แล้วก็มาถึงเกร็ด (ไม่) ลับเรื่องสุดท้ายที่อยากจะแนะนำจนได้ค่ะ เอ...เวลาติดตั้งเครื่องปรับอากาศเนี่ยทุกคนเคยนึกดูรึเปล่าคะ ว่าติดตรงไหนทำให้ห้องเย็นที่สุด...สำหรับใครที่คำนึงตรงจุดนี้ด้วยก็ต้องขอชมเชยว่า เยี่ยม ไปเลยค่ะ แต่ถ้าใครไม่เคยสนใจเรื่องนี้ ครั้งต่อไปก็ลองคิดดูกันดีกว่า เผื่อหน้าร้อนครั้งหน้าจะได้อยู่สบายๆ!
และเพื่อให้ดูดีขึ้นก็จะขออธิบายแยกออกเป็นหัวข้อย่อยๆ 3 เรื่องค่ะ
ข้อแรก...การกระจายลมของเครื่องปรับอากาศ...ห๊ะ? หลายคนสงสัยว่ามันเกี่ยวอะไรกัน ไม่ใช่ว่าแค่ติดแอร์ไป เปิดทิ้งไว้ รอให้เย็นแล้วก็จบหรอ? จริงๆ มันมีอะไรมากกว่านั้นล่ะ
เจ้าลมที่มันออกมาจากแอร์เนี่ยมันก็มีระยะทางถึงขีดสุดเหมือนกันนะ อย่างเช่นว่าถ้าห้องยาว 10 เมตร ติดแอร์ที่ปลายห้องข้างนึง ข้างนั้นมันก็เย็นเร็ว แต่ถ้าเมื่อไหร่ไปนั่งเล่นนอนกลิ้งอยู่ปลายอีกข้างนึงมันจะร้อนกว่ากันจนน่าอิจฉาเลย เพราะงั้นก็เลยอยากแนะนำสักนิดค่ะ ว่าถ้าห้องยาวตั้งแต่ 6-8 เมตรเนี่ย ติดบนด้านกว้าง(หรือที่เราเรียกว่าปลาย) แล้วปล่อยให้มันเป่าความเย็นไปก็ยังโอเค แต่ถ้าห้องยาวกว่า 8 เมตรเมื่อไหร่ติด 2 ตัวโลด! แบบว่าติดบนผนังด้านยาวนั่นล่ะ แล้วให้มันช่วยกันตัวละครึ่งห้อง หรือถ้าห้องยาวแต่อยากติดตัวเดียวล่ะก็...Ceiling ช่วยคุณได้
แล้วก็เกร็ดน่ารู้อีกเรื่องก็คืออากาศเย็นจะมีน้ำหนักมากกว่าอากาศร้อนค่ะ ถ้ายังจำได้...วิชาวิทยาศาสตร์ก็มีพูดถึงความร้อนระเหยขึ้นฟ้ากลายเป็นเมฆฝนอยู่ แต่เคยได้ยินไหมล่ะ...ความเย็นลอยขึ้นฟ้ากลายเป็นเมฆ...ไม่สักหน่อย ความเย็นมีแต่จะตกลงมาทั้งนั้น...ฝนเอย หิมะเอย...เพราะฉะนั้นก็เลยขอแนะนำว่าเวลาติดแอร์ให้ติดสูงๆ ค่ะ เพราะอากาศที่ออกมามันจะได้ค่อยๆ ผ่านทั่วทั้งห้องก่อนตกลงมาถึงพื้น แบบนี้หลังปิดแอร์ห้องก็จะยังเย็นอยู่อีกด้วย (ถ้าติดแอร์ต่ำจะเย็นช้ากว่าเพราะเหนือแอร์จะยังมีความร้อนอยู่)
อ้อ...แล้วก็ถ้าห้องใครมีซอกเล็กมุมน้อยล่ะก็...อันนั้นก็เป็นอีกเรื่องนึง เพราะเจ้ามุมพวกนี้อากาศเย็นๆ มันไม่ค่อยจะเข้าไปถึงสักหน่อย พิสูจน์ได้จากที่เวลาห้องเย็นมากจนทนไม่ไหวแล้วไปนั่งอยู่ข้างซอกตู้เสื้อผ้าจะอุ่นมาก (เอ่อ...พูดถึงกรณีที่แอร์บ้านไหนไม่ได้เป่าลงตู้เสื้อผ้าน่ะนะคะ)
ข้อสอง!! ความสวยงาม!! งง...มันสำคัญด้วยหรอ?
คำตอบคือสำคัญค่ะ ถึงจะพูดบอกตัวเองจะจะติดตรงไหนก็ได้ที่ทำให้ห้องเย็นแต่ว่าถ้าติดแล้วมันดูไม่ดี รกหูรกตามันก็ทำให้หงุดหงิดใจเปล่าๆ ถ้าตอนสร้างบ้านมีคนออกแบบไว้เฉพาะก็จะเลือกตำแหน่งที่เหมาะสมไว้อยู่แล้ว แต่ถ้าไม่มี...ก็ต้องใช้เซนส์กับเซนส์ล้วนๆ เลยค่ะ
ข้อสุดท้าย ข้อสาม ไม่เกี่ยวกับความเย็นแต่สำคัญที่สุดค่ะ...เรื่องสุขภาพของผู้ใช้งาน
คงไม่มีใครยอมแลกสุขภาพกับอากาศเย็นสบายหรอกนะคะ ถ้าจะต้องไม่สบาย เจ็บไข้ได้ป่วย...สู้อยู่ร้อนๆ ต่อไปดีกว่า! (แต่สุดท้ายก็เปิดแอร์อยู่ดี) ถ้าเป็นห้องที่ใช้แปปเดียว เดี๋ยวก็ไม่มันก็ไม่มีผลอะไรมาก แต่ถ้าเป็นห้องที่เราต้องใช้งานมันนานเป็นชั่วโมงแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้แอร์ตกลงหัวค่ะ
ห้องที่พูดถึงเนี่ยก็พวกห้องนอน ห้องนั่งเล่นหรือที่ไหนก็ตามแล้วแต่คน แต่ขอย้ำเน้นๆ สำหรับห้องนอนว่าห้ามแอร์ตกลงบริเวณหัวเตียงเด็ดขาดถ้าไม่อยากเป็นหวัดเรื้อรัง เพื่อการนั้นโดยมากถ้าปลายเท้าหันไปทางไหนแอร์ติดไปในทิศทางเดียวกันจะดีที่สุดค่ะ แต่มีข้อแม้นะ...อย่าติดตรงหัวเตียง ถามจากใจจริง ใครบ้างหลับลงถ้ามีแอร์อยู่บนหัว? ปากบอกไม่กลัวแต่จริงๆ ใจก็ต้องหวั่นบ้างล่ะว่าเกิดมีจิ้งจกอยู่ในเครื่องปรับอากาศ ตอนนอนเผลออ้าปากแจ็กพอร์ตจังหวะเดียวกับเจ้าจิ้งจกกำลังปลดทุกข์ได้ตำแหน่งเหมาะเจาะพอดี...โอ้ว...เอ่อ เอาใหม่ เพราะในเครื่องปรับอากาศมันมีฝุ่นต่างหาก เกิดไม่ทำความสะอาดบ่อยๆ ตอนกลางคืนนอนไปก็สูดฝุ่นเข้าไป สักวันได้เป็นโรคปอดแน่...
แต่ว่าถ้าไม่ได้จริงๆ ไม่มีที่ไหนว่างเลยและต้องติดให้มันทำมุมกับเตียง (ติดแนวเดียวกับข้างเตียงนั้นล่ะ) ก็ควรติดบริเวณใกล้ปลายเท้าหรือต่ำลงไปกว่านั้น ปรับให้หน้ากากแอร์ทอดยาวออกไปไกลๆ ให้ข้ามปลายเท้าไปเลยอันนี้ก็ยังพอช่วยอะไรได้บ้างค่ะ
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วพอจะได้รู้อะไรมากขึ้นไหมคะ? เชื่อว่ามีหลายคนต้องแอบชำเลืองมองเจ้าเครื่องปรับอากาศตัวเก่งที่อยู่ในห้องแล้วก็คิดว่า เอ...มันตรงกับที่อ่านมารึเปล่าเนี่ย แน่ๆ แต่นี่ก็เป็นแค่คำแนะนำเท่านั้นเอง ไม่ได้มีจุดประสงค์สร้างความร้าวฉานให้คุณกับเครื่องปรับอากาศของคุณนา...
เอาเถอะ ไม่ว่าจะยังไง อากาศปัจจุบันก็ร้อนขึ้นๆ ทุกวัน นอกจากจะดูแลรักษาสุขภาพของตัวคุณเองแล้วอย่าลืมเช็กสุขภาพของเครื่องปรับอากาศในบ้านคุณด้วยก็แล้วกันนะคะ
ขอขอบคุณรูปภาพ
จาก
http://shiftingpixel.com/2005/11/08/air-conditioner-unit/ http://capl.washjeff.edu/browseresults.php
|