เทศกาลวันตรุษจีน เป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของชาวไทยเชื้อสายจีนทีเดียวค่ะ เมื่อเทียบชาวตะวันตกน่าจะเปรียบได้กับวันคริสต์มาสของเค้าแหละค่ะ การเฉลิมฉลองและรูปแบบต่างๆ ได้มีการปรับเปลี่ยนไปจากเดิม เพื่อให้เข้ากับวิถีการดำเนินชีวิตของแต่ละท้องถิ่นค่ะ
อย่างตรุษจีนในประทเศไทยได้ถูปรับเปลี่ยนไปจากเดิมมาก อย่างจำนวนวันแต่เดิมมีถึง 15 วันแต่ของไทยลดทอนลงเหลือวันที่สำคัญแค่ 3 วันเท่านั้น ประกอบไปด้วย วันจ่าย วันไหว้ และวันปีใหม่ ซึ่งทั้ง 3 วัน ในปีนี้จะตรงหับวันที่ 12 13 และ 14 ค่ะ
ในแต่ละวันจะมีกิจกรรมที่ทำต่างกันออกไป ค่ะ
วันแรก วันจ่าย หรือ ที่เรียกว่า ตื่อเส็ก เป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะไปจับจ่าย ซื้อหาอาหาร เครื่องเซ่นไหว้ต่าง มาเตรียมไหว้สำหรับไหว้
วันที่สอง คือ วันไหว้ หรือ วันสิ้นปี
วันนี้จะมีช่วงของการไหว้ ถึง 3 ครั้ง คือ ตอนเช้ามืด จะมีการไวห้ ไป๊เล่าเอี๊ย เป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ ของไหว้จะประกอบไปด้วย ซาแซ หรือ เนื้อสัตว์ 3 อย่าง คือ เป็ด ไก่ และหมูสามชั้นต้ม เหล้า น้ำชา และกรดาษเงิน กระดาษทอง ครั้งที่สองจะไหว้ในช่วงสายของวัน เป็นการไหว้บรรพบุรุษที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว หรือที่เรียกว่า ไป๊เป้บ๊อ ( ซึ่งถือว่าเป็นการรวมญาติอย่างหนึ่งค่ะ ช่วงเวลานี้แหละที่เมื่อสมัยเด็กเราจะชอบ เพราะหลังจากไหว้เสร็จแล้วจะเป็นช่วงรับอังเปาค่ะ และรับประทาอาหารร่วมกัน ) ของไหว้ก็จะประกอบด้วย ซาแซ อาหารคาวหวาน กระดาษเงิน กระดาษทอง รวมถึงเสื้อผ้ากระดาษอุทิศให้กับผู้ล่วงลับไปแล้ว ครั้งที่สาม จะไหว้ตอนบ่าย เป็นการไหว้ ไป๊ฮ้อเฮียตี๋ หรือ ไหว้ไป๊ฮ้อเฮียตี๋ เป็นการไหว้ผีพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว เครื่องไหว้จะเป็นพวกขนมเข่ง ขนมเทียน เผือกเชื่อมน้ำตาล กระดาษเงินกระดาษทอง พร้อมทั้งมีการจุดประทับเพื่อไล่สิ่งชั่วร้ายและเป็นสิริมงคล
วันปีใหม่ หรือ วันเที่ยว หรือ วันถือ
วันนี้เป็นวันที่ 1 เดือน 1 ของปีค่ะ หรือที่เรียกว่าวันชิวอิก เป็นวันที่ชาวจีนถือว่าเป็นวันที่จะขอพรจากญาติผู้ใหญ่ที่เคารพ โดยการนำส้ม 4 ผล ไปให้พร้อมกับขอคำอวยพร เหตุที่ใช้ส้ม เนื่องจากส้มในภาษาจีนแต้จิ๋วออกเสียงว่า กา ซึ่งพ้องกับคำว่าทอง เมื่อนำส้มไปให้จึงถือว่าเป็นการนำโชคดีไปให้ด้วยค่ะ
สำหรับที่เรียกว่าวันถือ เนื่องจากวันนี้ชาวจีนถือว่าเป็นวันดี จะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่ จะยิ้มแย้มแจ่มใส พูดแต่" หออ่วย" แปลว่า คำดีๆ ไม่อารมณ์เสียหงุดหงิด ไม่ทำงานหนักเพื่อที่ว่าตลอดปีจะได้ไม่ต้องทำงานหนักนัก ไม่กวาดบ้าน เพราะอาจปัดสิ่งดีๆ มีมงคลออกไป แล้ว กวาดความไม่ดีเข้ามา
|