ปรับบ้าน...รับลมร้อน

นี่...เจ้าพระอาทิตย์เอ๋ย พักนี้ชักจะร้อนแรงมากเกินไปแล้วนะ!

วันๆ หนึ่งก็บ่นเจ้าพระอาทิตย์หลายๆ รอบโทษฐานเป็นตัวการของความร้อนทั้งปวง

เฮ้อ...สมองตันแล้วจริงๆ นะ...เปิดเครื่องทำความเย็นทั่วบ้านก็แล้วก็ยังไม่เย็น (แต่คงได้หนาวสะท้านตอนได้เห็นบิลค่าไฟ) กินขนมเย็นๆ มันก็เย็นแค่ในปาก...อย่างมากถ้าดูดน้ำปั่นก็จี๊ดขึ้นสมอง แต่ไม่ว่าจะวิธีไหนมันก็ให้เราอยู่สบายๆ ได้ไม่เกินชั่วโมงเลยอ่ะ!

ชิชะ ก็ช่วงหน้าร้อนแบบนี้วันหยุดมันก็ไม่อยากจะออกไปไหนนี่ อยากอยู่บ้านสบายๆ ดูหนังไม่ก็นอนกลิ้งไปวันๆ แต่พออยู่ในบ้านก็ดันร้อนขนาดนี้ก็ต้องระเห็จออกไปเดินห้าง นั่งตามร้านกาแฟไฮโซให้เย็นฉ่ำแทน นึกแล้วก็น้ำตาตกใน ใครเป็นแบบนี้บ้างยกมือขึ้นสูงๆ ให้เห็นกันหน่อยเร็ว โอ้...เรามันคนชะตาเดียวกัน และเพราะอย่างนี้เอง เราก็เลยไปสืบมาและได้ความว่า...จริงๆ แล้วสาเหตุที่บ้านของเรามันร้อนเพราะอะไรกันแน่

อย่างที่หลายๆ คนรู้กันอยู่...ที่บ้านร้อนเพราะว่าพระอาทิตย์ส่องแสงแดดเข้ามานั่นล่ะตัวการ!!

นั่นก็ใช่ค่ะ...แต่เป็นแค่สาเหตุหนึ่งเท่านั้น แล้วสาเหตุอื่นๆ ล่ะ?? คำตอบของคำถามนี้ก็คือ “ลมร้อน” กับ “ความร้อนสะสมในผนังและเพดาน” นั่นเอง

ว่าจะเกริ่นเล็กๆ ทำนองที่ว่าเหตุผลที่แสงแดดทำให้ร้อนเพราะมันส่องเข้ามาทางหน้าต่างหรือประตูเป็นการส่งความร้อนทางตรง กับ ลมร้อนน่ะมันเป็นอากาศที่โดนความร้อนแผ่เข้าไปไม่ว่าจะระเหยจากพื้นหรือได้รับความร้อนโดยตรงจากแสงอาทิตย์ก็ตาม จากนั้นธรรมชาติของลมก็คือพัด...พวกเราก็คิดว่าถ้าลมพัดเข้ามาคงจะเย็นสบายคลายร้อนแต่เปล่าเลย...เพราะมันเป็นลมร้อน ยิ่งพัดเข้ามาก็เลยยิ่งทำให้อากาศร้อนเข้าไปใหญ่...อยากจะพูดอะไรประมาณนี้แต่ก็คงรู้กันอยู่แล้วล่ะเนอะ เพราะงั้นไม่เสียเวลาพูดดีกว่า

แล้วจากที่บอกไปแล้วว่าอีกสาเหตุนึงก็คือ “ความร้อนสะสมในผนังและเพดาน” เราจะขอเน้นตรงจุดนี้มากกว่าสองสาเหตุแรกเพราะสองเรื่องนั้นเป็นเรื่องของธรรมชาติ...ใช่ว่าอยากให้มันเป็นยังไงก็กดรีโมตสั่งซะหน่อย ไม่อย่างนั้นตอนนี้อากาศก็คงไม่ร้อน...

เอ๋...ทำไมถึงมีความร้อนสะสมเหรอคะ? ก็ถ้าจะเอาคำตอบแบบขวานผ่าซากก็คือ “มันโดนแดด” ค่ะ...ง่ายเนอะ แต่มันก็มีเหตุผลแค่นี้ล่ะค่ะ ขยายความอีกนิด...เราอยู่ในบ้าน บ้านกันเราจากแดด เราไม่โดนแดด...แต่บ้านโดนเต็มๆ ยิ่งด้วยแล้วถ้าบ้านของใครสร้างจากวัสดุที่เป็นเหล็ก,สังกะสี หรือ อิฐมอญซึ่งเป็นสิ่งที่นำพาความร้อนได้ดีก็จะทำให้ความร้อนถูกคายเข้ามาในตัวบ้านเร็วขึ้นกว่าเดิม

ถ้าใครกำลังคิดจะสร้างบ้านหรือปรับปรุงบ้านล่ะก็...แนะนำให้เปลี่ยนจากอิฐมอญธรรมดาๆ เป็น “อิฐมวลเบา” หรืออิฐผสมโฟมจะดีกว่า เพราะเวลาผนังอฐมวลเบารับแดดมันจะแผ่เข้ามาในตัวบ้านแค่บางส่วน อีกส่วนโฟมที่ผสมอยู่ในอิฐจะช่วยสกัดเอาไว้ทำให้บ้านเย็นกว่าใช้อิฐมอญค่ะ

ในส่วนของหลังคาเองก็เหมือนกัน เพราะโดนแดดก็เลยทำให้ร้อนแล้วความร้อนก็จะแผ่เข้ามาแต่ว่าหลังคาบ้านของพวกเราจะรับศึกหนักกว่าผนังค่ะ เพราะอย่างน้อยผนังบ้านพอสลับกันโดนแดดตามทิศของพระอาทิตย์แต่หลังคาน่ะ...วันๆ นึงพระอาทิตย์ยิ้มแฉ่งอยู่นานแค่ไหนหลังคาบ้านเราก็กัดฟันสู้นานแค่นั้นล่ะ

โชคยังดีที่บ้านของพวกเรายังมีฝ้าเพดานคอยกั้นความร้อนเอาไว้อีกชั้นอยู่ ไม่อย่างนั้นเราๆ คงได้กลายเป็นคนอบแห้งพร้อมเสิร์ฟแน่ๆ เพราะอย่างงั้นความร้อนก็เลยจะถูกกักเอาไว้อยู่ในช่องระหว่างเพดานกับฝ้าค่ะ ถ้าบ้านไหนมีการออกแบบดีๆ สามารถทำให้อากาศในช่องที่ว่าถ่ายเทได้ก็จะคลายร้อนได้ระดับนึง แต่ถ้าไม่มีล่ะก็...นอกจากจะร้อนแล้วยังต้องติดป้ายห้ามเฉียดเข้าใกล้บริเวณนั้นเป็นอันขาด!

คงเคยได้ยินกันอยู่แล้วว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ประเสริฐ สามารถคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาต่างๆ นานาได้...ใช่! แน่นอนเลยค่ะ เรื่องนี้เองก็มีวิธีป้องกันอยู่เหมือนกัน อ๊ะๆ อย่าบอกว่าไม่สนใจนะ ลองอ่านดูก่อนสักนิดแล้วค่อยตัดสินใจก็ยังไม่สาย เอ้า! เข้าเรื่องกันเถอะ!

เป็นเรื่องแน่ยิ่งกว่าแช่แป้งว่าถ้าผนัง,หน้าต่างฝั่งไหนที่โดนแสงแดมันย่อมต้องร้อนมากเป็นธรรมดา โดยเฉพาะถ้าห้องที่ว่านั่นเป็นห้องกระจก (ใช้กระจกใสติดแทนผนัง) ก็จะยิ่งร้อนเข้าไปใหญ่...มีแนวโน้มเป็นไปได้สูงเลยว่าถึงเปิดแอร์ในห้องนั้นก็อาจจะไม่เย็น แต่ก็ทุเลาความร้อนลงได้ด้วยวิธีต่อไปนี้เช่นกัน

1. ปิดหน้าต่าง เปิดแอร์
ตรงตัวเลยค่ะ แล้วถึงไม่บอกทุกคนก็คงจะใช้วิธีนี้กันอยู่แล้ว เพราะการทำแบบนี้ จะช่วยตัดลมร้อนไม่ให้เข้ามาในบ้าน แต่มันก็ไม่ได้ทำให้อากาศเย็นขึ้นได้เสมอไป บางบ้านเปิดแอร์เท่าไหร่ก็ไม่ค่อยจะเย็นเลย อีกทั้งถ้าบ้านไหนต้องประหยัดค่าไฟด้วยแล้ว การจะเปิดแอร์ตลอดเวลาเป็นเรื่องที่เหมือนฝันร้ายแน่ๆ ดังนั้นเราข้ามไปวิธีต่อไปกันดีกว่าค่ะ

2. ใช้ผ้าม่าน / มู่ลี่ กันแสงแดดเอาไว้
วิธีนี้ก็จะช่วยกันความร้อนได้ในระดับหนึ่งและเชื่อว่าแทบทุกบ้านก็ใช้กันอยู่ แต่ข้อเสียของวิธีนี้ก็คือยังกันความร้อนได้ไม่มากเท่าที่ควรค่ะ เพราะไม่ว่ายังไงๆ ผ้าม่าน / มู่ลี่ก็ยังอยู่ในห้องของเรา เพราะงั้นกันไปสักพักความร้อนก็เข้ามาได้อยู่ดี... เว้นแต่ว่าใครจะกล้าติดม่านบังผนังนอกบ้านแล้วต้องคอยเอาออกเวลาฝนตั้งเค้าก็เป็นอีกเรื่องนึง

3. ทำกันสาด / แผงบังแดด (Fin)
คงจะเคยเห็นกันมาบ้างกับแผงกันสาดที่ติดอยู่ตามร้านอาหารหรูๆ ริมทางบางแห่ง เจ้าหลังคาจิ๋วที่ยื่นออกมาเหนือประตูทางเข้าไม่ก็หน้าต่างนั่นล่ะค่ะที่พูดถึง สำหรับแผงบังแดด หรือ Fin ก็เป็นอีกอย่างนึงที่ไม่รู้จะอธิบายยังไงดีก็เลยจะเอาภาพมาแปะให้ดูแทน แต่เอาเป็นว่ามันจะช่วยดังแสงแดดเอาไว้ได้ค่ะ โดยเวลาที่แดดส่องลงมาก็จะโดนมันก่อนจะถึงหน้าต่าง และนั่นเองเงาของกันสาด / แผงบังแดดก็จะช่วยทำให้แดดไม่ส่องเข้าถึงภายในห้อง ห้องก็จะเย็นลง เหมาะสุดๆ สำหรับหน้าต่างบานไหนที่ต้องรับแสงแบบตรงๆ...วิธีนี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่ค่ะ

4. ก่อผนังกันความร้อน ก็คือว่าถ้าบ้านใครใช้ผนังที่ก่อจากอิฐก็สามารถติดฉนวนเข้าไปเพื่อช่วยดูดซับความร้อนอีกระดับหนึ่งได้ค่ะ แต่ว่ามันต้องทำตอนกำลังสร้างบ้านไม่งั้นคงยุ่งยากน่าดู แล้วอีกอย่าง...ถ้ากำลังสร้างบ้านอยู่จริงๆ ล่ะก็ใช้อิฐมวลเบาแทนไปเลยดีกว่า

5. ปลูกต้นไม้บังแดด / ทำให้รอบๆ ตัวบ้านเย็น
วิธีนี้ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถทำให้บ้านเย็นลงได้ เพียงแค่หาต้นไม้ใหญ่ๆ มาปลูกเอาไว้ใกล้หน้าต่างให้ร่มไม้บังแสงแดด หรืออาจะจะปลูกขึ้นมาเป็นสวนเลยก็ได้ไม่ว่ากันค่ะ เพราะต้นไม้จะเป็นตัวช่วยในการพาลมเย็นเข้ามาในบริเวณบ้าน แถมใช้วิธีนี้ยังได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่ายเลยด้วย ต้นไม้ต้องการแสง...เราต้องการร่มเงา เข้ากันพอดีเด๊ะ

จบเรื่องผนังทีนี้ก็มาถึงหลังคาค่ะ อย่างที่บอกไปแล้วว่าหลังคาจะได้รับความร้อนมากที่สุดของบ้าน ถ้าเราสามารถกันความร้อนจากหลังคาที่จะแผ่เข้ามาภายในบ้านได้ก็จะทำให้อุณหภูมิลดลงได้ถึง 3-7 องศาเลยทีเดียว!! แถมวิธีก็ไม่ได้ยากอะไรมาก ก็แค่ “ติดแผ่น” อะไรบางอย่างเข้าไปก็เท่านั้นเอง แล้วแผ่นที่ว่านั่นก็แยกได้ออกเป็น 3 อย่างค่ะ

1. ติดหรือพ่อนแผ่นฉนวนกันความร้อนบนหลังคา
เป็นวิธีที่ใช้ได้แต่ไม่นิยมใช้กับบ้านค่ะ วิธีนี้มักเห็นว่าใช้กับหลังคาโรงงานมากกว่า ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะตัวฉนวนที่พ่น จะทำให้สีของหลังคาเปลี่ยนไป ดังนั้น บ้านส่วนใหญ่จึงขอบายดีกว่า

2. ติดแผ่นสะท้อนความร้อนใต้หลังคา
คล้ายๆ กับว่าเอาแผ่นอะลูมิเนียมฟลอยด์ไปติดอยู่ใต้หลังคา พอแสงแดดส่องลงมา แผ่นอะลูมิเนียมก็จะทำหน้าที่คล้ายกระจกที่ดีดสะท้อนแสงกลับออกไป ข้อดีของมันคือราคาถูก แต่ข้อเสียเสียก็คือติดตั้งยาก เพราะต้องติดตอนที่กำลังสร้างบ้านอยู่เท่านั้น และอีกอย่าง...ถ้าแดดร้อนจัดๆ อะลูมิเนียมก็อาจสะท้อนแสงกลับได้ไม่หมดและคายความร้อนลงมาในตัวบ้านอยู่ดี

3. ติดฉนวนกันความร้อนบนฝ้าเพดาน
วิธีนี้เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วก็ได้ผลมากที่สุดค่ะ คือจะเอาใยแก้วห่อไว้ด้วยอะลูมิเนียมฟลอยด์ ไปติดอยู่เหนือฝ้าเพดาน พอแสงแดดส่องลงมาอะลูมิเนียมฟลอยด์ก็จะสะท้อนความร้อนกลับไป แต่ถ้าร้อนจัดมากๆ จนความร้อนถูกคายผ่านอะลูมิเนียมฟลอยด์ลงมาแล้วล่ะก็... ใยแก้วที่เป็นฉนวน ก็จะทำหน้าที่ดูดซับความร้อนไปจนเกือบหมด
วิธีนี้มีประสิทธิภาพสูง ติดตั้งง่าย (บ้านที่สร้างเสร็จแล้วก็ติดตั้งได้) เพียงแต่ราคาจะสูงกว่า แผ่นสะท้อนความร้อนใต้หลังคาอยู่พอสมควรล่ะค่ะ แต่ขอแนะนำเลย

ถ้าบ้านไหนมีงบมากพอจะติดทั้งแผ่นสะท้อนความร้อนใต้หลังคาและ ฉนวนกันความร้อนบน ฝ้าเพดานพร้อมกันเลยก็จะสุดยอดมากค่ะ รับประกันได้ว่าความร้อนในบ้านจะไม่ได้ลงมาจากหลังคาบ้านคุณแน่ๆ

เป็นยังไงบ้างคะเรื่องราวที่เราสู้ไปสืบมา พอจะมีประโยชน์กับใครบ้างมั๊ยหนอ อ่านแล้วใครมีความคิดที่จะ ปรับปรุงบ้านเล็กๆ น้อยๆ บ้างรึเปล่าคะเนี่ย... ...แหะๆ ไม่ได้บังคับน้า แค่ถามความเห็นเฉยๆ เท่านั้นเอง แต่ว่านะ...เราเชื่อว่าถ้าคุณทำตามคำแนะนำเหล่านี้บ้านคุณจะเย็นขึ้นกว่าเดิมแน่ๆ และหลังจากนี้ต่อไปไม่ว่าอากาศจะร้อนแค่ไหน ตราบในที่เรายังอยู่ในบ้านเราก็จะไม่ต้องหวั่นกับความร้อนอีกแล้วล่ะค่ะ!!

ปล.สำหรับแผ่นสะท้อนความร้อน หากใครสนใจแต่ไม่รู้ว่าราคาประมาณเท่าไหร่ จะไปหาซื้อยังไงดีเราก็ขอแนะนำเอาไว้คร่าวๆ ค่ะ สำหรับฉนวนกันความร้อนบนฝ้าเพดาน ตราช้าง ในเครือ SCG...ทางบริษัทนั้นเขาจะเรียกผลิตภัณฑ์นี้ว่า “ฉนวน ตราช้าง” ค่ะ ราคาจะตกอยู่ราวๆ ตารางเมตรละ 160-170 บาท (ไม่รวมค่าติดตั้งและภาษีมูลค่าเพิ่ม) หากสนใจเข้าไปดูได้ตามลิ๊งค์นี้เลยค่ะ
http://www.scgexperience.co.th/th/product/search.aspx?groupMain=B01&groupChild=B0104
อีกแห่งหนึ่งคือ บริษัทศรีกรุงธนบุรี... สามาถเข้าไปส่องดูได้ตามลิ๊งค์นี้ค่ะ >> http://www.roofproduct.com/products/main_env.html
หรือถ้าบ้านใครอยู่ใกล้ HOME MART ก็สามารถแวะเข้าไปดูและสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ได้ด้วยตนเองค่ะ


ภาพจาก
http://www.freefoto.com
http://www.public-domain-image.com
http://www.fmschmitt.com
http://www.lesliewong.us/blog/2007/08/25/hood-insulation/

Home  |  About Bareo  |  News & Events  |  Art of Design  |  Decor Guide  |  The Gallery  |  Living Young  |  Talk to Editor  |  Links

บริษัท บาริโอ จำกัด
50 ซอยบรมราชชนนี 4 ถนนบรมราชชนนี เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700   Tel. 66 2881 8536-7   Fax. 66 2881 8538