Congratulation กับก้าวย่างปีที่ 20 กับ bareo-isyss ค่ะ แหม.. อายุขนาดนี้ต้องบอกว่าหนูเป็นสาวแล้ว... จากการตามเก็บผลงานที่ผ่านมามีงานที่ประทับใจมากมาย ถ้าให้เล่า Hana คิดว่าน่าจะเล่า 3 วันยังไม่จบเลย(ไม่เวอร์นะคะ) เพราะในแต่ครั้งที่เราทำงาน จะมีเรื่องเล่าจากทั้งฝ่ายดูแลลูกค้าที่ปลื้มลูกค้าก็มี ฝ่ายออกแบบที่ออกแบบงานมาแล้วลูกค้าชอบ หรือ ฝ่ายผลิตและฝ่ายโครงการจะภูมิใจมากมากในงานหินๆ ที่กว่าจะผลิตงานออกมาได้ยากเย็นแสนเข็ญนั้นก็เป็นอีกหนึ่งบททดสอบให้เค้าเหล่านั้นฝ่าฟันไปได้  และเมื่อ Hana ตามไปเก็บผลงานมาฝาก ก็จะมีมุมมองที่ต่างกันออกอีกด้านกลับมา แต่ในทุกๆครั้งที่มีกระแสเสียงกลับมา เราต่างเก็บมาเล่าเรื่องราวสู่กัน เพื่อปรับปรุงงานให้ดียิ่งๆๆ ขึ้นไปค่ะ

               วันนี้ Hana ขอนำเสนอ 10 ห้องรับแขก หรือ 10 Living room ในดวงใจมาฝากนะคะ เป็นห้องรับแขกในแบบที่ต่างกันที่สร้างประสบการณ์และความประทับใจได้ต่างๆ กันออกไป

                ห้องแรก ห้องแรกเป็นห้องรับแขก (Double Space) ที่มีความสูงของฝ้าถึงเกือบ 7 เมตร ทำให้ห้องนี้ดูโปร่ง หรูหรา และเป็นจุดสนใจจุดหนึ่งของบ้านได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเมื่อแขกมาเยือนจะต้องตลึงค่ะ เป็นงานตกแต่งที่เต็มรูปแบบค่ะ เพราะมีการตกแต่งผนัง Double space ด้วยไม่ทำสีขาว และเซาะร่อง เป็นการเล่นเส้นและลายเพื่อไม่ให้ผนังดูโล่งจนเกินไป

                ที่ปลื้มอีกอย่างของห้องนี้เห็นจะเป็น sofa และ Bay Sofa ที่โค้งรับ Bay window ขนาดใหญ่ ค่ะ เป็นจุดนำสายตาจากภายในบ้านสู่ภายนอกบ้านสร้างความรู้สึกโปร่ง โล่ง และนำสายตาสู่ชั้นบนอย่างต่อเนื่อง สร้างเสน่ห์ที่แตกต่างให้กับห้องนี้อีกแบบค่ะ

                จากความหรูหราของบรรยากาศของห้อง ถ้ามองดีๆ เราจะเห็นว่ามีการสอดใส่ความเป็น neoclassic เล็กๆ ทั้งในส่วนของแบบลวดลายของตู้เตี้ย ผ้าบุของ sofa หรือแม้กระทั่งมือจับที่เลือกใช้ แต่ทั้งนี้ designer เลือกใช้พรมหนาสีอ่อนปูกลางห้องเป็นการแอบใส่ความนุ่มนวลและเพิ่มความสว่างไสวลงไปด้วย

                ห้องนี้นอกจากจะเป็นห้องรับแขกในดวงใจของ Hana แล้วยังเป็นห้องรับแขกในดวงใจของอีกหลายๆ คน ค่ะ ดูได้จากกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาให้ bareo-isyss ตกแต่งบ้าน จะมีการอ้างอิงถึงห้องนี้เป็นประจำ ซึ่งเราก็ตอบสนองไปได้หลายท่าน ซึ่งบางครั้งอาจไม่เหมือนทีเดียว แต่ก็ได้กลิ่นอายคล้ายๆ กันค่ะ เนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องของสไตล์ และพื้นที่ที่จะต้องเสียไปในส่วนของชั้น 2 อีกด้วยค่ะ

http://www.bareo-isyss.com/16/passon.htm

                     2. หากใครชอบงานสไตล์ Modern ต้องกรี๊ดกับห้องรับแขกนี้แน่ๆ ค่ะ ที่จัดมุมหนึ่งของชั้นล่างให้เป็นเพื้นที่ของห้องรับแขก ห้องนี้ตรงกับประตูใหญ่ของบ้าน และยังเป็นห้องที่ได้มุมติดกับสวนและบ่อเลี้ยงปลา ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ที่ปลื้มที่สุดของห้องนี้เห็นจะเป็น โซฟารูปถั่วที่สามารถนั่งได้ 2 ด้าน ทำให้เราสามารถเลือกได้ว่าจะหันหน้าออกสู่สระน้ำ และประตูใหญ่ หรือ จะหันหน้าเข้าเพื่อดูทีวีก็ได้ ค่ะ รับกับการเล่นระดับฝ้าที่เลือกโคมขนาดใหญ่แขวนตกแต่งกลางฝ้าหลุม

                     ห้องรับแขกสีขาวทั้งส่วนผนังทั่วไป และเน้นแผงแขวนทีวีด้วยผนังกรุเซาะร่องสีขาวลายเส้น เพิ่มความโดดเด่นของแผงนี้ด้วยผนังด้านข้างทาสีเขียวตองสด เป็นจุดดึงสายตาได้เป็นอย่างดีค่ะ เป็นห้องรับแขกสไตล์โมเดิร์นที่ใครเห็นก็กรี๊ดค้า..

http://www.bareo-isyss.com/44/44_port_doungruthai.html

                3. ห้องรับแขกที่เน้นความโอ่โถง และความหรูหรา เป็นห้องรับแขกที่ใช้พื้นที่ double space ค่ะ  จาก concept ที่เจ้าของบ้านที่ชื่อบสไตล์คลาสิค จึงเน้นย้ำกับ Designer ว่าอยากได้เป็นสไตล์คลาสิค แต่ขอเป็นคลาสิคแบบสมัยใหม่ค่ะ ทาง Designer จึงได้นำเสนอรูปแบบ Classic Contemporary ที่สลัดคราบแนวหลุยออกโดยสิ้นเชิงค่ะ คือ  การอกแบบเน้นถึงความหรูหราจึงออกแบบให้ เมื่อเดินเข้ามาภายในบ้านจะพบโถงกลางที่เล่น double space ทำให้ห้องส่วนต้อนรับดูอลังการมากๆ โดยรวมจุดสนใจไปที่ผนังโค้งตกแต่งด้วยคิ้วไม้ และลวดลายอ่อนช้อยของเหล็กหล่อในส่วนของผนังกันตก ห้องนี้ยังเป็นจุดเชื่อมต่อของบ้านที่จะออกไปส่วนต่างๆของบ้านอีกด้วยค่ะ  นอกจากนี้ยังเน้นให้เห็นถึงความอลังการด้วยความใหญ่โตของประตู ที่มีขนาดใหญ่ และมีช่องแสงด้านบนจึงยิ่งเพิ่มความใหญ่ให้กับประตูอีกค่ะ ที่เชื่อมออกไปสู่ห้องต่างๆของบ้านค่ะ

http://www.bareo-isyss.com/40/40_port_sunee.html

              4. ห้องนี้เป็นอีกห้องหนึ่งที่เป้นงานสไตล์ Modern เน้นสีสรรสดใส และที่แปลกคือ ห้องรับแขกห้องนี้อยู่ชั้น 2 ของบ้านค่ะ เป็นห้องรับแขกที่สวยมากมากห้องหนึ่งค่ะ แต่อาจจะเป็นเพราะต้องการความเป็นส่วนตัวห้องรับแขกจึงยกมาอยู่ชั้น 2 ของบ้านค่ะ เป็นห้องรับแขกที่ทีมโครงการกรี๊ดค่ะ เพราะด้วยความที่ห้องรับแขกนี้มี mini bar สีแดงสด เป็นตู้ซ่อนไว้ หรือที่เราเรียกกันว่า ชุดครัวเอกะ(สามารถดูได้ที่ http://www.bareo-isyss.com/38/38_product_aeka.html.htm ) นำมาพัฒนาต่อเป็น mini pantry ด้านหลังโซฟาค่ะ  โดยคอนเซ็ปหลักคือ ต้องการชุดครัวเล็กๆ เพื่อเตรียมอาหารง่ายๆ และอยากให้ซ่อนไว้ในผนังหากเวลามีแขก หรือไม่ต้องหารให้ทราบว่าตรงนี้มีครัวตั้งอยู่ ภายในตู้จะมีตั้งแต่เตาไมโครเวฟ ซิงค์สำหรับล้างแก้ว จาน ที่คว่ำจาน  ที่เก็บเครื่องปรุง อาหารแห้ง

              นอกจากนี้มุมมุมเคาน์เตอร์บาร์เล็กๆ หลังโซฟา เป็นมุมผ่อนคลายอีกมุม ที่เล่นสีขาวแดง การออกแบบเน้นการใช้งานง่ายๆ และใช้วัสดุและสีสันเน้นที่ความทันสมัย คุณสามารถนั่งจิบชา กาแฟ ยามเช้า พร้อมๆ กับนั่งอ่านหนังสือ ก็ดี หรือจะนั่งจิบไวน์ไปชมสวนย่อมเล็กๆ ไปก็ไม่เลวค่ะ นอกจากนี้ใต้เคาน์เตอร์ยังซ่อนตู้เย็นขนาดเล็กไว้ตุนอาหารได้อีกด้วย นอกจากนี้ เธอยังได้จัดส่วนรับแขกย่อยซ้อนในส่วนรับแขกใหญ่ เพื่อแยกกลุ่มสนทนาได้ เมื่อมีการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ในหมู่เพื่อนๆ ของเจ้าของบ้าน โดยจัดวางเฟอร์นิเจอร์แบบลำลอง เป็นชุดแบบง่ายๆ ในโทนสี Olive Green ที่ดูสบายตาแยกห้องกิจกรรมเด็ก และห้องทำงานไปไว้ ในอาคารต่อเติมใหม่ด้านข้างทำให้เกิดความเป็นส่วนตัว และลดการรบกวนจากกิจกรรมอื่นๆ อีกด้วย

http://www.bareo-isyss.com/38/38_port_vachare.html

              5. ห้องรับแขกนี้สมกับบ้านที่เราเรียกว่า Colourfull in mine mine.. เพราะเป็นบ้านที่เลือกใส่สีให้กับบ้านตามความชื่นชอบส่วนตัวค่ะ ห้องรับแขกที่เน้นสีเหลืองมัสตาสให้ความเด่นสะดุดตาให้กับห้อง บันไดโปร่งราวสแตนเลสยืนต้อนรับแขกอยู่เคียงข้างประตูบ้าน จากเส้นสายของบันไดที่เป็นจุดนำสายตาจากชั้นล่างสู่ชั้นบนอย่างต่อเนื่อง สร้างเสน่ห์ที่แตกต่างให้กับห้องนี้อีกแบบ  นอกจากนี้ยังเป็นอีกหนึ่งห้องรับแขกที่ใช้พื้นที่ Double space ค่ะ ทำให้บ้านดูโปร่ง โดยผนัง Double space  นั้นเจาะเป็นช่องหน้าต่างเพื่อเพิ่มแสงที่ส่องเข้ามาให้กับบ้าน บวกกับสีเหลืองมัสตาสของผนัง ทำให้ห้องนี้ดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น สีเหลืองเป็นสีของความคิดสร้างสรรค์ ความกระตือรือร้น ทำให้ห้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว        

http://www.bareo-isyss.com/36/36_port_k_monporn.html

              6. ห้องรับแขกสไตล์ Neo Classic แบบตะวันตก ผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่เป็นของเก่าของตะวันออก เป็นห้องรับแขกที่เป็นส่วนผสมของวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกได้อย่างลงตัวค่ะ เป็นห้องรับแขกของ Home Office แห่งหนึ่งบนถนนพระราม 3

              พรมสีแดงเลือดหมูรองรับเฟอร์ทั้งหมดกลางห้องทำให้ห้องดูซอล์ฟลง มีการจัดวางตั่ง 2 ตั่ง ใช้เบาะบุผ้าบุสีขาวเพื่อช่วยลดทอนสีเข้มของเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ที่เป็นสีเข้ม ทำให้ห้องดูสว่างไม่ทะมึนเกินไป วางไว้ทั้ง 2 ด้านของห้องใช้แทน Day beds ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ เฟอร์นิเจอร์ ประติมากรรม และของตกแต่งที่เป็นของเก่า ถูกจัดวางได้อย่างลงตัว เป็นการจัดวางที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อและความคิดระหว่างผู้คนที่ต่างยุค ต่างสมัย แต่สามารถนำมาประยุกต์และปรับใช้ร่วมกันได้อย่างมีศิลปะทีเดียวค่ะ

              7.  ห้องรับแขกขนาดใหญ่ ที่เน้นการจัดปาร์ตี้ในหมู่เพื่อนสนิท ที่มารับประทานอาหารและมาทำกิจกรรมร่วมกัน ห้องรับแขกนี้จึงเหมือนกับเป็นห้องศูนย์รวมจิตใจของทั้งภายในครอบครัวและของหมู่เพื่อนๆ ด้วยค่ะ เป็นห้องรับแขกที่มี โซฟา โซฟาแอล รวมถึงโซฟาเบย์ข้างหน้าต่างโค้งที่มีขนาดใหญ่ ทำให้สามารถนั่งๆ นอนๆ ได้อย่างสะดวกสบายค่ะ  มุมรับแขกนี้สามารถมองเห็นวิวสวนด้านหน้าและด้านข้างได้ ทำให้ห้องยิ่งดูโปร่งและสบาย นอกจากนี้ กระจกลอนลูกฟูกนอกจากจะกั้นส่วนห้องรับประทานอาหารออกจากห้องรับแขกแล้ว หากเมื่อยามมีปาร์สี้ยังสามารถเลื่อนบานเลื่อนหลัง T.V. ให้เปิดออกทะลุถึงส่วนห้องกินข้าวและ ส่วน pantry ได้อีกด้วยค่ะ

              8. ห้องรับแขกสีขาวนี้เป็นอีกห้องหนึ่งที่ทำให้ทีมงานจดจำได้ เนื่องจากเป็นห้องรับแขกที่เน้นใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเป็นหลัก และยังเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบโค้งมน ที่ท้าทายความสามารถขงฝ่ายผลิตค่ะ เป็นงานที่มีส่วนผสมของ Modern และ Contemporary ที่เน้นใช้วัสดุจากธรรมชาติเป็นหลัก เป็นห้องที่ไม่ได้ใช้กระจกเลยยิ่งเป็นการบ้านให้ทั้งฝ่าย designer และ ฝ่ายผลิตค่ะ เป็นงานของ Trend ของคนรุ่นใหม่ แต่เน้นที่ความสบายๆ ด้วยสีที่เลือกใช้ และ window seat ไว้ที่อยู่ด้านหน้าของส่วน Living room เป็นจุดนำสายตาจากภายในสู่ภายนอกอย่างต่อเนื่อง สร้างความรู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย นอกจากนี้ window seat ยังเอื้อประโยชน์ไว้สำหรับไว้นั่งชมสวนด้านหน้า หรือนั่งเล่น อ่านหนังสือก็ได้เช่นกัน

              9. ห้องรับแขกห้องนี้เป็นห้องในช่วงแรกๆ ที่เราทำภาพ ink jet แทน wallpaper เนื่องจากท่านเจ้าของบ้านเป็นผู้ที่หลงใหลในกีฬาฟุตบอล และใช่ค่ะนักกีฬาในดวงใจก็คือ แบคแฮมค่ะ ภาพที่เลือกใช้ก็เป็นภาพที่ท่านเป็นคนเลือกสรรแล้วว่านี่เลยค่ะ นอกจากนี้การออกแบบ สไตล์ classic เป็นสไตล์การตกแต่งของบ้าน แต่เมื่อมีการใส่กิมมิคเกี่ยวกับกีฬาในส่วนโต๊ะกลางที่ออกแบบโดยนำลวดลายตารางมาใส่ได้อย่างไม่ขัดเขินค่ะ

              10.  และห้องสุดท้าย เป็นห้องรับแขกสไตล์ contemporary ที่เน้นความหรูหรา เลือกใช้ชุดโซฟาสี silver เข้ากันกับของตกแต่งที่ล้วนแล้วแต่เป็นชุดเครื่องเงิน ที่เป็นของสะสมของท่านเจ้าของบ้าน ตัดกันด้วย หมอนอิงสีอิฐ และเหลือง ทำให้ชุดโซฟานี้น่าสนใจยิ่งขึ้น และที่โดดเด่น คือ เป็นห้องรับแขกสุดหรูที่มี sky light ที่เมื่อใครเห็นก็วี๊ดวิ้ว.. Hana เองยังแอบกรี๊ดในใจเลยค่ะ ก็แหม..ลองคิดดูสิค่ะ หากในยามค่ำคืนเรานั่งคุยกันท่ามกลางดวงดาว wow .. ไม่ต้องพูดต่อเลยใช่ไหมค่ะ

              เป็น 10 ห้อง 10 แบบที่แตกต่างกันไป เมื่อคุณชมแล้ว เลือกชมตามสไตล์ที่คุณชอบเลยค่ะ

ขอขอบคุณ ผู้มีอุปากระคุณทุกท่านที่ให้โอกาสเราทำฝันของคุณให้เป็นจริง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาค่ะ