editor talk


 

           
 

 

         ครบเดือนพอดี รำเพยก็ได้กลับมาทักทายท่านผู้อ่านอีกครั้งหนึ่ง สำหรับเดือนที่แล้ว รำเพยจะโดนต่อว่ามาเล็กๆ ว่าเขียนเรื่องน้อยจัง อ่านแป๊บเดียวก็จบแล้ว มาเดือนนี้ รำเพยเลยขอขยับมาเขียนเรื่องให้ยาวขึ้นอีกหน่อย จะได้ไม่โดนต่อว่าอย่างคราวที่แล้วอีก (อันที่จริง คนที่ต่อว่าก็ไม่ใช่ใครอื่น เป็นพี่ Isyss ที่ตอนนี้ขี้บ่นและจู้จี้น่าดูเลยค่ะ)

 

สำหรับเรื่องคราวนี้ รำเพยเลยต้องไปเสาะแสวงหาหัวข้อมาให้ดูน่าสนใจ และมีภาพตัวอย่างเยอะๆ หน่อย คิดไปคิดมา เลยขอเขียนเรื่องเกี่ยวกับแรงบันดาลใจที่มาจากสัตว์ในธรรมชาติดีกว่าค่ะ เพราะแรกเริ่มเดิมที มนุษย์เราก็ได้สร้างศิลปะยุคแรกๆ จากสัตว์ที่มีในธรรมชาตินี่แหละค่ะ โดยเริ่มจากภาพเขียนของมนุษย์ยุคหินที่เขียนภาพกวาง และการล่าสัตว์ไว้ในผนังถ้ำในฝรั่งเศสเป็นต้นมา มนุษย์ก็ผูกพันกับสัตว์ต่างๆ ที่อยู่ใกล้ตัวในธรรมชาติมาโดยตลอด

 

 

 
 
 
 

 

 

         ในยุคต่อมา เมื่อมนุษย์เรามีความเจริญมากขึ้น มีสติปัญญาที่สามารถคิดค้นอาวุธชนิดต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตั้งแต่ ธนู หอก จนกระทั่งพัฒนามาเป็นปืนชนิดต่างๆ เราก็ยังนิยมที่จะล่าสัตว์ใหญ่ชนิดต่างๆ มาตัดหัวเสียบประจาน เอ๊ย...มาประดับบ้าน ไม่ว่าจะเป็น หัวกวาง (ยอดฮิตอันดับหนึ่ง เพราะล่าง่าย) หมี วัวกระทิง สิงโต ม้าลาย เป็นต้น และในบางครั้ง มนุษย์เรายังนิยมที่จะถลกหนังสัตว์ที่น่าสงสารเหล่านั้นมาทำเป็นพรมไว้เหยียบย่ำเล่นอีกด้วย (น่าสงสารจัง)

 

         ยังดีที่ปัจจุบัน ความนิยมในเรื่องของการล่าสัตว์และทารุณกรรมต่อสัตว์ได้ลดน้อยลงอย่างมาก การเข้าป่าเพื่อล่าสัตว์เอาหัวมาประดับผนังบ้านก็ลดน้อยลงจนแทบไม่มีเลยในปัจจุบัน ทำให้สัตว์ป่าต่างๆ ที่หลงเหลืออยู่น้อยเต็มที ก็ได้มีโอกาสมาขยายพันธ์ ออกลูกออกหลานไว้ให้พวกเราได้ชื่นชมกันในอนาคตต่อไป

 

         กลับมาเข้าเรื่องงานออกแบบของเรากันดีกว่า แม้ว่ากระแสการล่าสัตว์ป่าในธรรมชาติได้ลดน้อยลงไปมากแล้ว แต่ความผูกพันระหว่างมนุษย์กับสัตว์ในธรรมชาติยังคงอยู่ ดังนั้น เดือนนี้ รำเพยจึงขอนำเอางานออกแบบต่างๆ ที่โดนใจ มาเล่าสู่กันฟังนะคะ เริ่มต้นจากงานออกแบบง่ายๆ แต่โดนอย่างแรงเลยทีเดียว ก็คือ Cowstick หรือสติกเกอร์สีดำ ที่ตัดเป็นลายของวัว เมื่อนำมาติดกับตู้เย็นตามภาพตัวอย่างและนำไปวางในทุ่งหญ้าแล้ว ได้อารมณ์ของวัวสุดๆ ไปเลยค่ะ สำหรับไอเดียสุดเจ๋งนี้ เป็นผลงานจาก www.atypyk.com ค่ะ ซึ่ง Website นี้จะมี Product Design เก๋ๆ หลากหลายให้ชื่นชมด้วยค่ะ

 

 

 
 

 
 

 

 

         ต่อมาเป็นผลงานสุดบรรเจิดของ Designer ชาวฝรั่งเศส คือ Benoit และ Rachel Convers จาก www.ibride.fr ที่นำเอาวัสดุสมัยใหม่อย่าง HPL หรือ High Pressure Laminate มาผสานกับแรงบันดาลใจจากสัตว์ที่มีอยู่ในธรรมชาติได้อย่างถึงใจ ตั้งแต่ Diva (ออกแบบในปี 2004) เป็นตู้ Console รูปช่วงล่างนกกระจอกเทศ (ด้านบนจะได้แบนๆ เป็นโต๊ะที่ใช้งานได้ค่ะ) หรือ Bambi (2005) ก็เป็นตู้ลิ้นชักที่นำเอากวางมาเป็นแรงบันดาลใจ ต่อมาก็คือ Zelda (2006) ออกแบบให้เป็น Low Table หรือ Coffee Table สำหรับใช้กับชุดโซฟาก็ได้ค่ะ

 

 

 
 
 
 
 
 

 

 

         และสุดท้าย ก็เป็นตัวโปรดของรำเพย คือเจ้า Ours Polaire ออกแบบขึ้นในปี 2007 หรือปีที่แล้วนี่เอง เป็นเจ้าหมีขั้วโลกสีขาว ตัวใหญ่ ใช้วางหนังสือได้ (ตรงนี้แหละค่ะที่รำเพยชอบที่สุดเลย) โดยนอกจากผลงานชุดนี้จะมีจุดเด่นที่รูปลักษณ์ที่สวยสะดุดตา (และโดนใจแล้ว) รำเพยยังชอบที่ Designer ทั้งคู่นำเอา HPL มาใช้ได้อย่างเหมาะสม เพราะเจ้า HPL นี่เป็นวัสดุใหม่ที่ไม่ค่อยจะแพร่หลายในบ้านเรามากนัก เพราะราคาค่อนข้างสูงและมีสีให้เลือกจำกัด โดย HPL นี่เป็นผลผลิตมาจากแผ่นพลาสติกลามิเนตที่เราใช้ปิดผิวกันแหละคะ ซึ่ง HPL จะเกิดจากการนำเอาแผ่นพลาสติกลามิเนตหลายๆ แผ่นมาซ้อนกันและอัดด้วยแรงดันที่สูงมากเพื่อประสานให้แผ่นลามิเนตบางๆ ทั้งหลายกลายเป็นแผ่นทึบๆ ที่มีความหนาแผ่นเดียว ดังนั้น ราคาของมันจึงสูงกว่าแผ่นลามิเนตที่ใช้ปิดผิวกันหลายเท่า และคุณสมบัติของแผ่น HPL ที่ได้นั้น นอกจากจะเป็นแผ่นที่มีความแข็งแรงสูงแล้ว ยังไม่ดูดซึมน้ำอีกด้วย

 

 

 
 
 
 

 

 

         สำหรับผลงานออกแบบชิ้นต่อมา รำเพยขอนำเสนอกาน้ำชาหัวกระโหลกสัตว์ที่ทำจาก Porcelain (แต่ไม่รู้ว่านำเค้าโครงมาจากสัตว์ชนิดไหน) ที่มีชื่อเรียกว่า High Tea PotiHi็รHi โดยผลงานชิ้นนี้เป็นของ Wieki Somers ในปี 2003 โดยนำเอากระโหลกสัตว์มาจำลองเป็นกาน้ำชา ซึ่งนอกจากจะมีแบบเรียบแล้ว ยังมีแบบที่ติดขนหนูเข้าไปด้วยค่ะ (อียส์...น่าเกลียดชะมัด) สำหรับผู้ที่ชื่นชมของแปลก สามารถเข้าไปชมได้ที่ www.wiekisomers.com (แต่ Website นี้น่ารักดีนะคะ ลองเข้าไปดูเองแล้วจะ Surprise…)

 

 

 

 

 
 
 
 

 

 

         ต่อไปเป็นของเล่นบ้าง เป็นงานออกแบบจาก Atypyk อีกเช่นกัน เป็นกระดูกของเล่นสำหรับสุนัขที่ทำออกมาเลียนแบบบูมเมอแรง เลยใช้ชื่อว่า Wooferang ชื่อเก๋เชียว รำเพยชอบตรงชื่อเลยนำมาให้ชมด้วยค่ะ

 

 
 
 
 

 

         สำหรับชิ้นสุดท้ายของเดือนนี้ เป็นของใช้ง่ายๆ ที่รำเพยประทับใจมาก คือกรรไกรที่เราใช้ตัดกระดาษ ตัดผ้ากันนี่แหละคะ แต่ออกแบบลาย Graphic รูปนกบนกรรไกร มีชื่อเรียกว่า Jonathan โดย Designer วางให้ส่วนตัดกลายเป็นปากนก และมีจุดหมุนเป็นส่วนหัวและลูกตาของนก ส่วนด้ามจับกลายเป็นปีกมีสีสันสวยงามมาก เห็นแล้วอยากซื้อกลับมาใช้ในบ้านจริงๆ เลยค่ะ โดยผลงานชิ้นนี้เป็นของ Pied a' Coulisse ชาวฝรั่งเศส ออกแบบในปี 2006 เข้าไปแวะชมได้ที่ www.pylones.com

 

 

 

 
 
 
 

 

 

         เป็นยังไงบ้างคะ สำหรับเดือนนี้ รำเพยน่าจะกลับมาเริ่มเข้าฟอร์มแล้วใช่มั้ยคะ เอาไว้เดือนหน้ารำเพยจะมาตะลุยเขียนเรื่องยาวๆ ให้อ่านกันให้จุใจเลยค่ะ และขอบคุณมากนะคะที่ติดตามอ่านผลงานของรำเพย สวัสดีค่ะ...

 

 
 

 

-- รำเพย รำพัน --

       
           
           
           


บริษัท บาริโอ จำกัด

50 ซอยบรมราชชนนี 4 ถนนบรมราชชนนี เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700   Tel. 66 2881 8536-7   Fax. 66 2881 8538