|
|
|
|
|
|
|
ถนนนานจิง เป็นถนนที่เราจะต้องมาเดินทุกคืนก่อนเข้านอน และด้วยเหตุผลที่หากใครมาเยือนเซี่ยงไฮ้ต้องมาเดินไม่งั้นเรียกว่ามาไม่ถึงเซี่ยงไฮ้ค่ะ แต่ถามว่ามาเดินทำไมนี่ hana ก็ตอบไม่ได้เหมือนกันค่ะ อ้าว??? ล้อเล่นค่ะ นานจิงลู่ เป็นถนนย่านธุรกิจที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศจีน ผู้คนที่มาเยือนเซี่ยงไฮ้ต่างก็มาเยี่ยมเยือนนานจิงลู่ เพราะอยากมาชมความเจริญของเมืองและมาเยือนย่านดัง แต่จริงๆ แล้ว เป้าหมายประจำของเรา คือร้านราเมนเจ้าอร่อยที่ ร้านอิจิเซ่นราเมน และต้องเดิน shopping ย่อยนิดหน่อย โดยมากเดินชมนกชมไม้ไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยซื้ออะไร เพราะของที่ขายเป็นสินค้าแบรนด์เนมราคาค่อนข้างสูง บางอย่างสูงกว่าบ้านเราอีก แต่ที่ได้กลับมาโดยมากเป็นของเล่นที่มี กลุ่มวัยรุ่นเล่นโชว์และขายกันเป็นจุดๆ คือ สเก็ต ลูกข่าง ลูกดิ่ง และจานบิน แหม..ตอนที่ดูเค้าเล่นมันเหมือนง่ายๆ ใครๆ ก็เล่นได้ แต่พอลองเล่นสเก็ตที่มีลักษณะติดล้อเฉพาะด้านหลังของรองเท้า ร้อง โอ้โห!! เลยค่ะ เพราะมันไม่ง่ายอย่างที่ชาว presenter เค้าเล่นโชว์เลย
ถนนนานจิง หรือ นานจิงลู่ ( Nanjing Lu) เป็นถนนที่เก่าแก่ของเซี่ยงไฮ้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1851 ถือว่าเป็น walking street หรือ ถนนคนเดินค่ะ มีความยาวถึง 5.5 กิโลเมตร พื้นถนนปูด้วยหินอ่อน และมีลวดลายเซรามิกสวยงาม 2 ฝากฝั่งของนานจิงลู่ เป็นที่ตั้งของร้านค้ามากมายจนนับไม่ถ้วน ในครั้งแรกที่เห็นเราก็ถกกันในกลุ่มว่าห้างเยอะขนาดนี้แล้วใครจะไปซื้อของกัน เพราะเดินบนถนนที่ยาว ถึง 5.5กิโลเมตรที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้ายาวเต็ม 2 ข้างทาง มีทั้งร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่น ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ภัตตาคารหรู ร้านจิวเวลรี่ชื่อดัง ทั้งร้านที่เป็นของคนจีนท้องถิ่น และของต่างชาติ ร้านฟาสต์ฟู้ด มีตั้งแต่ ร้าน KFC, McDonald, SUBWAY Pizza Hut ร้านไอสกรีม แม้ร้านสตาร์บัคส์ ก็มีอยู่หลายสาขา นอกจากนี้ยังมีลานกว้างสำหรับจัดงานได้ค่ะ แถมหากใครเดินเมื่อยยังมีรถรางไว้คอยบริการจากด้านหนึ่งไปสุดที่ Peoples square จอดรอบริการอีกด้วยค่ะ
|
|
|
|
|
|
ถนนนานจิงแบ่งออกเป็นฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออก โดยตะวันออกของถนนนานจิง หรือ Nanjing Dong Lu ลากยาวไปจนบรรจบกับบริเวณฝั่งแม่น้ำ Huangpu ที่เรียกว่า Weitan หรือที่ที่รู้จักกันในนาม The Bund (ตรงข้ามกับ หอไข่มุก ที่เราจะไปกันวันพรุ่งนี้)
ส่วนทางด้านถนนนานจิงฝั่งตะวันตก เป็นส่วนเดียวของถนนที่ไม่ได้เป็น walking street แต่มีการจราจรคับคั่ง ด้านนี้เป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าขนาดใหญ่และใหม่จำนวนมาก อีกทั้งยังมีโรงแรมระดับ 3-5 ดาวซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งอยู่เป็นร้อยแห่งเรียงกันตลอดสองฝั่ง และยังเป็นเส้นทางเดินรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 2 ซึ่งเป็นสายใหม่
ช่วงกลางของถนนนานจิงจะผ่าน Peoples square ซึ่งเป็นลานกว้างๆ หรือเรียกได้ว่าเป็นสวนสาธารณะก็ได้ค่ะ เพราะตอนเช้าจะมีผู้คนมาจับกลุ่มออกกำลังกาย รำมวยจีน เล่นน็อคบอล เหมือนกับที่สวนลุมบ้านเรา แต่ใต้บริเวณนี้จะเป็นอุโมงค์สำหรับข้ามถนนอยู่ใต้ดิน และเป็นทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดินด้วยค่ะ เป็นจุดสำหรับเปลี่ยนรถของ Metro Line สาย 1 และสาย 2
|
|
|
|
|
|
ร้านค้าต่างๆ บนถนนนานจิงส่วนใหญ่จะเปิดทำการเวลา 10.00 21.00 น. เว้นเสาร์อาทิตย์ที่จะเปิดถึง 22.00 น. แต่เท่าที่มาเดินทุกคืนที่เราอยู่เซี่ยงไฮ้ พบว่าถนนสายนี้มีผู้คนพลุกพล่านทั้งวันทั้งคืนเป็นปกติ จึงเริ่มเชื่อแล้วที่เคยมีคนกล่าวไว้ว่าในแต่ละวันจะมีคนเดินบนถนนนี้นับล้านคน ซึ่งมาจากที่ต่างๆ ที่เป็นทั้งชาวเซี่ยงไฮ้เอง คนจีนที่มาจากต่างเมือง นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยวชาวจีนเองและชาวต่างชาติเช่นเราๆ ท่านๆ ด้วย
คืนนี้เราอำลา นานจิงลู่ เมื่อเวลาเดินไปเกือบเที่ยงคืน ดึกหน่อยเพราะคืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่เราจะพักในเซี่ยงไฮ้ก่อนที่เราจะกลับบ้านกันพรุ่งนี้ แต่นานจิงลู่ก็ยังไม่หลับเลย
|
|
|
|
|
|
ตามโปรแกรมวันนี้เราวางแผนไว้หลวมๆ ว่าเช้าไป หอไข่มุก บ่าย ยังไม่กำหนด อาจเดินเล่นแถวๆ นี้ เพื่อรอเวลาขึ้นเครื่องกลับตอนทุ่มหนึ่ง หลังจากจัดการอาหารเช้าที่โรงแรมแล้ว เราต้องเตรียมเก็บกระเป๋าไว้เลย เพื่อจะได้ฝากไว้ที่เคาน์เตอร์ด้านล่าง ก่อนออกไปเที่ยว ทำให้วันนี้เราสตาร์ทจากโรงแรมช้ากว่าปกตินิดหนึ่ง คือ ประมาณ 9 โมงเช้า วันนี้เรามีเป้าหมายที่เดียว คือ หอไข่มุก เราจึงตกลงกันว่าจะเดินผ่านนานจิงลู่ไปขึ้นรถไฟใต้ดินที่ Peoples square เพื่อไปลงที่สถานีด้านหน้าของหอไข่มุกเลย ..เร็วดีด้วย
ออกจากโรงแรมเดินเข้าซอยไปนิดหนึ่งก็เลี้ยวเข้าสู่นานจิงลู่แล้วพวกเราก็ตกใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นเพราะคนเยอะมากกกก.. ถนนเต็มไปด้วยผู้คน ที่ hana เองก็ไม่ทราบว่าหลั่งไหลมาจากที่ไหน ขนาดพี่ isyss รีบถ่ายภาพกันยกใหญ่ ด้วยว่าไม่เคยไปที่ไหนแล้วคนเยอะขนาดนี้มาก่อน ตอนแรกเข้าใจว่ามีงานอะไรหรือเปล่า พวกเราเดินไปชะโงกไป เพราะหากมีงานอะไรเราจะได้แจมได้ทัน..อิอิ ชะโงกดูจนเดินมาถึง peoples square ก็ยังไม่เห็นมีอะไร เราจึงสรุปกันว่า อ๋อ..เค้ามาเดินเล่นกันนี่เอง
|
|
|
|
|
|
ออกจากรถไฟใต้ดินก็ข้ามถนน ไปเพื่อซื้อตั๋วขึ้นหอไข่มุก หลังจากที่เราแอบมาชะแว้บๆ รอบๆ แล้วถึง 2 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ครั้งแรก คือวันที่เราเพิ่งมาถึงเซี่ยงไฮ้ วันนั้นเรามีเวลาเพียง 2 ชม. จึงไม่คุ้มกับการขึ้นหอไข่มุก และแวะมาใหม่อีกครั้ง คือตอนกลางคืนครั้งหนึ่งเพื่อ มาเก็บภาพบรรยากาศค่ำคืนเมื่อมองจากฝั่ง"The Bund" หรือ "หาดไว่ทัน" ...เป็นมุมมหาชนค่ะ เพราะหากมาเซี่ยงไฮ้แล้วไม่มีรูปถ่ายมุมนี้ เรียกได้ว่ามาไม่ถึงเซี่ยงไฮ้ค่ะ แบบว่ามาเก็บบรรยากาศกันให้ครบทุบแบบเลยทีเดียวค่ะ..เรียกว่าให้คุ้มค่ะ... 555
"หอไข่มุก" ( Oriental Pearl) เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองเซี่ยงไฮ้ หอไข่มุกนี้รูปร่างเป็นหอสูง ลักษณะที่โดดเด่นของหอนี้คือมีไข่มุกเรียงกัน 3 เม็ด จากเม็ดใหญไล่ขึ้นไปเป็นเม็ดเล็ก วางเรียงกันในความสูงที่แตกต่างกันบนเสาที่มีฐาน 3 ต้น และนี่เองคงเป็นที่มาของของชื่อ Oriental Pearl ตั้งโดเด่นที่รมแม่น้ำหวงผู่ ตรงข้ามกับเดอะบันด์
|
|
|
|
|
|
หอไข่มุกนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1994 เป็นหอส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ มีความสูง 468 เมตร เป็นหอส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่สูงที่สุดในเอเชีย ที่สุดในเอเชีย และสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจาก หอส่งสัญญาณโทรทัศน์ CN Tower ในเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา และ Ostankino Tower ในเมืองมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย ซึ่งนับว่าเป็นตึกที่สูงเป็นอันดับสองของเซียงไฮ้ รองจากตึก Jinmao Tower หอไข่มุกเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมตั้งแต่เวลา 8.30-21.30 น. ของทุกวัน การเข้าชม จะต้องซื้อตั๋วเข้าชม โดยมีราคาให้เลือก 3 ระดับราคา คือ
* 50 หยวน สำหรับการเข้าชมที่ระดับความสูงของไข่มุกเม็ดที่ 1 หรือ เม็ดล่างสุด สูงจากพื้น 90 เมตร นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาชมวิวที่ชั้นนี้
* 85 หยวน สำหรับเข้าชมที่หอไข่มุกเม็ดที่ 2 ไข่มุกเม็ดนี้อยู่สูงถึง 263 เมตร ชั้นนี้เป็นชั้นที่มีสถานบนเทิงมากมาย ตั้งแต่ บาร์ คาราโอเกะ ร้านอาหาร ที่สามารถชมวิวเมืองเซี่ยงไฮ้ ได้ถึง 360 องศา
* ระดับสุดท้าย คือ 100 หยวน คือไข่มุกเม็ดสุดท้ายที่อยู่บนสุด สูงถึง 350 เมตร ประกอบด้วยธงชาติของประเทศต่าง พร้อมลายเซ็นของผู้นำหรือบุคคลสำคัญของประเทศนั้นๆ รวมถึงมีลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีด้วย
|
|
|
|
|
|
นอกจากนั้นบนหอไข่มุกก็ยังมีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเมืองเซี่ยงไฮ้ ที่จำลองภาพวิถีชิวิตของคนเซี่ยงไฮ้ให้เห็นผ่านหุ่นขี้ผึ้ง และมีภัตตาคาร ร้านอาหารต่างๆให้บริการ
เดินถ่ายภาพและชมวิวกันคนละรอบสองรอบ เป็นที่หน่ำใจแล้วก็เข้าแถวต่อคิวเพื่อลงลิฟท์มาที่ชั้นล่างบริเวณขายของชำร่วย ใครใคร่ซื้อ ซื้อค่ะ พอมีเวลาเหลือช่วงบ่ายคุยกันแล้ว hana อยากไปเดินถนน Wujing (อู๋จิง) จำตำราท่องเซี่ยงไฮ้ ถนนอู๋จิง เป็นถนนที่ขายของก็อปปี้แบรนด์เนมมากมาย ให้เลือกไม่หวาดไม่ไหว ใครมาเซี่ยงไฮ้ต้องไปค่ะ ดังนั้นขากลับเราจึงกลับรถไฟใต้ดินเหมือนเดิมแต่ต้องนั่งเลยไปอีก 1 สถานี คือ Jinggan Temple Station แล้วเดินไปทางนานจิงลู่ทางฝั่งตะวันตก เดินไปนิดหน่อยก็ถึง (แผนที่เค้าบอกมาค่ะ)
เมื่อมองหาถนนอู๋จิง ที่เป็นถนนเล็กๆ ที่แยกตัวจากนานจิงลู่ฝั่งตะวันตก ก็หวั่นๆ ว่าใช่หรือเปล่าเพราะ ในแผนที่ไม่ได้บอกอะไรที่โดเด่นไว้เลย พอเจอถนนอู๋จิง แล้วยิ่งใจแป๋วเลยค่ะ เพราะมองหาแผงขายของไม่เจอเลย มีแต่ร้านขายอาหารปิ้งๆ ย่างๆ ที่มีคนมุงกันเตมไปหมด ส่วนอีกฝั่งของถนนก็ปิดทำถนนอยู่ เห็นแล้วถอดใจเลยค่ะ ว่ามาเที่ยวนี้คงไม่ได้ shopping แล้วล่ะ
|
|
|
|
|
|
ขากลับ เราเดินกลับ เพราะจากที่อยู่ตรงนี้เดินไปไม่ไกลก็เป็น Peoples square ค่ะ กำลังเดินอยู่ ชาวคณะน้องๆ ต่างบ่นเมื่อยเดินไม่ไหวแล้ว มองซ้ายมองขวาเห็นร้านกาแฟที่ตึกฝั่งตรงข้าม เราจึงเดินข้ามถนนไป พอเข้าไปในอาคารกลางเก่ากลางใหม่ แล้วมีเฮค่ะ เพราะอาคารนี้เป็นแหล่งรวมร้านค้าขายของก๊อปปี๊ค่ะ จากที่เหนื่อยๆ เมื่อยๆ ก็หายแล้วค่ะ สามารถเดินต่อได้เลย
ในอาคาร(จำชื่อไม่ได้ค่ะ แต่ถ้าเดินมาจาก Peoples square จะอยู่ขวามือ ) มีประมาณ 4-5 ชั้น แต่ละชั้นขายของก็อปปี้ ทั้งหมดค่ะ คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการต่อรอลแล้วค่ะ ว่าสามารถแค่ไหน ว่ากันว่าต่อได้ถึง 70-80% เลยค่ะ การมาซื้อของแบบนี้ถือได้ว่าเป็นเสนห์ของเมืองจีนค่ะ จะรู้สึกสนุกมาก เพราะเราต้องดูของแล้วประเมินว่าชอบไม่ชอบ แล้วต่อไปเลยค่ะ ไม่มีคำว่าเกรงใจค่ะ ตัวอย่างนะ พี่ maya ซื้อปากกามองบรัง(ด้ามเล็ก) ร้านแรกราคาเปิดที่ 50 หยวน ต่อไปต่อมาได้ 7 ด้าม 100 หยวน ค่ะ นี่ร้านแรกนะค่ะ ร้านต่อมาเห็นเราซื้อเค้าก็ขายเราบ้างแล้วบอกราคามาว่าถ้าซื้อกะเค้า เค้าให้ด้ามละ 10 หยวนนะคะ ซื้อไปอีก 10 ด้าม ผ่านไปค่ะ ร้านต่อมา ขายอีกคราวนี้เราต่อได้ถึง ด้ามละ 5 หยวนแนะค่ะ ซื้อไปอีก 10 ด้าม ลองคำนวณกันดูเอาเองนะคะว่าต่อได้กี่เปอร์เซ็นต์ เรียกว่าซื้อเอามันค่ะ ซื้อแล้วอย่าซีเรียสนะคะ เพราะไม่งั้นเครียดแย่เลย ถ้าเทียบกันราคาร้านสุดท้าย 555++
ซื้อได้สนุกสุดแค่ 1 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น ยื้อไม่ได้แล้วค่ะ ไม่งั้นมีตกเครื่องได้ค้า...เพราะต้องกลับไปเอากระเป๋า และเอ่ยอำลา เซี่ยงไฮ้กันจริงๆ กันแล้วค่ะ |
|
|
-- นู๋นิดหน่อย --
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|