editor talk
     
 

 

มหัศจรรย์แห่งเห็ด

 

          จากกระแสอาหารสุขภาพที่กำลังมาแรง วันนี้เดียร์มีเห็ด อาหารเทพ อีกอย่างมานำเสนอค่ะ เห็ดจัดได้ว่าเป็นอาหารจำพวกผักที่ปราศจากไขมันมีปริมาณน้ำตาลและเกลือค่อนข้างต่ำ และยังเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี เมื่อเทียบกับผักอีกหลายชนิด เห็นมี 2 จำพวกด้วยกัน คือ เห็ดธรรมชาติ (เห็ดป่า) และ เห็ดเพาะ โดยมากเห็นที่รับรับประทานกันทุกวัน เป็นเห็ดเพาะค่ะ และถ้าหากได้ไปเที่ยวแถบอีสาน แล้วมีโอกาสได้แวะตลาดข้างทาง หรือตลาดสด ก็จะได้เห็ดป่า แต่ถ้าจะลองเห็ด ป่าละก็ต้องระวังกันนิดหนึ่งค่ะว่าเป็นเห็ดจำพวกมีพิษหรือเปล่า

 

จากความเชื่อ มาเป็นวิทยาศาตร์

          ชาวจีนและชาวญี่ปุ่น ได้มีใช้เห็ดเป็นตัวยาในการรักษาโรค และบำรุงกำลังมาแต่ครั้งโบราณ โดยชาวจีนได้จัดเห็ดให้เป็นยาเย็น เพราะมีสรรพคุณช่วยลดไข้ เพิ่มพลังชีวิต ดับร้อนใน แก้ช้ำใน บำรุงร่างกาย ลดระดับน้ำตาล และคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด ลดความดัน ขับปัสสาวะ ช่วยให้หายหงุดหงิด บำรุงเซลล์ประสาท รักษาอาการอัลไซเมอร์ และที่สำคัญ คือ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง

          ในประเทศญี่ปุ่น ได้มีการทดลองนำเห็ดหอมมาสกัด พบว่าในเห็ดหอมให้น้ำตาลโมเลกุลขนาดใหญ่ (mega-sugar) ที่เรียกว่า เบต้ากลูแคนส์ (beta-glucans) ถึง 2 ชนิด ได้แก่ lentinan และ LEM (Lentinula edodes mycelium) ซึ่งช่วยทำหน้าที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันต่อสู้กับการติดเชื้อ และชะลอการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง ซึ่งในการทดลองให้สาร lentinan กับผู้ป่วยมะเร็งร่วมกับการทำเคมีบำบัดก็พบว่าก้อนมะเร็งมีขนาดลดลง และอาการข้างเคียงจากการทำเคมีบำบัดก็เกิดขึ้นน้อยลงด้วย

          และทีมวิจัยยังได้วิเคราะห์ถึงความเป็นไปในอนาคตอีกด้วยว่าความเป็นไปได้ที่จะใช้ LEM ที่ได้จากเห็ดหอมมาบำบัดผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV ได้หรือไม่

          ในสหรัฐอเมริกา ก็มีการทำวิจัยเกี่ยวกับเห็ดเช่นกันได้ผลออกมายืนยันการค้นพบแบบเดียวกับชาวเอเชีย แต่สำหรับการวิจัยถึงผลการใช้เห็ดเป็นยารักษาโรคนั้นยังคงอยู่ในขั้นแรกๆ เท่านั้น เช่น พบว่าเห็ดแชมปิญอง (White mushroom) มีบทบาทช่วยในการรักษาและป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านมมากที่สุด เมื่อเทียบกับเห็ดรับประทานได้ชนิดอื่นๆ โดยสารบางอย่างในเห็ดชนิดนี้ไปช่วยยับยั้งเอ็นไซม์ aromatase ทำให้เกิดการยับยั้งการแปรฮอร์โมนแอนโดรเจนให้กลายเป็นเอสโตรเจนในผู้หญิงวัยหมด ประจำเดือน เมื่อร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนได้น้อยลง ก็ลดโอกาสการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมให้น้อยลงตามไปด้วย

 

 

 
   
 

 


          

สารอาหารที่พบในเห็ด

          วิตามินบีรวม ในเห็ดขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่อุดมด้วยวิตามินบีรวม ไม่ว่าจะเป็น ไรโบฟลาวิน (ที่พบมากในเครื่องในสัตว์ นม ไข่ และเต้าหู้) ช่วยบำรุงสุขภาพผิวพรรณและการมองเห็น ขณะที่ไนอาซิน (ยังพบมากในปลาทูน่า เนื้อแดง ถั่วลิสง และอะโวคาโด) จะช่วยควบคุมการทำงานของระบบย่อยอาหาร และระบบประสาท สถาบันอาหารแห่งสหรัฐอเมริกาได้ประมาณไว้ว่า การรับประทานเห็ดแชมปิญองขนาดกลางๆ 5 ชิ้น จะได้ปริมาณไรโบฟลาวินมากพอๆ กับการดื่มนมสดถึง 8 ออนซ์


           เกลือแร่ต่างๆ
เช่น ซิลิเนียม ทำหน้าที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน


          โปแตสเซียม
ทำหน้าที่ควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ สมดุลของน้ำในร่างกาย การทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาทต่างๆ ลดการเกิดโรคความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ และอัมพาต ส่วนทองแดง ทำหน้าที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของธาตุเหล็ก


           ซีลีเนียม
เป็นสารอาหารที่ช่วยต้านการเกิดอนุมูลอิสระใกล้เคียงกับวิตามินอี ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งและโรคภัยต่างๆ ที่มากับวัยสูงอายุ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ การรับประทานเห็ดหอม


           โปแตสเซียม
เป็นสารอาหารที่จำเป็นอย่างยิ่งในการควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ ความสมดุลของน้ำในร่างกาย การทำงานของกล้ามเนื้อ และระบบประสาทต่างๆ ทาง FDA ของสหรัฐอเมริการะบุไว้ว่าการรับประทานอาหารที่เป็นแหล่งของโปแตสเซียมจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความดันเลือดสูง และอัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งในเห็ดนั้นมีโปแตสเซียมสูง และโซเดียมต่ำ การรับประทานอาหารที่ปรุงจากเห็ดกระดุมหรือเห็ดแชมปิญอง 1 จานจะให้โปแตสเซียมได้พอๆ กับส้มหรือมะเขือเทศลูกโตๆ เลยทีเดียว


          นอกจากนี้เห็ดยังมีองค์ประกอบของพฤกษเคมีที่ชื่อว่า “โพลีแซคคาไรด์”(Polysaccharide) เมื่อทำงานร่วมกับแมคโครฟากจ์ (macrophage) จะเป็นเซลล์คุ้มกันขนาดใหญ่ที่ออกจากหลอดเลือดเข้าสู่เนื้อเยื่อและจะไปจับกับโพลีแซคคาไรด์ที่บริเวณกระเพาะอาหาร และนำไปส่งยังเซลล์คุ้มกันตัวอื่นๆ โดยจะช่วยกระตุ้นวงจรการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เสริมและช่วยเพิ่มปริมาณและประสิทธิภาพของเซลล์คุ้มกันธรรมชาติ ให้ทำหน้าที่ทำลายเซลล์แปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย รวมถึงพวกไวรัสและแบคทีเรียอื่นๆ ด้วย

 

 

 
 

 
 

 

          

เห็ดล้างพิษ

          นักมังสวิรัติกล่าวว่า เมื่อทานเห็ด 1 ชนิดประโยชน์ของเห็ดเองก็มีมาก และในเมื่อเราจะรับประทานแล้วน่าจะเลือกเห็ดมากินพร้อมๆ กันสัก 3 ชนิด เพื่อประโยชน์จะได้คูณ 3 ค่ะ แต่ทั้งนี้ควรจะเลือกเห็นที่มาจากตระกูล(สายพันธุ์) ที่ต่างกันด้วย เมื่อนำมาปรุงอาหารรวมกันนอกจากประโยชน์ทั้งหลายของตัวเห็ดแต่ละชนิดเองแล้ว ยังมีประโยชน์แถมมา คือ ช่วยล้างสารพิษที่ตกค้างในตับและบำรุงตับ รวมไปถึงยังช่วยสร้างกรดอะมิโนที่ไปบำรุงสมอง, ปรับสมดุลของการสร้างเซลล์ใหม่ในร่างกาย, ลดอนุมูลอิสระที่จะเป็นตัวก่อให้เกิดโรคมะเร็งอีกด้วยค่ะ

 

….แล้วคุณล่ะคะ ชอบรับประทานเห็ดชนิดไหน แบบไหน ลองสรรเห็ดมาปรุงอาหารกันเป็นประจำ เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพของคุณและครอบครัวค่ะ

 

 
 

 

-- เดียร์ --

 

 

 


บริษัท บาริโอ จำกัด

50 ซอยบรมราชชนนี 4 ถนนบรมราชชนนี เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700   Tel. 66 2881 8536-7   Fax. 66 2881 8538