การตกแต่งบ้านสักหลังให้สวยงามนั้น ล้วนเต็มไปด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ มากมาย และแน่นอนว่าหนึ่งในสิ่งสำคัญที่จะช่วยกำหนด Mood & Tone ให้กับบรรยากาศของบ้าน นั่นก็คือ “สี” ซึ่งถือเป็นส่วนที่มักจะยากที่สุดสำหรับการตัดสินใจในการออกแบบตกแต่งภายใน เพราะเฉดสีมีตัวเลือกมากมายแทบจะไม่มีที่สิ้นสุด และการเลือกใช้สีสำหรับส่วนต่าง ๆ ภายในบ้านจำเป็นต้องผสานเฉดสีแต่ละสีให้เข้ากันในสัดส่วนที่เหมาะสม มิฉะนั้นแล้วอาจทำให้สีแต่ละพื้นที่ภายในบ้านไม่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างกลมกลืน นอกจากนี้สียังเป็นตัวกำหนดอารมณ์และความรู้สึกให้กับผู้อยู่อาศัย แต่การเลือกธีมสีในการตกแต่งสำหรับคุณก็ใช่ว่าจะยากเกินความสามารถ เพราะ Bareo มีเทคนิคการเลือกสีสำหรับตกแต่งภายในมาฝากกันค่ะ

Cr. fohlio

Cr. pantone

การจับคู่สีเฟอร์นิเจอร์หลากหลายสไตล์มาใช้รวมกันเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ชาญฉลาดและน่าสนุกในการตกแต่งห้อง ซึ่งจะเน้นไปที่การผสมผสาน ( Mixing ) มากกว่าการเข้ากัน ( Matching ) โดยเฉพาะการเล่นกับสีสันของวัสดุต่าง ๆ ภายในห้องและ Pattern ของเฟอร์นิเจอร์ที่มารวมกันในสไตล์ที่แตกต่าง สามารถทำให้ห้อง ๆ นั้นดูโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ และยังหลุดออกจากกฎเกณฑ์การใช้สีที่น่าเบื่อหน่ายแบบเดิม ๆ ดังนั้นจงปล่อยให้จินตนาการของคุณเป็นอิสระและสนุกกับการทดลองเล่นกับสีสันที่ตัดกันแต่ยังคงความกลมกลืน เพื่อสร้างห้องที่สวยงามในแบบของคุณเอง

cr. bareo-isyss

ภาพจากผลงานการออกแบบ Project: Color of Sophistication สีสันแห่งสไตล์ ดูเพิ่มเติม Click

สำหรับมือใหม่ที่สนใจการตกแต่งห้องแบบ Eclectic style ควรเริ่มต้นด้วยการเลือกสีแบบกลาง ๆ อย่างห้องนั่งเล่นที่เลือกใช้เบสสีเทา , สีขาว หรือสีเอิร์ธโทน ที่มีลูกเล่นจำพวกสีไม้ธรรมชาติเป็นสีเบจโดยรวมของห้อง ตัดด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่มีสีสัน อย่าง Armchair สีเหลืองมัสตาร์ดและโซฟาตัวยาวสีน้ำเงิน เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ห้องนั่งเล่นที่ดูสดใสและทันสมัยสุด ๆ

Cr. pantone

คุณเคยเห็นห้องสีขาวที่คุณไม่ชอบบ้างหรือไม่ ? บางทีคำตอบของคุณอาจจะไม่ เพราะสีขาวเป็นสีคลาสสิคที่แทบไม่เคยล้าสมัย ในขณะที่เทรนด์สีอื่น ๆ มาและจากไป ศิลปินส่วนมากมักให้นิยามว่า “สีขาวล้วนเป็นอมตะ” หรือ “ White is universal. It’s forever ! ” เมื่อพูดถึงการตกแต่งภายในด้วยสีขาว เราสามารถสร้างความแตกต่างจากเดิมได้ด้วยการเลือกสีขาวในเฉดที่แต่งต่างกันนำมาผสมผสานเข้าด้วยกัน ก็จะทำให้ดูน่าสนใจและมีมิติมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

Cr. bareo-isyss

ภาพจากผลงานการออกแบบ Project: Lovely Tenderness : Condominium ดูเพิ่มเติม Click

จริง ๆ แล้วสีขาวเป็นสีที่ทำให้ห้องดูน่าอยู่อาศัย มันสามารถทาสีใหม่ ล้างหรือทำความสะอาดได้ง่าย หลายคนไม่ชอบสีขาวเพราะคิดว่าน่าจะสกปรกง่าย แต่หากคุณมีความรู้สึกชื่นชอบต่อสีขาวจริง ๆ ก็จงเลือกที่จะใช้มันต่อไป เพราะสีขาวช่วยทำให้บรรยากาศโดยรวมของห้องสงบนิ่ง แต่ก็อ่อนหวานในคราวเดียวกัน และช่วยทำให้พื้นที่ห้องดูกว้างและสร้างบรรยากาศให้ปลอดโปร่ง โล่ง สบาย ทั้งนี้สามารถเพิ่มลูกเล่นให้ห้องสีขาวด้วยการนำวัสดุมันวาวอย่างเช่น กระจกสีโรสโกลด์ และเส้นอลูมิเนียมตกแต่งสีทอง เข้ามาสร้างมิติให้กับพื้นที่ ซึ่งก็จะทำให้ห้องสีขาวดู Luxury ขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย

Cr. behance

สีเหลืองเป็นสีแห่งแสงแดด ความสุข และความหวัง ที่มักจะนำเอาความรู้สึกสดใสมาให้คุณเสมอ สีเหลืองอาจดูแตกต่างกันในแต่ละเฉดสี แต่สำหรับ Lemon Yellow หรือ สีเหลืองมะนาวนั้นจะช่วยเพิ่มความรู้สึกสดชื่นทำให้ทุกสิ่งรอบตัวดูสว่างขึ้น เมื่อสีนี้ถูกนำมาตกแต่งผนังหรือเมื่อนำเฟอร์นิเจอร์สีเหลืองเลมอนเข้ามาวางในห้อง ห้องนั้นก็จะมองดูสดใสขึ้นมาแบบทันทีทันใด สีเหลืองเลมอนสามารถใช้ได้กับทุกเพศทุกวัย แต่จะเหมาะอย่างยิ่งโดยเฉพาะห้องสำหรับเด็กและห้องครัว นอกจากนี้หากต้องการเพิ่มความรู้สึกอบอุ่น อ่อนโยน ให้กับห้องนั่งเล่นและห้องนอน สีเหลืองเลมอนก็น่าจะตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว

Cr. bareo-isyss

ภาพจากผลงานการออกแบบ Project: Little Sweet Lemon Condominium ดูเพิ่มเติม Click

สีเหลืองเลมอนสามารถเข้ากันได้ดีกับสีขาว เพราะจะช่วยเพิ่มความสว่างและสดใสมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหากห้องนั้นหันหน้าไปทางทิศเหนือ เพราะทิศเหนือจะได้รับแสงสว่างแต่จะไม่โดนแสงแดดส่องตลอดทั้งวัน และห้องที่มีสีเหลืองเลมอนคู่กับสีขาวก็ยังสามารถอัพเลเวลความหรูหราขึ้นมาได้อย่างง่ายดายด้วยการเพิ่มสีเทาและไม้วอลนัทเข้าไปร่วมเป็นองค์ประกอบในการตกแต่ง นอกจากสีทั้งหมดที่กล่าวมาแล้ว สีเหลืองเลมอนยังเป็นสีที่กลมกลืนได้กับอีกหลากหลายเฉดสี โดยสามารถทำงานร่วมกับสีอื่น ๆ ได้ดี เช่น สีชมพูอ่อน สีฟ้าอ่อนถึงน้ำเงินสดใสอย่างฟ้าน้ำทะเล สีบานเย็น สีม่วงแดง ซึ่งก็จะเปลี่ยน Mood & Tone ของห้องให้สดชื่นและน่าหลงไหลไปอีกแบบ

Cr. okonomikitchen

สำหรับผู้กำลังเริ่มต้นที่จะตกแต่งภายในบ้าน แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกใช้สีไหนสำหรับห้องต่าง ๆ เราก็ขอเสนอโทนสีวานิลลาเป็นทางเลือกอันดับแรก ๆ ให้กับคุณ ด้วยเฉดสีนี้คุณจะไม่มีวันตัดสินใจผิดพลาด เพราะสีวานิลลาสามารถนำมาใช้กับห้องนอน ห้องรับแขก ห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร และเกือบทุกส่วนของพื้นที่สำหรับการออกแบบตกแต่งภายในบ้าน ซึ่งรับประกันได้เลยว่าสีวนิลาจะช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น นุ่มนวล ทำให้เกิดความรู้สึกละมุนละไมราวกับกำลังเดินอยู่ในความฝันเลยทีเดียว

Cr. bareo-isyss

 ภาพผลงานการออกแบบ Project: The Blissful Paradise (Part 1) ดูเพิ่มเติม Click

สีวานิลลาอยู่ตรงระหว่างกลางของเฉดสีขาว เป็นสีที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์และความนุ่มนวล อ่อนโยน สามารถนำสีนี้มาใช้ได้กับทุกห้องของบ้าน โดยเราให้นิยามกับสีวานิลลาว่าเป็น “ สีกิ้งก่า” ( Vanilla color is a real chameleon ) เพราะสีโทนนี้สามารถปรับเข้ากันได้ดีกับทุกสไตล์การตกแต่งที่หลากหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถตกแต่งผนังในโทนสีวนิลา แต่เลือกใช้โซฟา ภาพวาด หรือหมอนอิงที่มีสีสันสดใส ซึ่งผลที่ออกมาก็จะไม่ได้ทำให้ห้องดูรู้สึกแปลกแยกแต่อย่างใด อีกทั้งห้องในโทนสีวนิลาจะดูหรูหราขึ้นมาทันทีเมื่อมีการนำวัสดุสีทองอย่างเช่น เชิงเทียน แจกัน ภาพวาด หมอนอิง หรือโคมไฟแชนเดอเลียร์สวย ๆ เข้ามาตกแต่งร่วมด้วย

Cr. hausvoneden

“ไม้” คือตัวเลือกวัสดุยอดนิยมที่ใช้ในการตกแต่งภายใน ไม้นำความรู้สึกที่อบอุ่นและความสงบมาสู่พื้นที่ที่เป็นงานออกแบบในสไตล์ทันสมัย ไม่ใช่เพียงแค่งานพื้นไม้ปูพื้นที่สวยงามเท่านั้นที่เรามักพบเห็นได้ทั่วไป แต่ไม่ว่าจะนำไม้มาใช้ตกแต่งผนัง ไปจนถึงทำตู้เก็บของ ลิ้นชัก แม้กระทั่งฝ้าเพดาน สไตล์ผลงานที่ออกมานั้นล้วนให้ความรู้สึกที่อบอุ่นในทุกกรณี

สำหรับการเลือกไม้เพื่อนำมาใช้ในงานตกแต่งภายใน ขั้นแรก ควรเลือกสีของไม้ที่คุณต้องการใช้และลองนำไม้ชนิดนั้นนำมาวางเทียบดูว่าสามารถเข้าได้กับพื้นที่ของคุณรึไม่ หากคุณมีห้องขนาดเล็กก็ควรเลือกใช้ไม้ที่มีน้ำหนักเบา เช่น ไม้เมเปิ้ล ไม้สน หรือไม้เบิร์ช เพื่อทำให้ห้องดูกว้างขึ้น อีกทางหนึ่ง หากคุณต้องการใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เพื่อเพิ่มความน่าสนใจและดึงดูดสายตาในการออกแบบตกแต่งภายใน ให้ใช้ไม้สีเข้มที่มีอันเดอร์โทนสีแดงที่ละเอียดอ่อน อย่างเช่น ไม้พะยูงที่มีลักษณะสีน้ำตาลเข้ม ก็จะทำให้การตกแต่งห้องของคุณดูโดดเด่นขึ้นมา นอกจากนี้การเลือกเฟอร์นิเจอร์อย่างไม้มะฮอกกานีสีเข้มเพื่อนำมาวางตกแต่ง ก็สามารถนำมาเป็นจุดโฟกัสสายตาที่โดดเด่นได้ดีไม่แพ้กัน

Cr. bareo-isyss

 ภาพจากผลงานการออกแบบ Project: Holiday Hill…สุขใจกลางป่าใหญ่ ดูเพิ่มเติม Click

ลายไม้ขนาดใหญ่ทำให้พื้นที่ดูเรียบง่าย อบอุ่น และเป็นกันเอง ในขณะที่ลายไม้ขนาดเล็กทำให้ห้องดูเป็นทางการและสวยงาม หากนำไม้มาปูพื้นเป็นบริเวณกว้างมาก ๆ สามารถเลือกพรมที่ดูเข้ากันนำมาวางที่พื้นได้ เพราะพรมจะช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลายระหว่างเฟอร์นิเจอร์กับพื้นไม้ เคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งคือ หากเฟอร์นิเจอร์และพื้นไม้ของคุณมีสีสันที่แตกต่างกันอย่างมาก พรมที่มีลวดลายสามารถช่วยลดช่องว่างทางสายตาในการเปรียบเทียบความแตกต่างของวัสดุทั้งสองได้ หากคุณต้องการใช้ไม้สีเข้มนำไปตกแต่งในห้องที่มีแสงสว่างมาก ๆ ก็ให้ใช้พรมสีอ่อน ๆ นำมาวางตกแต่งเพื่อเบรคให้บรรยาการดูนุ่มนวลขึ้น หากไม้ที่นำมาใช้ตกแต่งส่วนใหญ่ในห้องของคุณเป็นไม้มะฮอกกานีสีเข้ม ก็สามารถเพิ่มเฟอร์นิเจอร์จำพวก โซฟา ผ้าม่าน หมอนอิง ที่มีสีอ่อน ๆ อย่างเช่น สีขาว สีครีม หรือสีเหลืองอ่อน นำมาวางก็จะทำให้บรรยากาศในห้องนั้นดูอบอุ่นและน่าดึงดูดสายตามากขึ้นอีกด้วย

Cr. powerdown

สีเป็นสิ่งแรกที่เรานึกถึง เวลาที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจในการตกแต่งบ้าน หนึ่งในเทรนด์สีน่าสนใจอันดับแรก ๆ ในยุคนี้ก็คือ “สีเอิร์ธโทน” ซึ่งจะเป็นสีจำพวก สีน้ำตาลอมเหลือง และสีเทอร์ราคอตตา โดยโทนสีเหล่านี้ที่มักพบได้ในแถบภูมิประเทศแบบทะเลทราย และจากธรรมชาติสร้างขึ้นมา อย่างเช่น หิน ดิน ทราย โคลน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเฉดสีที่แลดูหม่นหมองในบางที แต่ทว่ากลับกลมกลืนไปกับธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง จนทำให้เกิดโทนสีที่ให้ความรู้สึกเงียบสงบและเรียบง่ายอย่างบอกไม่ถูก

หลายครั้งที่เรากำลังเผชิญกับความรู้สึกยุ่งเหยิงภายในจิตใจ เคยสังเกตตัวเองมั้ยว่าหากเราได้พาตัวเองไปยังสถานที่ธรรมชาติหรือแม้กระทั่งเข้าไปในห้องที่อยู่ในบรรยากาศของสีเอิร์ทโทน เรามักจะรู้สึกสงบและผ่อนคลายขึ้นในทันที นั่นเป็นเพราะสีเหล่านี้เชื่อมโยงเข้ากับมนุษย์โดยธรรมชาติอยู่แล้ว

Cr. bareo-isyss

ภาพผลงานการออกแบบ Project: Loft Luxury ดูเพิ่มเติม Click

การหยิบเอาสีเอิร์ทโทนที่เน้นความดิบตามธรรมชาติ อย่างเช่นวัสดุต่างๆที่นำมาสร้างอาคาร เช่น อิฐก่อ ผนังปูนเปลือย หรือคานไม้ ในงานตกแต่งดีไซน์เราสามารถดึงเอาสีตามธรรมชาติของวัสดุเหล่านี้มาใช้ในงานออกแบบได้อย่างไม่ต้องปกปิด นอกจากนี้การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีโทนสีเอิร์ทโทน ก็จะช่วยทำให้บรรยากาศของห้องรู้สึกถึงความรู้สึกผ่อนคลายโดยเฉพาะเหมาะแก่การใช้เวลาว่างร่วมกันในครอบครัว

จริง ๆ แล้วสีเอิร์ทโทนสามารถนำไปใช้ในการออกแบบตกแต่งบ้านได้หลากหลายสไตล์ แต่หนึ่งในสไตล์ที่น่าสนใจก็คือ Loft เพราะสีเอิร์ทโทนสามารถลดปริมาณความแข็งกระด้างของโครงสร้างตัวอาคาร โครงเหล็ก ผนังปูนเปลือย ให้แลดูซอฟท์อ่อนโยนลงมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้ไม่ใช่แค่วัสดุธรรมชาติสีเอิร์ทโทนอย่างไม้ที่เราจะนำมาตกแต่งบ้านได้เพียงอย่างเดียว เราสามารถนำเอาวัสดุทันสมัยที่ยังอยู่ในโทนของสีเอิร์ทโทนอย่างเช่น ลามิเนตไฮกลอสที่ช่วยสร้างเงาสะท้อนและแพทเทิร์นที่สร้างระดับลูกเล่นให้กับห้อง ผ้าม่าน หรือวัสดุหนังเทียม นำมาตกแต่งห้องได้ด้วยเช่นกัน สีเอิร์ทโทนจึงถูกจัดว่าเป็นโทนสีที่ช่วยรักษาสมดุลระหว่างองค์ประกอบที่เยือกเย็น แข็งทื่อ ให้คงความทันสมัย อบอุ่น แต่ยังคงความเรียบง่ายไว้ได้อย่างลงตัว

ในขณะที่โลกแห่งสีสันนั้นไม่มีที่สิ้นสุด การเรียนรู้พื้นฐานง่าย ๆ ในการเลือก Mix & Match สี จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจและน่าสนุกไม่น้อย ความรู้ในการเลือกใช้สีก็ถือเป็นอาวุธสำคัญสำหรับการออกแบบและตกแต่งภายในเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามบางครั้งการเลือกสีสำหรับตกแต่งพื้นที่ห้องต่าง ๆ สีที่เลือกควรขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลของผู้อยู่อาศัยมากที่สุด และควรตรวจสอบทิศทางของแสง รวมถึงลักษณะประเภทการใช้งานของพื้นที่นั้นจริง ๆ ว่าเหมาะจะใช้กับสีอะไร เพราะทางด้านจิตวิทยา สีมีอิทธิพลต่ออารมณ์และการขับเคลื่อนทางความคิดของมนุษย์เป็นอย่างมาก แต่สำหรับด้านเทคนิคของการออกแบบตกแต่งภายในจริง ๆ นั้นไม่มีกฎเกณฑ์อะไรที่ถูกนำมากำหนดแบบตายตัว ตราบเท่าที่ผู้อยู่อาศัยหรือผู้ใช้งานในห้องนั้น ๆ มีความสุขกับสีที่เลือก นั่นอาจคือสีที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณแล้วก็ได้

สามารถติดตามผลงานต่าง ๆ ของทาง Bareo ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ของ Bareo หรือทาง Facebook : Design by Bareo ที่จะคอยอัพเดทข่าวสาร งานดีไซน์ และผลงานการออกแบบตกแต่งภายในมากมาย ให้ท่านผู้อ่านได้รับความรู้ และความสนุกตลอดทั้งปี

หรือหากสนใจจะออกแบบตกแต่งภายในกับทาง Bareo ทางเราก็มีบริการออกแบบภายในครบวงจร โดยสามารถอ่านรายละเอียดการให้บริการของเราได้ที่นี่ คลิ๊ก