เข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรัก วันนี้นิดหน่อยขอนำท่านกลับไปชมภาพยนตร์ฮอลลีวู๊ดอีกครั้ง หลังจากไปหลงใหลกับ
ซี่รีย์เกาหลีมาช่วงหนึ่งนะคะ หนังรักโรแมนติกมีหลายเรืองด้วยกัน แต่เรื่องที่มีฉากของบ้านที่สวยโรแมนติกประทับใจไม่รู้ลืม มีไม่กี่เรื่องค่ะ
เรื่อง Something's gotta give ก็เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องนั้น

                หรือ ชื่อไทยคือ รักแท้ไม่มีวันแก่ เป็นเรื่องราวของหนุ่มโสดตลอดกาลแฮร์รี่ แซนบอร์น (แจ็ค นิโคลสัน) ที่นิยมเลือกออกเดท กับสาวสวยที่อายุน้อยกว่า 30 เท่านั้น และด้วยเหตุแห่งสุขภาพไม่อำนวยทำให้เค้าต้องไปพักที่บ้านพักชายทะเลของแม่ของหญิงสาวคู่เดทล่าสุด หรือ มาริน (อาแมนด้า พีท)

               ในระหว่างนี้ แม่หรือ เอริก้า แบร์รี่ (ไดแอน คีตัน) นักเขียนบทละครชื่อดังที่หย่าขาดจากสามี ผู้เป็นแม่ของมาริน จำใจช่วยพยาบาลแฮรี่ให้กับลูกสาว เมื่อทั้งคู่อยู่ด้วยกันตามลำพัง ความสัมพันธ์ครั้งใหม่จึงเกิดขึ้น แง่มุมมองของทั้งสองเริ่มเปลี่ยนไป และเมื่อยอมรับกับตัวเอง และตามหาความรู้สึกของตัวเอง เรื่องจึงจบแบบ happy ending ค่ะ

                Nancy Meyers กำกับหนังรักโรแมนติกเรื่องไหน เรื่องนั้นต้องได้ฉากหนังสวยๆ ที่เรียกความประทับใจให้เราไม่รู้ลืม และใน Something gotta give นี้ก็เช่นกัน Nancy (ผู้กำกับ) ได้จัดฉากบ้านพักบนเกาะริมทะเล "beach cottage" ให้บ้านหลังนี้ให้ความรู้สึกถึงกลิ่นอายของทะเลในทุกส่วนของบ้านไม่ว่าตัวละครจะเดินไปส่วนไหนของบ้าน การตกแต่งภายในจึงละเอียดในทุกจุด ทุกอย่างที่นำมาประกอบในฉากล้วนมีความหมาย อย่างการเลือกใช้โทนสี ฟ้า ครีม และ น้ำตาล ส่วนเป็นสีพื้นฐานที่ให้ความรู้สึกเหมือนใกล้ชิดทะเล หรือเมื่อนึกถึงสีของทะเล คือ เราก็จะนึกถึงสีฟ้า

                บ้านนี้มี 5 ห้อง คือ living room, dining room, 2 ห้องนอน และห้องครัว นิดหน่อยขอพาเดินชมรอบๆ นะคะ เริ่มจากห้องครัว ก่อนล่ะกัน Nancy เลือกใช้ห้องครัว เป็นห้องที่มีกิจกรรม และเป็นห้องที่ใช้เป็นฉากเดินเรื่องเป็นส่วนใหญ่ ห้องนี้เรียกได้ว่า “Dream Kitchen” สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำครัว เห็นครัวนี้แล้วละก็จะต้องร้องแบบนิดหน่อยแน่ๆ เลยว่า นี่แหละใช่เลยครัวในฝันของฉัน ตู้ครัวสีขาวในส่วนต่างๆ ของห้องให้ความรู้สึกถึงความสะอาด การจัดวาง เตา เตาอบ และฮู๊ด ขนาดใหญ่ ในฝั่งเดียวกันเพื่อง่ายต่อการทำอาหาร เพื่อรองรับการทำครัวหนักมีการเลือกปูกระเบื้องสีขาวในบริเวณเตา จะได้ง่ายต่อการทำความสะอาด ตัดกันกับท็อปหินสีดำ ทั้งส่วนเคาน์เตอร์ครัว และisland เข้ากันได้ดีกับผนังสีเทาและพื้นสีเข้มเกือบดำ ทำให้ห้องนี้ดูเนี๊ยบได้อย่างไม่น่าเชื่อค่ะ  

                Island ขนาดใหญ่กลางห้อง เป็นส่วนเตรียมอาหาร และล้าง แค่หันหลังกลับจากเตา สามารถหยิบของที่เตรียม หรือ สามารถใช้อ่างน้ำได้ทันที นอกจากนี้ island หรือ เคาน์เตอร์ด้านข้างยังถูกเตียมไว้เป็นพื้นที่สำหรับทานอาหารทำให้ง่ายขึ้นเมื่อง่ายๆ ได้อีกด้วยค่ะ

                ห้องรับประทานอาหาร เป้นห้องที่เต็มไปด้วยตู้ built-ins สีขาว เป็นส่วนใหญ่ของของผนังตกแต่ง โชว์จานแบบต่างๆ กัน ห้องนี้เน้นสีขาว ของตู้ที่เป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของผนัง และสีครีมสำหรับพื้นที่ที่เหลือ contrast กันกับพื้นไม้  โคมไฟ และโต๊ะสีเข้ม แม้จะเป็นพื้นที่เล็กๆ ของห้องรับประทานอาหารแต่ก็ยังให้ความรู้สึกถึงความหรูหรา เรียกได้ว่าเป็นความหรูหราบนความสบายๆ ของบ้านริมหาด

                โต๊ะรับประทานอาหารขนาด 180 เซนติเมตร กับเก้าอี้อาร์มแชร์ 6 ที่นั่ง ไม่เล็ก ไม่ใหญ่เกินไป Nancy ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ แม้แต่เก้าอี้สำรอง สำหรับแขก ที่วางมุมห้องก็เข้าชุดกันกับเก้าอี้อาร์มแชร์สำหรับประทานอาหาร รวมไปถึงการเลือกผ้าคลุมเก้าอี้ก็ทำให้บรรยากาศของห้องดูนุ่มนวลลงได้

                ห้องนอนเล็กเป็นห้องนอนแขก ที่ในเรื่อง เป็นห้องที่ไว้รับรอง แฮร์รี่ แซนบอร์น แม้จะเป็นห้องนอนเล็ก แต่ก็สามารถให้ความรู้สึกสบายๆ ได้ สามารถนั่ง chat บนเตียงนอนได้ ที่น่าสนใจคงเป็นโคมไฟ ที่ติดผนังยื่นออกมาได้ระดับศีรษะ เมื่อนั่งกึ่งนอน จะให้แสงที่พอดีกับการอ่าน อีกอย่างการตกกระทบของแสงทำให้แสงที่ออกมาไม่แยงตาอีกด้วยค่ะ

                ห้องนอนของเอริก้า แบร์รี่ เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ ที่ประกอบไปด้วยส่วนชุดโซฟา อาร์มแชร์ ไว้พักผ่อนเป็นส่วนตัว  สบายๆ ไม่เน้นรับแขก ถัดไปเป็นเตียงนอน และในสุดหรือมุมมุขของห้องเป็นส่วนทำงาน โต๊ะทำงานพอดีกันหันหลังให้ประตูแต่หันหน้าออกสู่ทะเล เป็นโตะทำงานที่บิ้วอารมณ์ได้เป็นอย่างดีเชียวค่ะ เหมาะที่จะเป็นโต๊ะทำงานของนักเขียนชื่อดังค่ะ

                ห้องนี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นส่วนตัวสูงของเจ้าของห้อง ดูได้จากมี day bed ในทุกมุม และทุกจุดที่วางได้ ที่เอริก้า สามารถ เดิน นั่น และนอน ในห้องได้อย่างสบายๆ

                ห้องสุดท้าย เป็นไคแมก ของบ้านอีกห้องค่ะ นั่นคือ ห้องรับแขกห้องนี้ คือ ห้องที่เด่นของบ้านเป็นจุดเชื่อมต่อของเรื่องราวต่างๆ วมถึงเป็นห้องเชื่อมกลางระหว่างห้องของ เอริก้า และ แฮร์รี่ ด้วย  Nancy นำโทนสีที่ถูกกำหนดไว้มาใส่ในส่วนต่างๆ ของบ้าน เช่น ห้องรับแขกเลือกพรม ก็เลือกใช้สีฟ้าสลับกับสีครีมปูทั้งห้องรับแขก ทั้งสองสีเป็นสี classic ให้ความรู้สึกสดชื่นแบบฤดูร้อน  โซฟายาว 2 ชุด และอาร์มแชร์  2 ตัว ประกอบกันเป็นชุดรับแขกรูปตัวยู เป็นการจัดกรุ๊ปให้กับชุดโซฟา ทำให้ห้องรู้สึกอบอุ่น

                การใช้ coffee table ที่เป็นผ้าบุ ทำให้ห้องยิ่งดู soft มากขึ้น และห้องดูไม่เป็นทางการจนเกินไป และด้วยเหตุนี้ ถาดสำหรับวางของต่างๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะทำให้เคลื่อนย้ายสะดวก และยังเป็นตัวกันเปื้อนให้กับผ้าบุอีกด้วยค่ะ

                เมื่อ เอริก้า เป็นนักเขียนชื่อดัง ดังนั้นมุมหนึ่งของห้องรับแขกจึงถูกจัดให้เป็นห้องสมุดส่วนตัวเล็กๆ ที่เก็บทั้งผลงาน และข้อมูลต่างๆ ของตัวเอง รวมไปถึงหนังสือที่น่าสนใจอีกมากมาย ค่ะ การเลือกใช้เก้าอี้หวายสีเข้มทำให้มุมทนี้ดูโดเด่นขึ้นมาและเป็นตัวดึงความสนใจของสายตามาที่มุมนี้  เป็นอีกมุมที่ถูกจัดขึ้นได้อย่างน่าสนใจไม่แพ้ห้องใหญ่ๆ อื่นๆ เลยค่ะ

                สีส่วนใหญ่ของบ้านเป็นสีขาว และน้ำตาล designer เก่งมากที่นำเอาสีฟ้ามาแต้มใส่ส่วนต่างๆ ของบ้านได้อย่างแนบเนียนทีเดียวค่ะ เช่น ดอกไม้ที่ใช้ เป็นสีโทนฟ้า อมม่วงค่ะ นอกจากนี้ยังมีภาพเขียนที่ถูกหยิบมาใช้ ตั้งแต่ภาพประภาคารสีขาวบน background สีฟ้าของท้องฟ้า ภาพวาดสีน้ำมันของภาพชายหาดที่เห็นสีฟ้าของท้องฟ้าอยู่ 1 ใน 3 ของภาพ สีฟ้าลายทางของหมอนอิง หรือ แม้กระทั่ง พรมลายฟ้า-ครีม ก็ตาม ต้องขอปรมมือในการ match สีของ designer ค่ะ

                อ้อ แถมท้ายให้นิดหนึ่งค่ะว่า "beach cottage" หลังนี้ได้รับการออกแบบตกแต่งให้ได้ดังใจของ Nancy โดย production designer Jon Hutman and Set Decorator Beth Rubino  เป็นอีก 2 ในทีมงานที่สร้างสรรภาพในฝันของ Nancy  ให้เป็นภาพฝันของอีกหลายๆคนค่ะ เอ..ถ้าดูภาพแล้วติดใจก็ต้องลองหา DVD เรื่องนี้มาดูกันนะคะมีขายตามร้านค้าทั่วไปค่ะ

                ขอบคุณ                 DVD from Sony Pictures Home Entertainment
                                            www.sonypictures.com/homevideo/somethingsgottagive
                                            www.imdb.com
                                            และ  www.architecturaldigest.com

-- นิดหน่อย --