editor talk
home
about bareo
art of design
decor guide
the gallery
living young
talk to editor
links
 
 
 
 

 

          ต้อนรับเปิดเทอมกันใน Issue นี้พิ้งกี้พาคุณเดินทางย้อนกลับสู่วัยเด็กกัน ที่ Hong Kong Disneyland นะคะ เมื่อย่าง เท้าเข้าสู่ดินแดนของมิ๊กกี้ คงมีหลายคนที่รู้สึกเหมือนพิ้งกี้นะคะ ว่า เราได้ย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เราสามารถเข้าไปเล่นไปชมในทุกอย่างได้โดยไม่มีการจำกัดว่า เครื่องเล่นนี้ของเด็กห้ามเล่น (เอ..หรือเค้าห้ามแต่เราฟังไม่รู้เรื่อง อิอิ) หากพร้อมแล้วไปกันเลยค้า..


 
          ถ้าหากจะมา Disneyland จะต้องนั่งรถไฟใต้ดินสายสีส้มมาลงที่สถานี Sunny Bay ค่ะ จากจุดนี้จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู เป็นรถไฟสายเดียวที่จะนำพาเราเข้าสู่ ดินแดนแห่งความฝัน ว้าว..แค่ได้เห็นขบวนรถไฟฟ้าพิ้งกี้ก็กรี๊ดแล้วค่ะ ก็แหม..รถไฟสายสีชมพูตัวรถไม่ได้สีชมพูค่ะ แต่จะมีหน้าต่างเป็นหัวมิ้กกี้ ที่นั่งจะเป็นรูปครึ่งวงกลม ห่วงที่จับเราก็จับหัวมิ๊กกี้ค่ะ นอกจากนี้ยังมีตัวการ์ตูนนักแสดงของมิ๊กกี้ตามจุดต่างๆ มีประวัติของ วอลต์ดีสนีย์ ผู้ก่อตั้ง ดีสนีย์ และยังเปิดเพลงของวอลต์ดีสนีย์ช่วยกระตุ้นอีกด้วยค่ะ เอ..จะเหมือนกับเวลาเดินทางเข้าสู่ฮ๊อกวอต หรือเปล่านี่..


 
          เมื่อก้าวลงจากรถเหมือนก้าวเข้าสู่เทพนิยายค่ะ ลานโล่งด้านหน้าถ้าเลี้ยวซ้ายเป็น Disneyland Resort และเลี้ยวขวาก็คือ Disneyland ที่เราจะไปกันค่ะ ซื้อบัตรแล้วก็ก้าวเข้าไปเลยค่ะ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ หยิบ แผนที่ของ Disney Land และ ตารางของการแสดงต่างๆ ค่ะ เพราะทั้งสองสิ่งจะเป็นตัวนำทางให้เราเลือกว่าจะเข้าไปส่วนไหนก่อนหรือหลังค่ะ ถ้าไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนละก็จะลองนั่งรถไฟ ลอยฟ้า วิ่งวนพาชมรอบๆ ว่าใน Disneyland มีอะไรบ้างก่อนสักรอบก็ได้ค่ะ พิ้งกี้เก็บไว้นั่งยามเมื่อยดีกว่าค่ะ ขอเดินเข้าไปโลดแล่นเมืองในฝันก่อนนะคะ
          ช่วงที่พิ้งกี้ไปเป็นช่วงที่มีการจัดบรรยากาศ และตกแต่งสถานที่ให้เป็น Christmas ค่ะ โดยมีการตกแต่งร้านค้า และสองข้างทางให้ได้บรรยากาศของวันคริสมาสที่เพิ่งพ้นมาได้ 2 วัน แถมมีต้นคริสมาสขนาดใหญ่อยู่ตรง Town square อีกด้วยค่ะ สำหรับโซนต่างๆ ใน Hongkong Disneyland ประกอบด้วยดินแดนหลักๆ 4 ดินแดนด้วยกันคือ
ดินแดนที่ 1 “Main Street USA”
ดินแดนที่ 2 “Adventure Land”
ดินแดนที่ 3 “Fantasy Land”
ดินแดนที่ 4: "Tomorrow Land "


 
          พิ้งกี้ขอเริ่มจากการเข้า สู่ ดินแดนที่ 1 “Main Street USA” ก่อนเลยนะคะ ณ Main street USA เป็นถนนสายที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางย้อนเวลาเข้าสู่ช่วงต้น ศตวรรษที่ 19 ที่ถนนแกสลิทสตรีทของสหรัฐอเมริกา สองข้างทางจะเป็นร้านค้าของพรีเมี่ยมให้เลือกมากมาย และจำลองบ้านน่ารักๆ และที่ถนนนี้เองจะมีขบวนพาเหรดสุดอลังการที่นำเอาตัวการ์ตูนออกมาเต้นระบำอวดสายตาของผู้เข้าชมที่รอดูอยู่สองข้างทางของถนน Main street USA นำโดย มิกกี้เมาส์, มินนี่, โดนัลดั๊ก และ กูฟฟี่ ขบวนของบัชไลท์เยียร์ ขบวนสโนไวท์กับคนแคระทั้ง 7 และอื่นๆ อีกมากมาย ให้เรารัวชัตเตอร์แทบไม่ทันค่ะ

          นอกจากนั้น Main street USA ยังเป็นที่ตั้งของ ซิตี้ฮอล หรือสถานีรถไฟลอยฟ้าที่จะพาคุณชมไปรอบๆ บริเวณ ได้อย่าง เพลิดเพลิน ค่ะ


 
ดินแดนที่ 4 Tomorrow Land เป็นดินแดนถัดไปที่พิ้งกี้เลือกเข้าไปเยี่ยมเยือน

           ด้านหน้าของโซนมียานอวกาศสเปสเมาเทน (Space Mountain) ตั้งโชว์หน้าทางเข้าสู่ดินแดนแห่งนี้ พาทุกคนสู่โลกอนาคต และต้อนรับการมาเยือนของมนุษต่างดาว ว้าว.. มีภาระกิจให้ต่อสู้กับมนุษย์ต่างดาว ใน Buzz Lightyear Astro Blasters โดยเรานั่งอยู่ในรถและใช้ปืนแสงเรเซอร์ของกัปตัน Buzz Lightyear ยิงแบบเมามันมากค่ะ แต่แพ้น้องที่นั่งมาคันเดียวกันอยู่ 100,000 point แน่ะ ในโซนนี้ยังมีเครื่องเล่น Hi-tech ที่น่าสนใจมากมาย เช่น Autopia เครื่องเล่นประชันความเร็ว โดยทางสวนสนุกได้มีการจำกัดทั้งอายุ ส่วนสูง และโรคประจำตัวสำหรับผู้ที่จะเข้าไปเล่นรวมทั้งเวลาเล่นห้ามถือของ และกล้อง ให้วางไว้ใต้ขา พิ้งกี้มองดูสัมภาระแล้วก็ขอบายก่อนค่ะ


 
ดินแดนที่3 “Fantasy Land”

           ดินแดนนี้จะอยู่ลึกสุดของ Disneyland ค่ะ แต่มีเครื่องเล่นน่าสนใจมากมายค่ะ เริ่มตั้งแต่ Mad Hatter Tea Cups ลักษณะคล้ยๆ กับถ้วยหมุน, Cinderella Carousel ม้าหมุนแบบเทพนิยาย ไม่ต้องกลัวคนมองว่าเป็นเครื่องเล่นสำหรับเด็กค่ะ เพราะเท่าที่เห็นนั่งกันอยู่ก็มีแต่เด็กโข่งทั้งนั้นเลยค่ะ, เครื่องเล่นที่พิ้งกี้ชอบเห็นจะเป็น The Many Adventures of Winnie the Pooh เป็นเครื่องเล่นสำหรับคนรักหมีพูห์และพวกพ้อง โดยเฉพาะค่ะ เป็นการนั่งรถรางเข้าไปในหนังสือของพูห์ค่ะ


 
          ในดินแดนที่3 “Fantasy Land” นี้นอกจากจะมีเครื่องเล่นที่น่าสนใจแล้วยังมีโชว์ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ The Golden Mickeys การแสดงจะเริ่มจากการแสดงแบบมูแลงรูจ จากนั้นก็จะพบกับการแสดงของ Donald Duck ตามด้วยการแสดงของครอบครัวของ Mickey(Mickey and friends), ตามด้วยนักแสดงเด่นๆ จากหลายๆ เรื่อง ค่ะ อย่าง Mermaid, โฉมงามกับเจ้าชายอสูร (Beauty and The Beast) ทอยสตอรี่ (Toy Story) การแสดงนี้สนุกมากๆ ค่ะ แม้จะต่อคิวนาน แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ะ


 
          Mickey’s PhikharMagic เป็นอีกอย่างที่น่าสนใจ ห้ามพลาดค่ะ ทางเข้าจะมีการแจกแว่นตาสามมิติ คนละ 1 อันค่ะ เมื่อได้ที่นั่งแล้ว นั่งรอไม่นานค่ะ เรียกว่าเค้าทำเวลากันดีจริงๆ ค่ะ การแสดงก็เริ่มขึ้นค่ะ เอ..ภาพยนตร์นี้เค้จะเรียกว่าป็นภาพยนตร์ 3 มิติ หรือ 4 มิติ ดีล่ะ เพราะนอกจากแสง สี เสียง และกลิ่นที่ดีเยี่ยม ทำให้ภาพที่ลอยออกมาเหมือนจริงมาก หรือตอนที่มีน้ำกระเด็นพิ้งกี้ก็ตกใจหลบค่ะ แต่ก็ยังโดนเละอองน้ำเลยค่ะ มีตอนที่ตัวการ์ตูนที่ลอยออกมาอยู่ใกล้ๆ มีคนทดลองจับกันด้วยเผื่อจะเจอตัวจริง อิอิ
ดินแดนที่2 “Adventure Land”

           เป็นดินแดนที่จำลองเอาบรรยากาศของภาพป่าแอฟริกาที่ลึกลับ และน่าผจญภัย มีตั้งแต่ Liki Tikis เป็นรูปปั้นพ่นน้ำ โดยมีหมอกและเสียงเพลงประกอบ กับการฉีดของน้ำค่ะ ดินแดนนี้มีท่าเรือที่นำพาคุณสู่ป่าอเมซอน และแอฟริกาค่ะ ลัดเลาะไปตามแม่น้ำ ชมป่า และสัตว์ป่า และพาไปแวะชมบ้านทาร์ซาน น่าสนใจไม่น้อย พอดีมีฝนตกทำให้พิ้งกี้ไม่ได้นั่งเรือชมป่าค่ะ เลยเอาเวลาไปต่อคิวเพื่อเข้าชม เฟสทิวัลออฟเดอะไลออนคิง (Festival of The Lion King) มีคนแนะนำว่าการแสดงนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด แต่เกือบจะอดดูค่ะ เพราะรอดูรอบ 18.00 น. แต่ 1 ทุ่มแล้วก็ยังไม่ได้ดูเลย มีการประกาศแจ้งเป็นระยะว่ามีเหตุขัดข้อง ให้รออีกหน่อย ยืนรอกันแบบขาแข็งเลยค่ะ เมื่อประตูเปิดให้เข้าไปจับจองที่นั่งกันแล้ว ก็พบว่าดีนะที่ไม่ถอดใจก่อน ไม่งั้นคงเสียดายมากมากค่ะ


 
          เฟสทิวัลออฟเดอะไลออนคิง (Festival of The Lion King) เป็นโชว์อันเร้าใจไปกับเสียงอันสดใสและมีชีวิตชีวากับการแสดงดนตรีสไตล์บอร์ดเวย์ ที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนชิ้นเอกของดิสนีย์ “The Lion King” ลักษณะการแสดงจะคล้ายกับการแสดงละครเวทีค่ะ แต่ผู้ชมสามารถชมได้ 360 องศา หรือทุกทิศทางค่ะ เป็นการแสดงที่ประกอบด้วยฉาก แสง สี และเสียง ขอบอกว่าอลังการมากๆ ค่ะ ถ้ามีโอกาสไป ห้ามพลาดนะคะ


 
          เวลาช่างเดินไวจริงๆ ค่ะ 2 ทุ่มแล้ว สนุกจนลืมเวลาจริงๆ ค่ะ พิ้งกี้รู้สึกดีใจวางเวลาไว้เวลาสำหรับเมืองในฝัน 1 วันเต็มยังเข้าไม่ครบทุกอันเลย และไฮไลต์ของงานอยู่ที่ฉากอำลาในแต่ละวันที่ไม่ควรพลาด นั่นก็คือ โชว์ชุดสุดท้ายจะมีขึ้นที่ปราสาทของเจ้าหญิงนิทรา ทุกคนต่างหาที่จับจอง เพื่อดูโชว์นี้ค่ะ เป็นการแสดงโชว์จุดพลุ ประกอบกับการแสดงแสง สี เสียง จะเริ่มเวลา 21.00 น.ค่ะ การแสดงนี้ ทุกคนไป สามารถเลือกมุมดูได้จากทุกมุมมองของสวนสนุกเลยค่ะ และก็จะได้เห็นความงามที่ต่างกัน แต่จะสวยที่สุดหากคุณสามารถอยู่ในมุมที่มองเห็นปราสาทเจ้าหญิงนิทรา ได้เต็มๆ และที่สุดยอด คือ มีหิมะตกคร้า.. เค้าทำหิมะปลอมให้ตกลงมาหลังจากการแสดงจบ เป็นการอำลาดินแดนในฝันนี้ด้วยหิมะ เริด.....มากค้า พิ้งกี้คงเก็บดินแดนนี้ไว้ในใจไปอีกนาน..


 
หมายเหตุ

Disneyland ปกติ เปิด เวลา 10.00 น. และปิด เวลา 20.00 น.
วันพิเศษ เปิด เวลา 10.00 น. และปิด เวลา 21.00 น.
สำหรับบัตรเข้าจะมีหลายแบบให้เลือก คือ บัตรรายวัน และบัตรรายปี ค่ะ
บัตรรายวัน ผู้ใหญ่ ราคา 350 HK$
เด็ก ราคา 250 HK$
ผู้สูงอายุ (เกิน 65 ปี) ราคา 170 HK$

รายละเอียดเพิ่มเติม : http://park.hongkongdisneyland.com/hkdl/en_US/home/home?name=HomePage
 
     
 

 

   

-- พิ้งกี้ --

 

 

 


บริษัท บาริโอ จำกัด

50 ซอยบรมราชชนนี 4 ถนนบรมราชชนนี เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700   Tel. 66 2881 8536-7   Fax. 66 2881 8538