Mamma Mia .. Summer นี้วุ่นแท้

            Mamma Mia คือ เป็นภาพยนตร์ที่เพิ่งจะลาโรงไป แต่ยังคงสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมไม่รู้ลืม ไม่ว่าจะเป็นฉากบนเกาะคาโลไกริที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของกรีก หรือบทเพลงของ ABBA ว่ากันว่า Mamma Mia ภาค ภาพยนตร์ กับที่เป็น ละครเวที นั้นไม่ค่อยต่างกันเท่าไร แต่สำหรับในภาพยนตร์นั้นฉากคงอลังการ และสมจริงมากกว่า ให้เราเห็นถึงบรรยากาศของเกาะสวรรค์

             ภาพยนตร์ Mamma Mia เป็นเรื่องราวของคุณลูกโซฟี (อาแมนด้า ไซเฟร็ด) มีกำหนดการแต่งงานกับ สกาย (โดมินิค คูเปอร์) จึงได้ส่งบัตรเชิญ ชายสามคนในบันทึกของแม่ ดออน่า (เมอริล สตรีพ) มาในงานแต่งงานของตนเอง เพื่อค้นหาพ่อที่แท้จริงของตนเอง ว่าเป็นใคร ในชายหนุ่มสามที่เคยเข้ามาพัวพันกับแม่ดอนน่า ตั้งแต่  นักธุรกิจ แซม คาร์ไมเคิล (เพียร์ซ บรอสแนน), นักผจญภัย บิลล์ แอนเดอร์สัน (สเตลแลน สการ์สการ์ด) และนายธนาคาร แฮร์รี่ ไบรท์ (โคลิน เฟิร์ธ) โซฟีได้จัดการเชิญชายทั้งสามคนมางานแต่งงานของเธอ “เพลง Honey, Honey” โดยไม่บอกให้แม่รู้ เพราะเธอเชื่อในสันชาตญาณของตนเองว่า เมื่อพบจะรู้ว่าคือใคร..

             เมื่อชายทั้งสามคนเดินทางมาถึง และโซฟีแอบพาทั้งสามคนไปยังห้องพัก(โรงเก็บข้าวโพด) ที่ ที่เธอจัดไว้ให้ และอธิบายให้ทั้งสามคนฟังว่าเธอต่างหากที่เป็นคนส่งบัตรเชิญไปให้ ไม่ใช่แม่ของเธอเป็นคนส่งไป เธอขอร้องให้ชายทั้งสามแอบซ่อนตัวก่อน แต่ก็ไม่พ้นสายตาของแม่ดอนน่า  อดีตคนรักทั้งสามของแม่ดอนน่าที่เธอไม่เคยลืมเลือน “เพลง Mamma Mia” ขณะที่พวกเขาเอ่ยปากขอโทษที่พวกเขาโผล่มาอย่างตะกุกตะกัก ดอนน่าปฏิเสธที่จะให้พวกเขาพักอยู่ด้วยและไล่ให้กลับไป

             ความลับที่เก็บมานานจึงเปิดเผยขึ้น เมื่อดอนน่าเล่าให้เพื่อนคู่หูทั้งสอง(ทันย่าและโรซี่) ฟังเกี่ยวกับความรักอันโลดโผนของตัวเอง “เพลง Chiquitita” เรื่องราวเดินเรื่องอย่างงสนุกสนานไปเรื่อยจนไปจบที่โบสถ์ ในงานแต่งของโซฟี ที่เธอว่ามีเพียงพ่อที่เธอรู้จักเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะเป็นคนส่งมอบตัวเจ้าสาว และบทได้พลิกโผขึ้นไปอีกเมื่ออยู่ๆ โซฟีกล่าวว่าเธอและสกายยังไม่พร้อมสำหรับการแต่งงาน แต่อยากออกเดินทางผญจภัยในโลกภายนอกก่อน แล้วงานแต่งงานที่ว่าจะล่มก็กลับกลายเป็นงานแต่งของแม่ดอนน่าแทน เมื่อแซมขอแต่งงาน และแม่ดอนน่าตอบตกลงด้วยเพลง “เพลง I Do, I Do, I Do, I Do, I Do” จบฉากเรื่องราวอัลวลเวง ด้วยฉากที่โซฟีและสกายกล่าวอำลาเกาะสวรรค์แห่งนี้ และล่องเรือไปสู่ชีวิตใหม่ด้วยกัน “เพลง I Have a Dream” เป็นชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยความหวังและคำมั่นสัญญา
Mamma Mia เริ่มเรื่องด้วยการพายเรือเข้า และจบเรื่องด้วยการพายเรือออก (คิดได้งัย..นี่) เรื่องราวของ Mamma Mia ไม่ได้สร้างความประทับให้ผู้ชมแค่บทเพลง การประสานเสียง และการเต้นรำของตัวละครเท่านั้น หากแต่หมายรวมถึง ทิวทัศน์ที่ดูอลังการ

             เกาะสวรรค์ ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของแบบกรีก บนเกาะคาโลไกริทำให้เห็นว่าบรรยากาศที่สวยก็ทำให้ Villa Donna ที่ดูเหมือนธรรมดา ก็ดูสวยขึ้นได้ค่ะ บ้านพักตากอากาศดอนน่าเป็นตัวแทนของบ้านบนเกาะ เกาะคาโลไกริ จะเข้าบ้านต้องเดินขึ้นบันไดขาว เข้าสู่ลานอเนกค์ประสงค์กลางบ้านก่อน ลานอเนกประสงค์จะถูกปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามเนื้อเรื่อง อย่างฉากที่ตอนรับเพื่อนรัก ก็ใช้เป็นที่ตากผ้าหลากสีสรร แสดงให้เห็นถึงศิลปวัฒนธรรมของชนพื้นเมือง บนลวดลายของผ้าทอ และลายปักบนผ้า เป็นลานโล่งๆ เมื่อเล่าเรื่องถึงวัยสาวของดอนน่า ช่วงนี้ยังแสดงให้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเกาะว่าผู้ชายก็จะนั่งชุมนุมตามโต๊ะของลานอเนกประสงค์ และผู้หญิงก็ทำครัว ทำขนมไปพลาง  นอกจากนี้ ลานอเนกประสงค์ ยังเป็นพื้นที่สำหรับจัดงานปาร์ตี้สละโสด ในยามค่ำคืนก่อนวันงาน และเป็นพื้นที่สำหรับงานเลี้ยงฉลองแต่งงานที่จะมีขึ้นหลังจากงานพิธีด้วย

             การเลือกใช้สีน้ำเงินอมเขียวเป็นหลักแต่สามารถวางผสมกับสีแดง ได้ไม่ขัดเขิน เรียกได้ว่าเป็นงาน design แบบ กรีก ก็ว่าได้ค่ะ เพราะจาก material ที่ใช้ในการก่อสร้าง ตั้งแต่ปูนฉาบผนัง เป็นปูนเปลือยสี เทอร์ควอยซ์ (Turquoise) สำหรับภายในบ้านในส่วนห้องนอน ของ ดอนน่า และโซฟี และประตูต่างๆ ตัดกับสีผนังปูนฉาบสีขาวภายนอกค่ะ พื้นของชั้นสองเป็นพื้นไม้ ดังนั้นฝ้าของชั้นหนึ่งจึงเป็นไม้ด้วยค่ะ

             งานปักผ้าที่เห็นโดดเด่นมากในฉากต่างๆ ที่ใช้เป็นส่วนประกอบหลัก แสดงให้เห็นถึงลวดลาย และแพทเทิร์นที่ค่อนข้างมาก บ่งบอกถึงวัฒนธรรมของชาวเกาะ อย่างผ้าห่มของโซฟี มีการใช้ปักลายของ Pottery ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นเมดิเตอร์เรเนียนด้วยการ เย็บ ถักชายด้วยลวดลายเปลือกหอยได้อย่างเก๋ไก๋ค่ะ มีการใช้ผ้าพิมพ์ลายสีฟ้าที่มองเหมือนเป็นการล้อสีของท้องทะเล หรือจะเป็นผ้าคลุมเตียงปักลายพระอาทิตย์ตามความเชื่อของชาวกรีซที่บูชาดวงอาทิตย์ มีการใช้เตียงเหล็ก Motif เรียกได้ว่าเป็นการลงลายละเอียดในทุกจุดแม้แต่เรื่องเล็กๆ เสริมให้เรื่องราวให้น่าสนใจยิ่งขึ้นค่ะ ที่ลืมไม่ได้เลย คือ การใช้แสง ให้ออกมาลักษณะเหมือนแสดงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาตามประตูและหน้าต่างของห้องต่างๆ ได้อย่างลงตัวมากๆ ดูแล้วได้บรรยากาศที่แลดูอบอุ่น

ปล. ในเรื่องมีเพลงเพราะๆ ให้ฟังถึง 18 เพลง ด้วยกัน ถ้าสนใจชม ลองหา DvD มาชม แต่ถ้าสนใจแค่เพลงนี่อาจต้องสั่งซื้อพิเศษนะคะ

ขอบคุณ  DVD ภาพและข้อมูลจาก united international picture
             www.universalpicturesinternational.com
             www.mammamiamovie.com
             www.imdb.com

เข้าชมรายละเอียดเกี่ยวกับละครเวทีของ mamma mia ได้ที่
             www.mamma-mia.com