home
about bareo
news & event
art of design
decor guide
the gallery
living young
talk to editor
links
 
 



                  เมื่อต้องนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นานๆ คุณเคยมีอาการกล้ามเนื้อตาล้า ตาเบลอ ปวดกระบอกตา แสบตา ตาแดง น้ำตาไหล ปวดหัว ตัวร้อน ปวดคอ ปวดไหล่ ปวดหลัง คลื่นไส้ วิงเวียน หรือไม่ ค่ะ อาการเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้ว่าคุณมีอาการของภาวะ CVS หรือโรค Computer Vision Syndrome ค่ะ


                   โรค CVS หรือ Computer Vision Syndrome เป็นโรคที่มีสาเหตุมาจาก ผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ โดยผู้ใช้เพ่งมองคอมพิวเตอร์โดยไม่กระพริบตา หรือ กระพริบตาน้อยลงกว่า 20 ครั้งต่อ นาที ทำให้ตาแห้ง แสบตา และรู้สึกฝืดตา รวมถึงแสงสะท้อนจากคอมพิวเตอร์ที่จ้าก็มีส่วนทำให้เกิดอาการดังกล่าวได้
สำหรับการดูทีวีเป็นเวลานานยังไม่เท่ากับการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน เนื่องจาก ดูทีวีไม่ได้ดูรายละเอียดมากเท่ากับการใช้สายตาเพ่งคอมพิวเตอร์ ทำให้เมื่อใช้สายตามองคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานทำให้มีปัญหาต่อสายตา และทำให้กล้ามเนื้อตาล้า ปวดศีรษะ อาเจียนถึงขั้นหมดสติได้ นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดอาการสายตาสั้นชั่วคราวได้อีกเช่นกัน ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้สายตาไม่ได้สั้น แต่สายตาเปลี่ยนแปลงชั่วคราว ทำให้รู้สึกว่าสายตาพร่ามัว และสายตาสั้น และผลระยะยาวอาจก่อให้เกิดโรคต้อกระจกเร็วกว่าปกติ หรือมีปัญหาประสาทตาเสื่อมได้ค่ะ
หากคุณคือ คนที่ต้องใช้เวลากับคอมพิวเตอร์นานๆ ให้ลองใช้วิธีเหล่านี้ในการถนอมสายตา คือ

       
                  1.ควรเลือกจอภาพที่มีการกระจายรังสีต่ำเพื่อถนอมสายตา ทดสอบจอภาพง่ายๆ โดยปิดสวิตช์จอภาพ แล้วเอามือไปจ่อไว้ใกล้ๆ จอภาพให้มากที่สุด หากไม่รู้สึกถึงไฟฟ้าสถิตแสดงว่าจอภาพมีการกระจายรังสีต่ำ
       
                  2.ควรปรับหน้าจอและความคมชัดของจอภาพให้ได้ระดับที่มองหรือทำงานแล้วรู้สึกสบาย นอกจากนี้ยังรวมถึงแสงสว่างโดยรอบของโต๊ะทำงานอีกด้วย ให้มีความสว่างเพียงพอและรู้สึกสบายตา ลดแสงสะท้อนในส่วนที่สะท้อนกับจอทำให้มองแล้วไม่สบายตาค่ะ

                  3.ระยะห่างจากจอภาพถึงตาควรไม่น้อยกว่า 18 นิ้ว และองศาของจอควรอยู่ที่ 15-20 องศา เพื่อลดอาการเมื่อยล้า และปวดตา
       
                  4.ติดแผ่นกรองแสงที่หน้าจอ เพื่อลดแสงจ้าจากคอมพิวเตอร์
       
                  5.ทำความสะอาดหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่สม่ำเสมอ ฝุ่น และรอยนิ้วมือบนจอล้วนมีผลต่อการสะท้อนแสงค่ะ

                  6.ควรพักสายตาเป็นระยะๆ เพื่อช่วยลดอาการเมื่อยล้าจากการจ้องมองจอคอมพิวเตอร์  The National Institute of Occupational Safety and Health (NIOSH) แนะนำให้หยุดพักสายตาครั้งละ 15 นาทีทุกๆ 2 ชั่วโมง ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนก็แนะนำว่าควรจะหยุดพักบ่อยๆ โดยแต่ละครั้งใช้เวลาเพียงเล็กน้อย เช่น พักสายตาทุก 30 นาที โดยหลับตาหรือมองไปไกลๆ สัก 5-10 นาที แล้วจึงเริ่มทำงานต่อไป ก็จะช่วยถนอมสายตาได้เช่นกันค่ะ

                                                                              

 

 
 
 
 

 

 

                  7.ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ วางไว้บนเปลือกตา และหลับตาสัก 2-3 นาที ก็เป็นการช่วยพักสายได้เช่นกัน
       
                  8.สำหรับผู้ที่ใส่คอนแท็กเลนส์ อาการตาแห้ง เพราะขาดน้ำหล่อเลี้ยง ควรใช้น้ำตาเทียมหยอด เพื่อช่วยความชุ่มชื้นให้กับดวงตาค่ะ       

                  9.สำหรับผู้ที่ใส่คอนแท็กเลนส์ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป ควรพบแพทย์ เพื่อตรวจเช็คสุขภาพตาบ้างค่ะ

                  10.ควรกะพริบตาให้บ่อยครั้งกว่าปกติ เพื่อให้มีน้ำหล่อเลี้ยงดวงตาอยู่เสมอ ภายใน 10 วินาที ลองพยายามกะพริบตาสัก 1-2 ครั้ง จะช่วยลดความอ่อนล้าของสายตาได้มาก

                  11. การนอนพักผ่อนให้เพียงพอ จะทำให้ร่างกายสดชื่น และลดอาการเมื่อยล้าต่างๆ ได้ค่ะ

                  12. ในต่างประเทศพบว่าการนำกระบองเพชร หรือตะบองเพชร หรือแคคตัส (cactus) ตั้งหน้าคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยลดปัญหาต่างๆอันเกิดจากรังสีที่แผ่ออกมาของคอมพิวเตอร์ได้


                  
อาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นอาจไม่ส่งผลเสียในระยะสั้น แต่จะมีผลต่อสุขภาพในระยะยาวค่ะ อีกทั้งยังมีส่วนให้ทำงานได้ผลไม่เต็มที่ด้วยค่ะ วันนี้ลอง ปรับพฤติกรรมการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์กันดีกว่านะคะ นอกจากช่วยลดอาการต่างๆ แล้วยังทำให้การทำงานด้วยความรู้สึกสดชื่นค่ะ

 

 
 

 

-- เดียร์ --

 
     
           

 


บริษัท บาริโอ จำกัด

50 ซอยบรมราชชนนี 4 ถนนบรมราชชนนี เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700   Tel. 66 2881 8536-7   Fax. 66 2881 8538