ตอน ห้องรับแขก สไตล์ (ไหนล่ะ) ที่เหมาะกับคุณ

          เมื่อคิดจะแต่งบ้าน ปัญหาที่ปวดหัวตามคือ “สไตล์”  เป็นคำถามแรกที่ที่ มักโดนถามว่า คุณชอบสไตล์ไหน อยากแต่งห้องสไตล์ แหม..ไอ้เราก็ไม่รู้ด้วยสิว่าว่าแบบไหนดี ขอตอบในใจว่า “ถ้ารู้จะมาปรึกษาหรอ” ฮ่า... นู๋นิดหน่อยก็เข้าจายยยย วันนี้ เรามาเปิดอกคุยกัน ถามกันตรงๆๆ และขอคำตอบที่มาจากใจจริงๆ ด้วย ว่า...

          คุณเป็นคนที่บุคคลิกแบบไหน ต้องการอะไรบ้างจากการแต่งห้อง และ งบประมาณที่มีอยู่นั้นเท่าไร ลำดับแรกนะคะ สำรวจตัวเองค่ะว่า …คุณฝันอยากจะมีห้องสักห้องที่เรียบๆ ง่ายๆ สไตล์ minimal แต่การแต่งห้องแบบนี้อาจไม่เหมะกับครอบครัวที่เพิ่งเริ่มต้นของคุณ หรือบ้านที่มีเด็กเล็กๆ  หรือ หากคุณคือคนที่ทำงาน freelance หรือทำธุรกิจส่วนตัว บ้านคือที่ที่คุณใช้รับรองแขก บ้านของคุณก็ต้องช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้กับคุณด้วย หรือ คุณเป็นศิลปินบ้านของคุณคือที่ที่แสดงผลงานของคุณ หรือเป็นที่ที่สร้างแรงบรรดาลใจในการรังสรรผลงานศิลปะให้กับคุณ หรือ  หากคุณอยากซื้องานแอนทีคสวยๆ มาใส่ในห้องของคุณแต่งบประมาณที่มีอยู่ไม่พอ หรือ คุณคือคนที่ชื่นชอบการสังสรร และงานปาร์ตี้ บ้านของคุณก็ต้องเอื้ออำนวยให้คุณสามารถรับรองเพื่อนๆ ได้ หรือ หรือ หรือ...

           ดังนั้น “เมื่อคุณเริ่มออกแบบห้องรับแขกของคุณให้คุณแน่ใจว่ามันเข้ากับตัวคุณ ไม่ใช่แค่ลักษณะหรือสไตล์ที่ดูสวย และชอบเท่านั้น แต่การแต่งห้องควรที่จะให้เข้ากับวิถีชีวิตของคุณด้วย”

           สไตล์ที่จะกล่าวถึงในวันนี้ เป็นคำตอบที่เคยค้างคาใจของนิดหน่อยว่า “ถ้าการแต่งห้องแบ่งตามบุคลิกของเราล่ะ” มันจะได้สไตล์แบบไหน...

Smart Style

           หนุ่มซ่า สาวเฟี้ยว Smart Style เป็นสไตล์ที่เหมาะกับคุณมากทีเดียว เพราะคุณ คือ คนที่ไม่ชอบหยุดนิ่ง เป็นคนที่สายตาจะสอดส่ายมองมองหาสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ ทิศทางแนวโน้ม หรือกระแสที่กำลังมาแรง ตาม Trend ตามสมัย หรือนำสมัยตลอดเวลา Smart Style คือ คำตอบของคุณเลยล่ะ

           และด้วยความที่คุณเป็นคนมั่นใจในตัวเอง การหยิบจับคู่สีต่างๆ ในการแต่งตัวก็จะฉายออกมาในให้การจับคู่สี วัสดุ หรือ Texture ต่างๆ ในการเลือกใช้ในการแต่งห้องของคุณด้วย ซึ่งรวมไปถึงการเลือกรูปทรงของเฟอร์นิเจอร์ที่แปลกตา นำมาจัดวาง เพราะคุณเป็นคนที่สามารถที่จะใช้สีธรรมดาๆ หรือสีตามธรรมชาติ แต่สอดแทรกสีที่มีเป็นประกาย หรือสีสะท้อนแสงได้อย่างมั่นใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ห้องของคุณดูโดดเด่นเตะตา และโฉบเฉี่ยวทันสมัยขึ้นมาทันใด

           ด้วยรสนิยมที่ดีจะแสดงออกให้เห็นว่าคุณจะสามารถส่งเสริมการจัดไฟ สี Material ที่ร่าเริง การตื่นตระลึงหรือ แม้กระทั่งการใช้ของที่ดูเหมือนจะธรรมดา และดาดเดื่อน แต่พอใส่เข้าไปในห้อง เป็นการเติมเต็ม เป็นการจับคู่ได้อย่างลงตัว

           คุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ของโรงแรมแบบ New Chic ซึ่งให้ทั้งความสะดวกสบายบวกเท่ห์ แต่คุณก็ยังชื่นชอบที่จะให้โรงแรม New Chic นี้มีความสะดวกสะบาย ใส่ความมันหน่อยๆ อลังการเล็กๆ แต่โดยรวมก็ยังเป็นแบบที่ดูมีสไตล์แบบเท่ห์ๆ

Key หลักๆ ของการออกแบบ

1. เส้นสายที่เรียบง่ายสะอาดตา
2. ของประดับที่ไม่รกรุงรัง
3. มีการใช้ชิ้นงาน Classic บ้าง
4. วัสดุที่เลือกใช้ คือ การกรุไม้ กระจก โลหะ ผ้าลินิน หรือผ้าสักหลาดสีอ่อน และผ้าฝ้าย

Casual Style

           ถ้าคุณเป็นสาวขาลุย หนุ่มมาดเซอ ชื่นชอบการใส่กางเกงยีน รองเท้า กีฬา มากกว่าชุดสูทสุดเนี๊ยบและรองเท้าหนัง ห้องรับแขกในฝันของคุณ คงจะเป็นห้องที่แสนสบายๆ ไม่ดูเป็นทางการ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่เข้ามา แต่อย่างไรก็ดีการใส่ยีนส์ที่ไม่เข้าชุด หรือใส่รองเท้ากีฬาแบบผิดที่ผิดทางก็อาจทำลายความน่าเชื่อถือของคุณได้

           เช่นกันกับการแต่งบ้าน แบบลำลอง สบายๆ ให้ดูผ่อนคลาย และพักผ่อน ไม่ได้หมายถึงจะทำอะไรก็ได้ เพียงแต่คุณจะไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ style ที่เข้ากับแฟชั่น หรือเลือกเฟอร์นิเจอร์คุณภาพสูงก็ได้ คุณสามารถเลือกแต่งบ้านด้วยสิ่งของที่คุณรู้สึกชอบและ ประทับใจ เช่น ผ้าฝ้ายทอมือที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวล หรือของสำเร็จรูปที่ดูเนี๊ยบๆ ก็นำมาใช้ได้ เช่นเดียวกับการจับคู่กับเสื้อที่ดูดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป และผลที่ได้รับ คือห้องที่คุณสามารถใช้ได้อย่างสบายใจและผ่อนคลาย และมีบรรยากาศเป็นกันเอง

Key หลักๆ ของการออกแบบ

1. ผ้ายีนส์ ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน  ผ้าขนแกะ หรือผ้าทอมือลายต่างๆ
2. ความสะดวกสบายและอบอุ่น
3. Furniture ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน
4. จัดแปลนแบบสบายๆ
5. เน้นสะดวก ไม่แพง

Creative Style ( สร้างสรรค์ )

           ศิลปินก็เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลง และแฟชั่น ในภาพของ Interior ศิลปินมักจะปรับตัวตามกระแสวัฒนธรรม Creative Style เป็นสไตล์ที่นำเอาเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งแต่เรื่องของเสื้อผ้า และการตกแต่งภายใน มาผสมผสานเข้าด้วยกันภายใต้คำจำกัดความของคำว่า “ ศิลปะ และ งานออกแบบ”

           บรรยากาศที่ได้จะประกอบไปด้วยชิ้นงานที่มีประวัติความเป็นมา และเกี่ยวข้องกับยุคใดยุคหนึ่งโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของสีสัน ลวดลาย เทคนิคการตกแต่งก็ตาม และบางครั้งภายในห้องอาจจะมีผลงานที่น่าภาคภูมิใจของเจ้าของประปนอยู่ในชิ้นงานที่ตั้งอวดโฉมในห้อง งานตกแต่งก็จะเป็นการผสม style ที่แตกต่างกันไป หรือชิ้นงานที่ต่างกัน ซึ่งอาจจะทำให้ห้องดูรก วุ่นวายแต่ก็มีเสน่ห์อยู่ในที เป็นห้องมี่จะแสดงออกถึงความคิดสร้างสรร และการนำเสนอรูปแบบของการผสมผสานระหว่างรูปทรงและ style

           คุณสามารถเลือกใช้ของประดับตกแต่งได้จากหลากหลายที่มา สามารถเลือกผสมระหว่างของเก่าและของใหม่ หรือแจกันราคาแพงวางคู่กันกับพลาสติกราคาถูก หรืองานชิ้นเอกของศิลปินระดับโลกกับของลดราคา เหล่านี้ล้านสามารถวางคู่กันได้ หากคุณชื่นชอบแล้วละก็ เพราะห้องรับแขกของคุณก็จะเป็นที่ที่คุณนำเอาของที่คุณรัก หรือของที่เป็นแรงบรรดาลใจมาวางไว้ในห้องได้ โดยไม่ขัดเขิน

Key หลักๆ ของการออกแบบ

1. คู่สี
2. ของสะสม
3. ลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์
4. ของเก่าของใหม่ หรือของย้อนยุคก็ได้
5. ห้องของคุณ คือ gallery chic ส่วนตัวที่จะเก็บไว้อวดแขกผู้มาเยือน

Peace lover

           แม้นว่าโดยส่วนตัวคุณชอบชีวิตที่เรียบง่าย และเงียบสงบ แต่ในความเป็นจริงงานและหน้าที่ของคุณอาจทำให้การดำเนินชีวิตของคุณต้องเร่งรีบและวุ่ยวายอยู่ตลอดเวลา การแต่งห้องของคุณให้รู้สึกผ่อนคลาย ไห้รู้สึกได้พักผ่อน และเป็นที่ที่คุณสามารถเติมพลังให้กับคุณได้ก็เรียกได้ว่าวิเศษมากแล้วล่ะค่ะ

           การแต่งห้องของคุณอาจให้หลักการของ zen เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดแต่ง คือ การดึงเอาความกลมกลืนกับธรรมชาติมาประยุกต์ใช้ตามประโยชน์ใช้สอย แต่ก็ยังคงเน้นความสวยงามและความลงตัว นอกจากนี้คุณยังสามารถนำเอาหลักการนี้ไปปรับใช้กับสิ่งต่างๆ ที่เข้ามาวุ่นวายกับชีวิตคุณได้อีกด้วย

           ห้องของคุณก็จะป็นมุมสงบของคุณเช่นกัน ที่จะทำให้คุณสามารถที่จะดื่มด่ำกับความงามที่เรียบง่ายบนเก้าอี้ เก๋ๆ แต่นั่งสบาย กับหนังสือดีดีสักเล่มหนึ่งแวดล้อมไปด้วยของประดับที่คุณชื่นชอบ

Key หลักๆ ของการออกแบบ

1. สีธรรมชาติ และวัสดุธรรมชาติ
2. ลวดลายที่นุ่มๆ ของผ้า
3. หลักการของ zen และธรรมชาติ
4. การควบคุมเสียง
5. มุมสงบ หรือที่ที่เงียบสงบ
   

Activist style

           นักกิจกรรมมักจะไม่ค่อยนั่งนิ่งๆและมักจะใช้เวลาไปกันกิจกรรมที่หลากหลายมากกว่าพักผ่อน บ้านของนักกิจกรรมไม่ว่าอะไรก็สำคัญไปหมด ไม่ว่าจะเป็นตู้เก็บของ ชั้นวางของ โต๊ะทำงาน computer ซึ่งของเหล่านี้ล้วนสำคัญพอๆ กับ โซฟานุ่มๆ

           การเป็นนักกิจกรรมไม่ได้เกิดขึ้นเอง แต่เป็นการสะสมจากชีวิตในครอบครัว โดยการสอน การแนะนำตั้งแต่เด็กไม่ว่าจะเป็นการจัดตารางเรียนที่แน่นเอียด

           หรือคุณเป็นคนที่ชอบการเข้าสังคมเป็นชีวิตจิตใจแล้วล่ะก็ การจัดบ้านรับรองมิตรสหาย และเพื่อนๆ หรือเพื่อสามารถใช้เป็นที่ที่นัดประชุมงาน หรือแม้กระทั่งการจัดปาร์ตี้ในโอกาสต่างๆ ก็ตาม ดังนั้นการวางแปลนบ้านจึงควรจัดวางให้มีความยืดหยุ่น และสามารถใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์ให้สูงสุด

           การให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้ล้านเป็นเรื่องที่ช่วยให้ความว่ยวายต่างๆ ของนักกิจกรรมอยู่ภายใต้การควบคุมได้เสมอ

Key หลักๆ ของการออกแบบ

1. เน้นที่ประสิทธิภาพสูงสุดของการใช้งาน
2. เลือกใช้วัสดุที่ทนทานและง่ายต่อการดูแล
3. เข้าถึงง่าย
4. ประโยชน์ใช้สอยเต็มรูปแบบ

วันนี้ คำถามที่เคยติดค้างอยู่ในใจคงมีคำตอบกันบ้างแล้วนะคะ