อีกไม่ถึงเดือนแล้วนะครับ ที่เราจะต้องไปทำหน้าที่ใช้สิทธิ์เลือกตั้งผู้แทนฯ ที่จะเข้าไปทำหน้าที่แทนพวกเราในสภา สำหรับครั้งนี้ ก็คงจะพิเศษกว่าครั้งก่อนหน้านี้บ้าง ตรงที่เราอาจจะต้องการคนที่เข้ามาประสานรอยร้าวของชาติ ให้ลดความร้อนแรงลงบ้าง พร้อมๆ ไปกับการบริหารประเทศ ซึ่งผมเชื่อว่าส่วนหนึ่งคงจะมีคนที่อยู่ในใจแล้ว และอีกส่วนหนึ่ง คงจะยังลังเล หรืออาจจะไปกาไม่เลือกใคร หรือโหวตโนนั่นเอง
สำหรับการโหวตอะไรก็ตาม ผมเชื่อว่าเป็นเอกสิทธิ์ส่วนตัวของทุกท่าน แต่ที่ผมอยากจะเรียนไว้อย่างหนึ่งคือ การตัดสินใจครั้งนี้ ดูเหมือนจะเป็นการกำหนดทิศทางของประเทศ และจะเป็นตัวกำหนดอนาคตของเศรษฐกิจที่เกี่ยวพันกับพวกเราโดยตรงครับ
เพราะในปัจจุบัน ถ้าเราลองสังเกตุดูรอบๆ ตัว จะพบอะไรหลายๆ อย่างที่เปลี่ยนแปลงไป ยกตัวอย่างเช่นตลาดหุ้น ที่กลับมาบูมอีกครั้งจนทะลุ 1,000 จุดไปเรียบร้อยแล้ว และคาดว่าหลังเลือกตั้ง ตลาดน่าจะไปต่อได้อีก หากทุกอย่างเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์ประเภทเผาบ้าน เผาเมืองกันอีก รวมทั้งสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ ที่พากันพาเหรดเข้ามาในเมืองไทย ให้บรรดา ขาช็อปทั้งหลายได้จับจ่ายใช้สอยกันตามสะดวก หรือจะดูที่ยอดนักท่องเที่ยวไทย ที่ไปเมืองนอก ก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตลอดจนค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าทางแบงค์ชาติจะพยายามดึงไว้แล้วก็ตาม
ดัชนีต่างๆ เหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงความสามารถของประเทศของเราที่ดีขึ้นทุกวันทุกคืน แม้ว่าเราอาจจะรู้สึกว่าข้าว ของแพงขึ้นบ้าง แต่ก็แลกด้วยกำลังซื้อที่มากขึ้นเป็นทวีคูณเช่นกันครับ
สาเหตุหลักๆ นั้นน่าจะมาจากเงินสำรองของประเทศของเราที่สูงขึ้นมากที่สุดในประวัติศาสตร์ คือประมาณ 200,000 ล้านยูเอสดอลลาร์ หรือประมาณ 6 ล้านล้านบาท ซึ่งมากกว่าหนี้สาธารณะของประเทศ และเงินสำรองนี้จะเพิ่มขึ้นไปอีก เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นนั่นเอง จนรัฐบาลอาจจะนำเอาเงินส่วนเกินดังกล่าวไปลงทุนในด้านต่างๆ เพื่อให้ได้ผล งอกเงยมากขึ้นไปอีก
แม้ว่าส่วนตัวของผม จะเบื่อกับข่าวฉาวทั้งหลาย เกี่ยวกับการทุจริตต่างๆ นาๆ ที่เกิดขึ้นจนทำให้เกิดความเดือดร้อน แก่ประชาชนเช่นพวกเราอยู่บ่อยๆ ก็ตาม แต่ผมก็ยังเชื่อว่าการเลือกตั้งของพวกเราทุกครั้ง จะนำพาสิ่งที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาให้อยู่เสมอ แม้จะไม่ดีที่สุดหรือ Perfect ร้อยเปอร์เซนต์เต็มตามใจเราคิดก็ตาม แต่ถ้าทุกคนไปทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด และเราได้รัฐบาลที่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน ตลอดจนบริหารประเทศให้ทุกคนและทุกธุรกิจสามารถดำเนิน ไปได้อย่าง อิสระเช่นทุกวันนี้ โดยไม่เข้าไปแทรกแซงเพื่อหาผลประโยชน์เข้าตัวเองเหมือนที่เป็นมาในอดีตแล้ว ผมเชื่อว่าประเทศชาติ ของเราจะก้าวไปไกล และเร็วขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน
กลับมาที่เรื่องของเราบ้างดีกว่า สำหรับเดือนนี้ เราจะมี New Project มาแนะนำอีก 2 โครงการเช่นเคย โดยโครงการแรกจะเป็น Green Paradise บ้านตัวอย่างในโครงการ Royal Green Park, บางแค ซึ่งเป็นโครงการของบริษัท NC Housing จำกัด (มหาชน) และเป็นบ้านหลังใหญ่กว่า Green Harmony ที่แนะนำไว้ในเดือนที่แล้วครับ
บ้าน Green Paradise นี้ เป็นฝีมือการออกแบบของคุณมยุรี คุณวุฒิฤทธิรณ และคุณดิษฐวัฒน์ ชินะกาญจนดิษฐ์ ที่มีผลงานออกแบบโดนใจมาแล้วมากมาย และผลงานชิ้นนี้จะสวยงามถูกใจท่านสักแค่ไหน ลองคลิกเข้าไปดูได้เลยนะครับ
สำหรับโครงการที่สอง จะเป็นการออกแบบตกแต่งภายในอาคารพาณิชย์ในย่านราชวงศ์ ซึ่งเป็นย่านการค้าที่คึกคัก และวุ่นวายที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพของเรา ที่สำคัญยังคงมีเสน่ห์ของย่านธุรกิจเก่าแก่อยู่ครบถ้วน โดยงานนี้จะเป็นการตกแต่ง ร้านค้าเครื่องประดับในชั้นล่าง และให้ชั้นบนเป็นที่พักอาศัย
งานตกแต่งภายในของคุณวรรณี ในโครงการนี้ เป็นฝีมือของคุณมนัส แซ่ซิ หรือพี่นัทของน้องๆ ฝ่ายออกแบบครับ
ต่อมาคงจะเป็นเรื่อง Port Folio ที่เราจะลงเรื่องราวฉบับเต็มของ Green Harmony ทั้งในแง่ของ Concept และรายละเอียดของงานออกแบบ ที่สำคัญคือในฉบับนี้ เราจะลงบทสัมภาษณ์ของน้องตาล หรือคุณมัณยาภา ประมวลสุข Interior Designer รุ่นใหม่ที่พี่พี่หลายคนออกปากชมในความก้าวหน้าของผลงานอย่างสม่ำเสมอ รายละเอียดและประวัติความ เป็นมาของน้องตาลรับรองว่าจะทำให้ทุกคนต้องทึ่งอย่างแน่นอนครับ
รำเพย นักเขียนประจำฉบับก็จะมานำเสนอเรื่องราวต่อเนื่องในส่วนของ Secret Garden ซีรีส์เกาหลีสุดฮิต ที่มีฉากสวยงามตลอดทั้งเรื่อง จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในเกาหลีไปแล้ว ถ้าอย่างไร เรามาชมกันก่อนกับบ้านของ พระรอง ที่สวยไม่แพ้บ้านพระเอกเลยทีเดียว
ส่วนเรื่องที่น่าสนใจอื่นๆ ก็ยังมีเหมือนเคย อย่าง เรื่องเคล็ดลับงานครัว กับภาพยนตร์เข้าใหม่ประจำเดือนนี้ ที่จะมาชวนทุกท่านออกไปพักผ่อนกันแก้เครียดครับ
สำหรับเดือนนี้ พวกเราทีมงาน Website ของ Bareo & Isyss ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเรื่องราวต่างๆ จะยังคงมี ประโยชน์กับท่านผู้อ่านทุกท่านเหมือนเช่นเคย และในเดือนหน้า เราจะมีการปรับปรุงและนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ให้กับทุกท่านเพิ่มเติมอีกอย่างแน่นอนครับ
วรวุฒิ ธรรมกุลางกูร