้แคลเซียมถูกดึงจากกระดูก และถูกขับออกทางปัสสาวะ แต่หากดื่มกาแฟไม่เกินวันละ 2 แก้วละก็ไม่น่าเป็นห่วงค่ะ

         9. การดื่มกาแฟหลังอาหารมีส่วนช่วยในการสร้างน้ำย่อย และเมื่อดื่มกาแฟหลังอาหารจึงเป็นการช่วยย่อยอาหารค่ะ แต่ถ้าคุณเป็นโรคกระเพาะ ก็จะมีผลทำให้น้ำย่อยออกมากเกินไปเช่นกันค่ะ

       10. มีผลการวิจัยพบว่าคาเฟอีนสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งที่ลำไส้ใหญ่ และป้องกันการตกตะกอนนิ่วในไตได้

         ขอทิ้งท้ายด้วยภาษากาแฟที่คอกาแฟเค้ามักจะพูดถึงกันค่ะ เผื่อว่าใครจิบกาแฟ เราจิบด้วย เค้าวิจารณ์ เราฟัง

Body                 ใช้กล่าวถึง น้ำหนักของรสชาติของกาแฟที่หลงเหลืออยู่บนลิ้น เมื่อจิบ ไม่สามารถจับเป็นรูปธรรมได้ค่ะ
Aroma               หมายถึงกลิ่นหอมที่โชยชายมาเมื่อชงกาแฟค่ะ
Bright                หมายถึงรสชาติกาแฟที่มีความสดชื่นมีชีวิตชีวา
Acidity               รสชาติความสดชื่นมีชีวิตชีวาของกาแฟ
Mild                  หมายถึงรสชาติของกาแฟที่ให้รสชาติอ่อนนุ่ม ไม่รุนแรงจนเกินไป
Smooth             จะรู้สึกได้เมื่อจิบกาแฟค่ะ ว่ารู้สึกสดชื่น น้ำหนักปานกลาง
Spicy                 ชื่อก็บอกถึงความเผ็ดร้อนแล้วค่ะ หมายถึงกลิ่นที่ได้ความหอมและรสชาติของกาแฟที่มีกลิ่นเครื่องเทศ

                  คราวนี้ถ้ามีคนพูดว่า

“ กาแฟบราซิลแก้วนี้รสชาติ mild
    body หนัก กลิ่น spicy ”  เราก็จะอ๋อ....ค่ะ

-- เดียร์ --

ปล. ถ้าจะดื่มกาแฟแบบปลอดภัยไว้ก่อนละก็ แนะนำให้ดื่มกาแฟที่มีการสกัดเอาสารคาเฟอีนออก หรือที่เรียกว่า Decaffeinated Coffee