กว่า 15 ปี ที่บริษัท บาริโอ จำกัด ได้โลดแล่นอยู่ในเส้นทางของนักตกแต่งภายในมืออาชีพ มาในวันนี้ แม้ความสำเร็จของบริษัทจะไม่ท่วมท้น แต่ความต่อเนื่องของการเจริญเติบโตทำให้ บาริโอ กลายเป็นอีกหนึ่งบริษัทฯ ที่ควรค่าให้ไว้วางใจสร้างบ้านในฝันของคุณ และหนึ่งในความสำเร็จของบริษัทฯ คงเกิดขึ้นไม่ได้ หากขาดฟันเฟืองตัวสำคัญ หรือคุณมยุรี คุณวุฒิฤทธิรณ Projector Director คนเก่งของ บาริโอ
ขอทราบความรับผิดชอบที่มีอยู่ในปัจจุบัน และความยากง่ายในงานที่ทำ
หน้าที่ในความรับผิดชอบส่วนใหญ่ คือการพูดคุยกับลูกค้า ไต่ถามความต้องการของลูกค้า เพื่อนำไปประกอบวางคอนเซปต์บ้านที่จะทำ ตลอดจนคิด budget ซึ่งการพูดคุยในรายละเอียดนี้ จะช่วยค้นหาคำตอบได้ว่า ลูกค้าต้องการบ้านแบบไหน สไตล์อะไร หากลูกค้ารู้ว่าตัวเองต้องการอะไรอยู่แล้ว ก็จะทำให้คอนเซปต์เสร็จไวขึ้น ออกแบบบ้านได้ตรงใจมากยิ่งขึ้น แต่ก็มีบางรายที่อาจไม่ทราบความต้องการของตัวเอง ไม่สามารถบอกตัวเองได้ว่าชอบหรือไม่ชอบ ดังนั้น เราจึงต้องฟังสิ่งที่ถ่ายทอดมาอย่างละเอียด
ด้วยเหตุนี้ ความยาก/ง่ายของงานจึงขึ้นอยู่กับตัวลูกค้าเป็นสำคัญ
การพูดคุยจะทำให้ designer ทราบว่า เค้าชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไร มีชีวิตประจำวันแบบไหน ชื่นชอบกิจกรรมใดเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นองค์ประกอบของการสร้างงานที่มีคาแรกเตอร์ และสามารถสนองความต้องการของเจ้าบ้าน ได้อย่างครบถ้วน ยกตัวอย่างเช่น หากลูกค้าเป็นนักสะสมหนังสือตัวยง เราก็ควรทำชั้นวางที่มิดชิด มีกระจกกันฝุ่น หรือหากเป็นผู้นิยมสะสม crystal ก็ต้องคิดหาวิธีโชว์ crystal นั้นให้โดดเด่นสะดุดตา (ซึ่งอาจใช้ lighting ช่วย) หรือหากเป็นนักสะสมแว่นตา ก็ควรมีที่เก็บแบบเฉพาะ หรือถ้าเป็นพวกกระเป๋า กระเป๋าหนัง ก็ควรทำที่เก็บที่สามารถเลือกหยิบกระเป๋าได้ง่าย และในเวลาเดียวกัน ก็ต้องป้องกันราได้ด้วย นอกจากนี้ ลูกค้าอาจมาพร้อมกับแม๊กกาซีน หรือให้ไอเดีย ว่าอยากได้บ้านโทนเดียวกับสปานั้น สปานี้ เป็นต้น
งาน interior ในยุคแรกๆ ของคุณมยุรี เป็นอย่างไร แล้วทำไมจึงหันเหแนวทางของตน ให้อยู่ในแนว contemporary
ผลงานในยุคแรกๆ ย้อนหลังไปเมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อน งานออกเป็นแนวร่วมสมัย (contemporary) อาจใช้โมเดิร์นบ้างในบางห้องประปราย ที่เป็นเช่นนั้นอาจเป็นเพราะ ในยุคแรกๆ เราได้งานจากพวกผู้ใหญ่เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ในปัจจุบัน แม้ว่าเรายังยึดแนวทาง Contemporary เป็นหลัก แต่ก็เป็นไปในลักษณะของ Modern Contemporary แล้ว มีความต่างออกไปจากในอดีต ที่เน้นความคลาสสิคค่อนข้างสูงและเน้นการใช้สีโทนเดียว (เช่น หากใช้ขาวก็จะขาวล้วน หรือหากใช้วัสดุไม้ ก็จะเป็นไม้ทั้งหมด)
Contemporary ในปัจจุบันเป็นงานแนวผสมผสาน ที่เกิดขึ้นจากงานดีไซน์สองสไตล์เป็นอย่างน้อย เน้นการตกแต่งที่สร้างความรู้สึกอบอุ่น เป็นธรรมชาติ จนเกิดเป็นงาน contemporary หลากหลายรูปแบบ อาทิ งานสไตล์ Tropical Resort ที่มีพื้นผนังสีขาวหรือครีม ตัดกับสีของไม้โอ๊ก หรืองานสไตล์คันทรี อนึ่ง แม้งาน contemporary จะมีรูปแบบของโมเดิร์น แต่แม่แบบที่เป็นโมเดิร์นนั้นกลับไม่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน หรืออาจจะเรียกได้ว่า งานดังกล่าวได้ตายจากไปแล้ว เพราะแม้โมเดิร์นจะแลดูเรียบคมเพียงใด ต่อเมื่อเวลาผ่านไป งานกลับให้ความรู้สึกจืดชืด ไม่มีเสน่ห์ ต่างไปจากงานผสมผสานอย่าง contemporary ที่ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวามากกว่า
ปัจจุบัน มีงานผสมผสานแบบแปลกๆ เกิดขึ้นมากมาย อาทิ งานคันทรีแบบสเปนที่มีเทคส์เจอร์โดดเด่น แฝงไว้ด้วยความโรแมนติค ทั้งการใช้สี รูปแบบ ล้วนแล้วมีสัญลักษณ์บ่งบอกความเป็นสเปนอยู่ นอกจากนี้ ยังนิยมหยิบงานจากแหล่งอื่นๆ เบลนด์เข้าด้วยกัน ซึ่งส่วนใหญ่สามารถรวมกันได้เกือบหมดแล้ว ยกเว้นงานของทางยุโรปกับทางบาหลีที่แตกต่างกันมากเกินไป
ด้านสถาปัตยกรรมยังเพิ่มความหวานให้แก่ตัวบ้านด้วย คิ้ว บัว การเล่นสเต็ป ซึ่งไม่ปรากฎในงานเพียวโมเดิร์นในอดีด ที่นิยมการตกแต่งในรูปทรงเลขาคณิต เหลี่ยมเป็นเหลี่ยม เน้นการเปิดเผยเนื้อแท้ของวัสดุ ขณะที่งาน contemporary นิยมเล่นหลืบ เล่นร่อง อย่างบัวก็จะเป็นชั้นๆ หรือโค้ง มีเว้า ซึ่งเมื่อเวลากระทบแสง ก็จะเกิดวอลลุ่ม ดูสวยงาม อ่อนช้อย อย่างไรก็ดี เมื่อคิดจะมีบ้านแนว contemporary แล้ว เราก็ต้องมีคิดคอนเซปต์ กำหนดแนวทางของบ้านอีกทีว่า จะให้บ้านเน้นไปในแนวทางไหน โมเดิร์น คลาสสิค คันทรี ฯลฯ
1 | 2 Next
|