วรรณกรรม เรื่อง “ไซอิ๋ว” เป็นเรื่องราวการบอกเล่าเชิงประวัติศาสตร์ และยังเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดวรรณกรรมเอกแห่งแดนมังกร ได้แก่ สามก๊ก ความฝันในหอแดง ซ้องกั๋ง และ ไซอิ๋ว และยังเป็นวรรณกรรมที่ได้รับความนิยมในหมู่เยาวชนมากที่สุด โดยเรื่องไซอิ๋วนั้นมีเค้าโครงมาจากเรื่องจริงในประวัติศาสตร์สมัยราชวงศ์ถัง เมื่อเวลาผ่านไปจึงเริ่มมีการนำมาทำเป็น วรรณกรรม เริ่มมีการเสริมเติมแต่งเรื่องราวของปาฏิหารย์ อภินิหารต่างๆ และยิ่งเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เรื่องราวมีความสนุกและน่าสนใจมากขึ้น มีการนำไปดัดแปลงในหลายรูปแบบทั้งภาพยนตร์ ซีรีย์ การ์ตูน จนสามารสร้างความประทับใจต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
Credit : press.uchicago .edu
วรรณกรรมไซอิ๋วกำเนิดขึ้นในปี 1590 สมัยราชวงศ์หมิง ถูกสร้างขึ้นโดยนักเขียนชื่ออู๋เฉิงเอิน นักกวีชาวจีนที่มีความเก่งกาจในการแต่งทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง อู๋เฉิงเอินเป็นผู้ที่มีสติปัญญาดีชอบอ่านหนังสือ และชอบศึกษาเรื่องแปลกมหัศจรรย์ทั้งหลาย ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการนำมาประพันธ์เรื่องไซอิ๋ว โดยไซอิ๋วเป็นเรื่องราวที่อ้างอิงมาจากเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ จึงทำให้มีตัวละครบางตัวมาจากผู้ที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ ผสมผสานกับการแต่งเติมความมหัศจรรย์เพื่อเพิ่มอรรถรส รวมไปถึงการสอดแทรกธรรมมะเข้าไปในหลายแง่มุม
Credit : baike.sogou .com
เค้าโครงเรื่องราวของไซอิ๋วนั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากบันทึกการเดินทางของพระเสวียนจั้ง หรือที่รู้จักกันในชื่อพระถังซัมจั๋ง เรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางของพระถังซัมจั๋งที่ได้เดินทางผ่านเส้นทางสายไหม เพื่อไปอัญเชิญพระไตรปิฎกจากชมพูทวีปหรือประเทศอินเดียในปัจจุบัน โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อคัดลอกพระไตรปิฎกมาเผยแพร่ยังประเทศจีน รวมระยะเวลาในการเดินทางไปกลับทั้งสิ้น 19 ปี เป็นระยะทางมากกว่าห้าหมื่นลี้หรือประมาณ 25,000 กิโลเมตร ในการเดินทางครั้งนี้ยังมีลูกศิษย์ร่วมเดินทางด้วยกันอีก3คนคือ เฮงเจียหรือซุนหงอคงซึ่งเป็นลิง, ตือโป๊ยก่ายซึ่งเป็นหมู และซัวเจ๋งเป็นปีศาจปลา โดยแต่ละตัวละครก็ได้ถูกเปรียบเปรยแตกต่างกันออกไป เช่น พระถังซัมจั๋ง คือศรัทธา เพราะการที่จะเดินทางไปชมพูทวีปได้นั้นต้องมีศรัทธาที่แรงกล้าและต้องพกจิตไปด้วย ซึ่งจิตใจของคนเรานั้นประกอบด้วย โทสะ ความโกรธซึ่งเปรียบได้คือซุนหงอคง, โลภะ ความโลภเปรียบได้เป็นตือโป๊ยก่าย และโมหะ ความไม่รู้ที่เปรียบได้เป็นซัวเจ๋ง
ตัวละครหลักที่เป็นส่วนสำคัญในการดำเนินเรื่องก็คือเฮงเจีย เป็นลิงวิเศษที่เกิดมาจากหินที่อาบแสงสุริยันต์จันทรา มายาวนานกว่าหนึ่งพันปี จนวันหนึ่งได้เกิดอภินิหารบางสิ่งขึ้น โดยหินที่อาบแสงสุริยันต์จันทรานั้นได้แตกออกจากกัน และกำเนิดออกมาเป็นเฮงเจีย เฮงเจียมีนิสัยที่ใจร้อน ดื้อรั้นแต่เป็นลิงที่วิเศษกว่าลิงทุกๆตัว ทั้งในเรื่องของความสามารถและอิทธิฤทธิ์ต่างๆ เขาสามารถเอาชนะได้กับทุกสิ่งที่ต้องเผชิญจึงได้ตั้งตนให้กลายเป็นราชาแห่งลิง แต่จุดเปลี่ยนของเฮงเจียเกิดขึ้นเมื่อเขาต้องการเอาชนะความตายหรือการต้องการเป็นอมตะนั่นเอง เขาจึงเดินทางออกไปเพื่อร่ำเรียนวิชาจนได้พบกับอาจารย์โพธิ์และได้ตั้งฉายาให้กับเขาว่าซุนหงอคง หลังจากนั้นซุนหงอคงได้เรียนวิชาต่างๆจนเก่งกล้าและเกิดการลำพองในความเก่งของตัวเองขึ้น เขาเริ่มออกไปป่วนตามสำนักฝึกวิชาต่างๆ รวมไปถึงขึ้นไปป่วนบนสวรรค์จนเกินกว่าที่เง็กเซียนฮ่องเต้ผู้คุมดินแดนสวรรค์จะหาหนทางแก้ได้ ทำให้เดือดร้อนไปถึงพระยูไล(พระพุทธเจ้าในพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน) ซุนหงอคงถูกลงโทษด้วยการโดนภูเขาทับเอาไว้เป็นเวลา 500 ปี จนกว่าจะได้พบกับผู้ที่จะเดินทางเพื่อไปอัญเชิญพระไตรปิฎก และซุนหงอคงจะต้องให้เขาผู้นั้นรับเป็นศิษย์ให้ได้ถึงจะสามารถหลุดพ้นจากการโดนกักขังครั้งนี้
หลังจากนั้นพระยูไลจึงได้กล่าวกับเจ้าแม่กวนอิมเพื่อให้หาผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่จะเดินทางไปอัญเชิญพระไตรปิฎกได้ ซึ่งเจ้าแม่กวนนอิมก็ได้เลือกพระเสวียนจั้งแห่งเมืองฉางอาน พร้อมกับตั้งชื่อให้ใหม่ว่า “พระถังซัมจั๋ง” พร้อมกับมอบชุดนักบวชและเครื่องหัวต่างๆให้ ต่อมาไม่นานข่าวที่พระถังซัมจั๋งจะได้ออกเดินทางไปยังชมพูทวีปก็ได้แพร่กระจายออกไปทั่ว ทั้งในบรรดามนุษย์หรือแม้กระทั่งเหล่าปีศาจ พวกปีศาจทั้งหลายเมื่อทราบข่าวก็ต่างคิดกันไปว่าพระถังซัมจั๋งจะต้องเป็นผู้ที่วิเศษมากเลยทีเดียว เนืองจากได้รับเลือกจากเจ้าแม่กวนอิมให้ไปอัญเชิญพระไตรปิฎก เหล่าปีศาจจึงมีความต้องการที่จะจับพระถังซัมจั๋งมากินเป็นอาหาร เพราะเชื่อว่าผู้ใดได้กินไปแล้วคงจะได้กลายเป็นอมตะ ส่งผลให้ขณะเดินทางพระถังซัมจั๋งจะต้องเจอกับอุปสรรค์ต่างๆตลอดทางจากเหล่าปีศาจที่ต้องการจะกินพระถังซัมจั๋ง แต่แล้วก็สามารถรอดมาได้ จนได้มาพบกับซุนหงอคงที่ถูกผนึกไว้กับภูเขา หงอคงได้กล่าวคำสำนึกผิดต่างๆนาๆและร้องขอให้พระถังซัมจั๋งรับเขาเป็นลูกศิษย์เพื่อปลดปล่อยตัวเองจากการโดนกักขัง และเมื่อได้รับการปลดปล่อยหงอคงจึงตัดสินใจร่วมเดินทางกับพระถังซัมจั๋งและเป็นผู้คอยช่วยปกป้องรักษาความปลอดภัยให้กับพระถังซัมจั๋ง