ลินดา ตั้งจิตธนกุล
 
interior design ออกแบบ ตกแต่งภายใน
 

 

 

 

 

 


เติมศิลป์ให้บ้านสวย ตอนที่ 2

ประติมากรรมธรรมชาติ..ทำเองก็ได้..ง่ายจัง..

มาถึงภาคสองของผมซะที..ตอนที่เขียนอยู่นี่ บก.สาวดุของเรา กำลังนั่งหน้าตูม คอยเอาแส้คอยเฆี่ยนอยู่ ห้ามผมลุกไปไหน เดี๋ยวจะไม่มีเรื่องมาลง เล่นเอาผมเครียดไปเลย..อย่างไรก็ดี เสือก็ย่อมต้องเป็นเสืออยู่วันยังค่ำ Crouching Tiger ก็ต้องไม่ยอมเสียลายให้บก.ถลกหนังง่ายๆ ว่าแล้ว ผมก็เลยงัดเอาคัมภีร์การจัด Props สำหรับประกอบฉากถ่ายภาพ ซึ่งเป็นเคล็ดลับสุดยอด ที่ไม่เคยนำไปหลอกขายใครที่ไหน มาเปิดเผยที่นี่ซะให้เห็นกันจะๆ เพื่อท่านผู้อ่านจะได้เกิดจินตภาพ และนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง และครบถ้วนตามสูตร สุดท้าย ก็จะส่งผลให้บก.ของเราหน้าบาน ด้วยความภาคภูมิใจซะที..

เอาละครับ โม้ไปได้หนึ่งย่อหน้า โดยไม่ต้องลำบาก..ต่อไป จะได้เข้าเรื่องซะที วันนี้ ผมจะพาทุกท่านไปเรียนรู้วิธีการตกแต่งบ้านพักและสำนักงานของท่าน ด้วยวิธีง่ายๆ แต่ได้ผลมหาศาล..เพียงแต่ท่านต้องเรียนรู้เคล็ดวิชาของเราซะก่อน และวิชาของเราคือ “ การจัดดอกไม้ ให้กลายเป็นประติมากรรมธรรมชาติ ” ครับผม..

ท่านผู้อ่านคงจะเคยสังเกตเห็นว่า บ้านของท่านทั้งหลาย ต่อให้จ้างนักออกแบบฝีมือดีเลิศ ประเสริฐศรีเพียงใด ก็จะทำให้บ้านดูสวยและน่าตื่นเต้นในตอนต้นๆ เท่านั้น แต่พอท่านย้ายข้าวของเข้าไปอยู่ ก็จะพบว่าความน่าตื่นเต้น และความน่าอยู่มันจะลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ ที่เป็นแบบนี้ ไม่ใช่ว่านักออกแบบของท่านไร้ความสามารถนะครับ..อย่าเพิ่งไปต่อว่าเขา..แต่เป็นเพราะบ้านจะเป็นบ้านที่สมบูรณ์ได้นั้น ต้องอาศัยผู้อยู่ที่เข้าใจ และรักในความเป็นบ้าน ผนวกกับการสร้างสรรค์ในการประดับตกแต่งสิ่งละอันพันละน้อยต่างๆ นาๆ ให้ส่งเสริมกับบ้านหลังนั้นๆ และวิถีทางในการดำรงชีวิตของแต่ละปัจเจกชน..(อู้หู..ศัพท์หรูแฮะ..)

สำหรับผมแล้ว หลักการสำคัญที่จะทำให้บ้านหรือสถานที่ใดๆ ดูน่าอยู่ได้นั้น จะต้องประกอบไปด้วย ความมีชีวิต ความสดชื่นรื่นรมย์ ความสะอาดสบายตา และความเหมาะสมกับการใช้สอย ซึ่งนักออกแบบต่อให้เก่งกาจปานใด ก็ให้ท่านได้แค่สองสามอย่างเท่านั้น ท่านจำเป็นต้องสร้างความมีชีวิตภายในบ้านของท่านขึ้นมาเอง (ถ้าเงินหนา จะจ้าง Stylist มาจัดบ้านให้ก็ได้ครับ..) ซึ่งบ้านที่มีชีวิตนั้น จะต้องเกิดจากการใช้งานจริงของผู้อยู่อาศัย เพราะคงไม่มีใครที่จะเข้าใจชีวิตของเรามากกว่าตัวเราเอง จริงมั้ยครับ

ทีนี้ ในการจัดบ้านให้มีชีวิตนั้น ก็คงหนีไม่พ้นการนำเอาของประเภท Freeform ต่างๆ มาประดับตกแต่ง เพื่อให้เกิดความเลื่อนไหล และ Contrast กับเจ้าตู้โต๊ะตั่งเตียงแบบเหลี่ยมๆ Modern ต่างๆ ที่เป็นที่นิยมกันอยู่ในปัจจุบัน ทีนี้ การที่เราจะไปลงทุนซื้อเจ้าประติมากรรมลอยตัว แบบ Freeform สุดสวยแบบต่างๆ มาประดับบ้านซะทั้งหลัง ก็คงไม่ไหว เพราะสนนราคาแต่ละชิ้น ไม่ใช่น้อยๆ ย่อมๆ หน่อยก็หลักหมื่น แจ๋วๆ หน่อยก็หลักแสน

สำหรับพวกเรา บางทีอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องไปซื้อของโชว์แพงๆ พวกนั้นเลยก็ได้ เพียงแต่มาออกแรง ออกกำลังกันนิดหน่อย ก็จะได้ประติมากรรมธรรมชาติ สุดสวยมาอวดเพื่อนบ้านกันได้แล้ว ซึ่งประติมากรรมธรรมชาติประเภทแรกที่ผมอยากจะแนะนำ ก็คงจะเริ่มจากการจัดดอกไม้ในแจกันแนวใหม่ครับ

การจัดดอกไม้แนวนี้ ได้รับอิทธิพลมาจากการจัดดอกไม้ของชาติญี่ปุ่น ที่เรียกว่า Ikebana ซึ่งมีหลักสำคัญที่ความสวยงามที่เรียบง่าย และพอเพียง ไม่มากหรือน้อยเกินไป (มีหลักปรัชญาที่เข้าสมัยกับชาวเราเปี๊ยบเลย) และเมื่อเปรียบเทียบกับงานตกแต่งภายในแล้ว ก็จะคล้ายกับงานในสไตล์ Modern นั่นเอง คือมีความเรียบง่าย แต่ดูเก๋ แปลกตา ชวนให้ผู้พบเห็นรู้สึกทึ่ง นั่นคือหลักการสำคัญ โดยเทคนิคแรกที่ผมอยากจะแนะนำให้ท่านผู้อ่านลองจัดดู คือการจัดดอกไม้ในน้ำ.. (Underwater Allure)

เอ๊ะ..ฟังดูแปลกๆ..ใช่เลยครับ ผมเองก็ยังแปลกๆ ตอนที่มานั่งอ่าน นั่งแปลเจ้าคัมภีร์มารนพเก้าเล่มนี้ ต้องมานั่งทำความเข้าใจซักพักนึง กว่าจะถึงบางอ้อ (รถไปติดแถวหน้าจรัล 69 ซะตั้งนาน..ไม่รู้ใครไปชุมนุมกันรึเปล่า..)

ก่อนอื่น เราจะต้องจัดเตรียมของที่จะใช้ในการจัดดอกไม้ซะก่อน เริ่มต้นด้วย แจกันแก้วใสทรงสี่เหลี่ยม..ที่ฝรั่งชอบเรียกว่าแจกันทรงแท็งค์ (แท็งค์น้ำนะครับ ไม่ใช่แท็งคิว) แล้วก็ดอกไม้รูปทรงสวยๆ ทางที่ดี ลองเอาดอกดาหลาของบ้านเรา หรือดอกบานไม้รู้โรย ตัดให้ติดก้านตามสัดส่วนที่ชอบนะครับ วัสดุต่อมา ก็ได้แก่ก้อนหินประเภทกรวดแม่น้ำ สีขาวสะอาดๆ เชือกเส้นเล็กๆ (ใหญ่ไป คนเขาจะนึกว่าเป็นโซ่ล่ามดอกไม้) และที่สำคัญที่สุด ประการสุดท้าย ได้แก่น้ำครับผม..

พอได้ของมาครบแล้ว ก็นำเอาเชือกมาผูกเข้ากับกรวดขาวซะ ทางที่ดีควรจะผูกแบบผูกกล่องให้ครบทั้งสี่ด้าน จะได้ไม่หลุดออกมา เหลือปลายไว้สำหรับโยงเข้ากับก้านดอกไม้ซะ ให้เหลือเชือกระหว่างดอกไม้กับกรวดซะหน่อยนะครับ จะได้มี Movement ได้บ้าง (คะเนความยาวรวมทั้งหมด อย่าให้สูงกว่าระดับน้ำในแจกันนะครับ) เสร็จแล้วก็พักไว้

ทีนี้ พอได้เวลา เราก็ไปเติมน้ำในแจกันใสปิ๊ง ทรงเหลี่ยมของเราซะให้เต็ม หรือเกือบเต็ม พอได้จังหวะ เราก็นำเอาเจ้าดอกไม้ที่ผูกถ่วงไว้กับก้อนหินไปถ่วงน้ำซะ..อันนี้ พูดจริงนะครับ..ไม่ใช่ล้อเล่น คือเอาดอกไม้ไปผูกไว้กับก้อนหิน แล้วนำไปถ่วงในน้ำ ซึ่งผลที่ได้คือ ดอกไม้ ที่เบากว่าน้ำจะพยายามลอยขึ้น ในขณะที่ก้อนหินจะถ่วงไว้ที่ก้นแจกัน ทำให้ดอกไม้ลอยตั้งตรงได้เอง ภายในแจกันแก้วใสทรงสี่เหลี่ยมนั้นเอง..(ลองดูภาพประกอบ จะทำให้เข้าใจง่ายขึ้นเยอะเลยครับ)

เป็นไงครับ ลักษณะการจัดแจกันแบบนี้ ไม่ยากใช่มั้ยครับ..ยิ่งทำมาเป็นชุด มีหลายๆ ใบ นำมาวางเรียงกันในตู้โชว์ โอ้โห..รับรอง..ต้องสะกดสายตาทุกคนที่มาเยือนได้อย่างแน่นอน

และหากท่านเข้าใจในหลักการ และลองทำดูเองได้แล้ว ลองเปลี่ยนมาเป็นแจกันแบบอื่นๆ บ้าง แล้วลองจัดเป็นดอกประกอบกับใบ หรือวัสดุอื่นๆ ช่วยด้วยก็ได้ครับ ลองหาอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ดูบ้าง ผมว่าผลที่ได้น่าจะทำให้ท่านได้สนุกกันในช่วงวันหยุดกับประติมากรรมธรรมชาติแบบง่ายๆ แต่ได้ผล แถมราคาไม่แพงอีกด้วยนะครับ..

แล้วถ้าได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นอย่างไรบ้าง อย่าลืมส่งข้อความมาให้กำลังใจกันข้างล่างนี้นะครับ..สำหรับเดือนนี้ ผมขอลาไว้ตรงนี้เลยนะครับ..ขอบคุณครับ..

 

Crouching Tiger

 

 
 
 
Brochure
Services
New Project
Back Issue
 

 

Home | About Bareo | News & Events | Art of Design | Decor Guide | The Gallery | Living Young | Talk to Editor | Links

บริษัท บาริโอ จำกัด
50 ซอยบรมราชชนนี 4 ถนนบรมราชชนนี เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700 Tel. 66 2881 8536-7 Fax. 66 2881 8538

house servic, decoration design home architect architecture interior design designer homeplan residential furniture family decorat building build planning cost news information structure arch drawing apartment idea bangkok develop foreman เฟอร์นิเจอร์ การซ่อมแซมบ้าน วัสดุแต่งบ้าน ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องอาหาร ออกแบบ ตกแต่งภายใน ออกแบบตกแต่งภายใน เฟอร์นิเจอร์ บ้านสวย มัณฑนากร สถาปัตย์ ตกแต่ง บารีโอ บริการ ปรึกษา รับสั่งผลิตเฟอร์นิเจอร์ตามแบบ รับเหมาตกแต่ภายใน วรวุฒิ ธรรมกุลางกูร มยุรี ธรรมกุลางกูร