about bareo
news & events
art of design
decor guide
the gallery
living young
talk to editor
links

I-service

back issue
 

 

 


           ห้องเก็บของที่ดี ห้องที่มักจะถูกมองข้ามไปมากที่สุดในบ้านคือห้องเก็บของ ทั้งๆ ที่ห้องเก็บของนี้ จัดว่าเป็น ห้องที่สำคัญที่สุดห้องหนึ่งของบ้านเลยทีเดียว ห้องเก็บของที่ดี ควรมีลักษณะดังต่อไปนี้


           1. ขนาดเหมาะสมกับบ้าน คือประมาณ 3-5% ของพื้นที่บ้าน เช่นบ้านที่มีขนาด 100 ตารางเมตร ควรมีห้องเก็บของขนาดประมาณ 3-5 ตารางเมตร ซึ่งหากไม่มี พื้นที่ขนาดดังกล่าว ก็สามารถแยกออกเป็น 2 หรือ 3 ห้องก็ได้

          2. อยู่ในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ง่าย ไม่ควรจะลึกลับซับซ้อนมาก รวมทั้งทางเข้าออก หน้าห้องเก็บของควรจะโล่ง ไม่มีของวางเกะกะ เพื่อให้การนำของเข้าไปเก็บและนำออกมา ทำได้โดยง่าย

 

 

 
 
 
 

 

 

 


          3. มีแสงสว่างที่พอเหมาะ บ่อยครั้งที่เรามักจะจัดห้องเก็บของให้เป็นห้องที่แย่ที่สุด ของบ้าน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ห้องเก็บของไม่จำเป็นต้องมีหน้าต่าง เพื่อชมทิวทัศน์รอบข้าง หรือบรรยากาศที่ดีก็ได้ แต่จำเป็นต้องมีแสงสว่าง ที่ส่องทั่วถึง เพื่อให้การจัดเก็บและหยิบของ สามารถทำได้โดยง่าย ห้องเก็บของที่มีแสงสว่างที่น้อยเกินไป อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตัว ผู้เข้าไปใช้ห้องเก็บของก็ได้ เนื่องจากห้องเก็บของมักมีการเก็บของมีคม เช่น กรรไกรตัดหญ้าหรือเครื่องมือที่ใช้ในการซ่อมแซมบ้าน เช่น ค้อน เลื่อย เป็นต้น ซึ่งหากเรามองไม่เห็นว่ามีอะไรอยู่ในห้องนั้นบ้างเพราะแสงสว่างน้อยเกินไป หรือส่องไปไม่ถึง อาจทำให้เราเกิดอันตรายได้

 

          4. ระบบการจัดเก็บที่ดี ห้องเก็บของที่ดีควรมีการจัดทำเป็นชั้นๆ เพื่อจัดวางของ และมีการแบ่งพื้นที่เก็บของเป็นสัดส่วน เช่น ของหรือเครื่องมือที่ใช้ในสวน ควรอยู่ด้านซ้าย และของที่ใช้ในบ้านควรอยู่ด้านขวา ส่วนตรงกลางใช้เก็บของ ประดับทั่วไป ที่ยังไม่ได้ใช้ เป็นต้น นอกจากนี้ ของที่มีน้ำหนักมาก หรือชิ้นใหญ่ ควรจะอยู่ด้านล่าง ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม เพื่อป้องกันมิให้ของเหล่านั้น ตกหล่นลงมาทับผู้ที่เข้าไปใช้ห้องเก็บของ รวมทั้งของที่มีขนาดเล็กควรมีการ รวบรวมให้อยู่ในกล่องเดียวกัน และมีการระบุที่หน้ากล่องว่าเป็นของประเภทใด บ้าง จะทำให้การค้นหาและการหยิบมาใช้เป็นไปได้อย่างสะดวก และปลอดภัยยิ่งขึ้น

 

 

 
   
 




ประเภทของห้องเก็บของ


          ห้องเก็บของที่พบเห็นบ่อยที่สุดคือห้องเก็บของใต้บันได ซึ่งมักจะจัดเตรียมไว้ ให้ในบ้านจัดสรรทุกหลังแต่ทั้งนี้ โดยแท้จริงแล้ว ห้องเก็บของมีอยู่มากมาย หลายประเภท แตกต่างกันไปตามหน้าที่และประโยชน์ใช้สอย ตลอดจนวัฒนธรรมของแต่ละเชื้อชาติ ซึ่งห้องเก็บของที่ควรกล่าวถึงมีดังต่อไปนี้

 

 

 
   
 




           1. ห้องเก็บของโดยเฉพาะ เรามักเห็นห้องเก็บของแบบนี้ในบ้านที่มีขนาดใหญ่สักหน่อย หรือบ้านที่มีบริเวณ โดยเจ้าของบ้านและสถาปนิกมักจะเตรียม หรือแบ่งพื้นที่ของห้องเก็บของนี้ไว้ตั้งแต่ขั้นตอนออกแบบเลยทีเดียว ห้องเก็บของแบบนี้ จะถูกออกแบบให้ใช้งานได้เต็มที่ และมีประโยชน์ใช้ สอยครบถ้วน อย่างไรก็ดี ห้องเก็บของแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่มาก หากไม่มีการเก็บของชิ้นใหญ่จริงๆ เนื่องจากประโยชน์ของห้องเก็บของ มักจะอยู่ที่ชั้นเก็บของที่ผนังมากกว่า ดังนั้น ห้องเก็บของที่มีขนาดประมาณ 3 คูณ 3 ตารางเมตร จำนวน 2 ห้อง มักจะมีประโยชน์กว่าห้องเก็บของ ขนาด 3 คูณ 6 ตารางเมตร เพียงห้องเดียว


           2. ห้องเก็บของที่แฝงอยู่ตามโครงสร้างของอาคาร เช่น ห้องเก็บของที่อยู่ใต้บันได หรือห้องเก็บของซ่อนอยู่ในพื้นยกระดับของบ้านแบบญี่ปุ่นเป็นต้น ห้องเก็บของชนิดนี้ มักจะมีพื้นที่น้อยกว่าห้องเก็บของแบบแรก แต่หากได้รับการออกแบบอย่างดีแล้วจะมีพื้นที่ใช้สอยไม่แพ้กันเลยทีเดียว


           3. ห้องเก็บของที่ซ่อนอยู่ในเฟอร์นิเจอร์ เฟอร์นิเจอร์ที่มีการออกแบบที่ดี มักจะมีการเตรียมพื้นที่สำหรับเก็บของไว้เป็นจำนวนมากพอสมควร และเฟอร์นิเจอร์บางชิ้น อาจจะถูกออกแบบมาเพื่อทำให้ห้องนอนธรรมดา กลายเป็นห้องนอนที่มีที่เก็บของที่สมบูรณ์เลยทีเดียว

 

 
 

 

 

-- x10 --

       
         
     

 

 

 
Home | About Bareo | News & Events | Art of Design | Decor Guide | The Gallery | Living Young | Talk to Editor | Links
 
บริษัท บาริโอ จำกัด
50 ซอยบรมราชชนนี 4 ถนนบรมราชชนนี เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700 Tel. 66 2881 8536-7 Fax. 66 2881 8538