เริ่มจากสำรวจบริเวณรอบๆ บ้านว่ามีต้นไม้ใหญ่ใกล้ตัวบ้านหรือเปล่า หากพบให้จัดการตัดกิ่งไม้ให้ สั้นลง เพื่อไม่ให้เป็นฉนวนสำหรับสายฟ้า หรือหากลมแรงจะไม่ทำความเสียหายให้กับตัวบ้านได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้ เมื่อมีฝนตก จะมีลมแรงตามมาด้วย
จากนั้นเก็บกวาดเศษใบไม้ที่เพิ่งตัดทิ้ง และใบไม้แห้งที่มีอยู่เดิมรอบๆ บ้านเพื่อไม่ให้ ไม่ให้บ้านอยู่ใต้น้ำค่ะ เพราะใบไม้เล็กน้อยก็สามารถทำให้เกิดการอุอตันของท่อระบายน้ำได้ค่ะ
ทำความสะอาดรางน้ำฝน ดูแลไม่ให้อุดตัน เพื่อที่เวลาฝนตกน้ำจะได้ไหลไปตามราง ไม่ไหลย้อนเข้าบ้าน
สำรวจบริเวณผนัง ฝ้า เพดาน ประตู หน้าต่างว่ามีรอยร้าวหรือเปล่า ถ้ามีให้รีบเช็คดูว่า จะเป็นจุดที่น้ำจะซึมเข้าบ้านได้หรือเปล่า ถ้าได้ให้รีบจัดการซ่อมแซมและทาน้ำยากันซึมให้เรียบร้อย
สำรวจประตู หน้าต่างทุกบานว่าสามารถ ปิด - เปิด และ ล็อค ได้เป็นปกติดี เพื่อที่ว่า้เวลาฝนตกจะได้ปิดได้
สำรวจตามระเบียง และสนามว่ามีเฟอร์นิเจอร์อะไรบ้างที่ต้องเก็บหลบฝน เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ร่ม ...ถ้ามีก็เก็บซะ เพราะน้ำฝนนอกจากจะทำให้เฟอร์ผุกร่อนแล้วลมยังพัด และนำความเสียหายได้ค่ะ
สำรวจรอบๆ บ้านว่ามีภาชนะจำพวกถังน้ำที่วางอยู่นอกตัวบ้านหรือเปล่าหากมีควรจับวางคว่ำไว้ เพื่อไม่ให้มีน้ำขัง และกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
เวลาฝนตกหนักๆ ควรรีบสังเกตร่องรอยว่ามีการรั่วซึมตรงไหนบ้างหรือเปล่า ไม่ว่าจะเป็น หลังคา ขอบประตูหน้าต่าง รอยต่อกระจก หากพบ mark ตำแหน่งไว้ เมื่อฝนหยุดจะได้ดูแลซ่อมแซมได้ถูกจุด เพราะรอยน้ำซึมบางทีก็อาจมาจากหลังคาเปิดได้เหมือนกันค่ะ
หลังฝนตก ควรทำความสะอาดรอบๆ บ้าน เพื่อไม่ให้เกิดตะใคร่น้ำ หรือโคลนจับ เพราะทำให้ลื่นหกล้มได้ง่าย รวมทั้งเก็บขยะต่างๆ ที่มากับฝนไม่ให้ไปอุดตันในท่อระบายน้ำ
|