| |
ห้อง Living ที่ต้องมีกันทุกบ้าน คงจะมีคำถามเกิดขึ้นบ้างว่า ห้องนี้เราทำเพื่อใครกันนะ ????
เอ.. แล้วห้องนี้ เพื่อใครกันล่ะ นิดหน่อยว่า ห้องนี้เพื่อคุณทุกคนค่ะ เพราะไม่ว่าห้องเล็กห้องใหญ่ อุปกรณ์ต่อพ่วงมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสมาชิกของบ้านค่ะ การวางแปลนห้อง living การแบ่ง space และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ดีที่สุดของห้องขึ้นอยู่กับกิจกรรมของคุณในแต่ละวันด้วย เพราะจากทฤษฎี 1 2 3 4 5 ... หรือภาพจากแคตาล็อกไม่สามารถจะหยิบมาวางในห้องของคุณ และตอบโจทย์ของคุณได้ทั้งหมดค่ะ เพราะ แปลนแต่ละแปลน และแบบแต่ละแบบนั้นจะเหมาะกับผู้เป็นเจ้าของเท่านั้น ดังนั้นจึงต้องออกแบบใหม่มาเพื่อคุณเท่านั้น .. only you ค้า วันนี้เราลองมาจำแนกแยกกลุ่มของห้อง Living กันค่ะ
|
|
| |
 |
|
| |
ห้อง Living เพื่อ คนโสด
เอ.. ชื่อห้องเหมือน ห้องหนุ่มโสด หรือ สาวโสด ระมาณนั้นเชียวค่ะ ก็แหม..คงจะมีคนจำนวนไม่น้อยนะคะที่เคยอยู่คนเดียว และมีคนอีกจำนวนมากที่ชื่นชอบการอยู่คนเดียว ห้อง Living เพื่อ คนโสด จึงมีข้อได้เปรียบนิดหนึงตรงที่ว่าไม่ต้องสนใจความต้องการของคนรอบข้าง ข้อจำกัด และแบบ จึงค่อนข้างเปิดกว้างสำหรับคนที่อยู่บ้านและอยู่คนเดียว เพราะคุณจะเลือกใช้สีแรงแค่ไหน แบบแปลกแค่ไหนก็เป็นห้องของคุณคนเดียว นอกเสียจากว่าบ้านของคุณอยู่ในคอนโดที่มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด การเลือกแบบห้องจึงต้องใช้พื้นที่ทุกส่วนให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างเช่น ห้องรับแขกอาจเปิดโล่งถึงส่วนรับประทานหารและส่วนครัวค่ะ รวมไปถึงบางครั้งเราอาจใช้พื้นที่ส่วนนี้เพื่อทำงานตอนกลางคืนด้วยค่ะ
|
|
| |
 |
|
| |
ห้อง Living เพื่อ คู่รัก
ชื่อห้องก็บอกแล้วใช่ใหมค่ะ ว่าห้องต้องดู หวาน และโรแรนติกขนาดไหน เพราะห้องนี้นอกจากจะไว้พักผ่อนแล้วก็ยังเป็นห้องที่ไว้ทำกิจกรรมร่วมกัน แหม.. ก็ดูหนังฟังเพลง หรือคนหนึ่งอ่านหนังสือ อีกคนอาจเตรียมงาน หรือวางแผนเที่ยวค่ะ การออกแบบจึงเน้นที่รสนิยมของคู่รักมากกว่าค่ะ เป็นห้อง MiX & Match สิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดของห้องนี้คงจะเป็นเรื่องสคีมของสีค่ะ เป็นการออกแบบที่ไปด้วยกันในความต่างของการใช้งานของคู่รักค่ะ
|
|
| |
 |
|
| |
ห้อง Living เพื่อ ครอบครัวเล็ก
ครอบครัวเริ่มต้นที่เพิ่งมีอีกหนึ่งชีวิตเข้ามาเกี่ยวข้อง แบบของห้องที่จึงต้องพิถีพิถันมากหน่อย เพราะการเลือกวัสดุและอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ต้องเลือกที่ไม่เป็นอันตรายต่อเด็กและต้องแข็งแรงพอที่จะรับมือกับเด็กๆ ด้วยค่ะ เป็นห้องที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง เพราะห้องนี้จึงเป็นห้องที่มี 2 บุคลิกในตัวเองค่ะ เพราะต้องเป็นห้องที่มีความอบอุ่น และสะดวกสะบายในตัวเอง มีพื้นที่เพียงพอสำหรับของเล่น และเพียงพอต่อกการเก็บของต่างๆ ให้พ้นมือเด็กค่ะ และเป็นห้องที่สะบาย และเงียบพอ หากคุณหนูๆ เหน็ดเหนื่อยและง่วงหลับ เรียกได้ว่าเป็นห้องที่มีชีวิตชีวาในเวลากลางวัน และสามารถใช้พักผ่อนได้
|
|
| |
 |
|
| |
ห้อง Living เพื่อ ครอบครัวขยาย
เมื่อเด็กเริ่มโตขึ้น พวกเขาก็ต้องการพื้นที่ที่เขาสามารถทำกิจกรรมที่ตนเองสนใจได้ แต่ต้องไม่ใช่ห้องนอน ห้อง Living จึงเป็นพื้นที่ที่เหมาะที่สุด ห้อง Living แบบนี้จะพบได้ในบ้านทั่วๆ ไป และห้องนี้จะเป็นห้องที่เงียบสงบในเวลากลางวัน แต่จะเป็นที่ชุมนุมของทุกคนในครอบครัวยามเย็นและกลางคืน จาก ความเงียบสงบในกลางวันก็จะถูกเปลี่ยนเป็นที่ครึกครื้น เป็นห้องที่ให้ความรู้สึกต่างค่ะ เป็นห้องที่ต้องถูกออกแบบให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ค่อนข้างหลากหลายอย่างมาก เพราะจะเกี่ยวของกับงานอดิเรกและกิจกรรมของสมาชิก ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับดูทีวี เล่น computer เครื่องเสียง และที่สำคัญคือ ที่นั่งแสนสบายให้เพียงพอกับสมมาชิกและแขกอีกนิดหน่อยค่ะ
|
|
| |
 |
|
| |
ห้อง Living ส่วนกลาง
เป็นห้องที่ค่อนข้างเปิด เป็นห้องที่ใช้ share กันจะพบโดยมากในคอร์ท หรือ คอนโด และสำหรับท่านที่ ไม่ได้พักกับครอบครัวมักจะลงมาใช้ห้องส่วนกลางนี้ หรือบางครั้งรวมไปถึงในสถานที่ที่ทำงานค่ะ เพราะจะมีอุปกรณ์ และเครื่องอำนวยความสะดวกคอยบริการ นอกจากนี้พื้นที่นี้ยังเป็นที่สำหรับชุมนุม หรือเรียกว่าเป็นสภากาแฟก็ได้นะนี่ ห้องนี้จะเป็นเหมือนเป็นสังคมย่อยได้กลุ่มหนึ่ง เป็นจุดรวมของคนที่มีแนวคิดเห็นเดี่ยวกันมานั่งคุยกัน การตกแต่งห้อง living แบบนี้จะเป็นแบบเรียบๆ ง่าย ไม่วุ่นวาย ง่ายต่อการที่แม่บ้านจะจัดเก็บ ถ้าเป็นสไตล์ minimal ของตกแต่งน้อยชิ้น
|
|
| |
-- นู๋นิดหน่อย -- |
|
| |
|
|
| |
|
|
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
 |
 |
 |
 |
 |
 |
