ดอกไม้ เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่สื่อถึงความงดงาม สดใส อบอุ่น และมีชีวิตชีวา ทำให้ “ดอกไม้” เป็นที่นิยมนำมาสร้างบรรยากาศให้กับงานหรือกิจกรรมต่างๆ รวมไปถึงบ้านที่พวกเราพักอาศัยอยู่เพื่อทำให้บ้านสวยงามและน่าอยู่มากขึ้นนั่นเอง

Cr. philipaday

โดยการประดับและตกแต่งบ้านมีหลายวิธีด้วยกัน ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล เช่น การจัดแจกันดอกไม้, จัดซุ้มดอกไม้, จัดดอกไม้ในขวดโหล, หรือแม้แต่การ Decoration ดอกไม้ให้ห้อยลงมา และการจัดบ้านด้วยดอกไม้แห้ง เป็นต้น

Cr. mydomaine

การจัดแจกันดอกไม้ เป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่สามารถพบเห็นได้บ่อยๆ และสามารถทำได้ง่ายไม่ซับซ้อน ซึ่งการจัดแจกันดอกไม้ส่วนใหญ่มักนิยมจัดในสไตล์ Topiary คือการจัดดอกไม้แบบเป็นพุ่ม หรือรูปทรงเรขาคณิต ต่างๆ เช่น รูปทรงกลม ทรงสามเหลี่ยม เป็นต้น

เทคนิคการจัดแจกันดอกไม้สไตล์ Topiary คือการนำดอกไม้หลักมาปักเรียงให้มีความสมดุลทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านหน้า ด้านซ้าย ด้านขวา และด้านล่าง เช่น ถ้าเราใช้ดอกไม้หลักเป็นดอกกุหลาบ ต้องทำการตัดก้านดอกกุหลาบให้มีความยาวเท่ากัน และค่อยๆ ปักตามทิศต่างๆ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน หลังจากจัดดอกไม้หลักเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มจัดแซมด้วยใบไม้สีเขียว และดอกไม้ต่างๆ เพื่อเพิ่มความสวยงาม เช่น ดอกคาร์เนชั่น ดอกลิลลี่ และยิปซี เป็นต้น

Cr. thedestinyformula

การจัดซุ้มดอกไม้ไม่ได้ทำเฉพาะงานแต่ง หรืองานเลี้ยงต่างๆ เท่านั้นนะคะ แต่ยังสามารถนำมาเนรมิตตกแต่งสร้างบรรยากาศภายในบ้านหรือบริเวณรอบบ้านได้ด้วย เริ่มตั้งแต่ซุ้มโค้งประตูรั้วบ้าน และทางเดินเข้าบ้าน

การจัดซุ้มโค้งดอกไม้ประตูรั้วหน้าบ้านและซุ้มทางเดินเข้าบ้าน สามารถทำได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องตกแต่งอะไรมากมาย แค่ใช้วิธีการปลูกพืชไม้เลื้อยแทนก็สร้างความสวยงามได้ง่ายๆ เช่น ดอกพวงชมพู สีชมพูสดใส เล็บมือนาง กลิ่นหอมชื่นใจ ที่สามารถเลื้อยได้ไกลกว่า 10 เมตร พวงแสด ที่ทนร้อน ทนแดด ดูแลง่าย

Cr. madebyfressko_official

ข้อควรระวังในการจัดซุ้มโค้งดอกไม้ คือ ดอกไม้ทั่วไปจะบานตามฤดูกาล หากหมดฤดูก็จะร่วงโรย เหลือเพียงใบไม้สีเขียว อาจต้องเปลี่ยนดอกไม้พันธุ์ใหม่ คอยหมั่นดูแลและตกแต่งให้เป็นระเบียบสวยงาม ไม่ให้รกตา

Cr. etsy

การจัดดอกไม้ในขวดโหลสามารถทำได้ทั้งดอกไม้สดและดอกไม้แห้งเลยค่ะ ซึ่งการจัดในแต่ละแบบจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน การจัดดอกไม้สดในขวดโหล จะให้ความรู้สึกสดชื่น เห็นแล้วสบายตา สบายอารมณ์ ส่วนการจัดดอกไม้แห้งในขวดโหลก็จะให้ความรู้สึกอบอุ่นและอ่อนโยน ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในเมืองหนาว

Cr. furniturechoice

การจัดดอกไม้ในขวดโหลจะต้องมีความปราณีต และใช้สมาธิในการจัดค่อนข้างสูง เพราะถ้าโหลที่ใช้ในการจัดมีขนาดเล็ก และมีความยาวหรือแคบ จะยิ่งทำให้การจัดยากมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญการจัดในขวดโหลจะเน้นรายละเอียดค่อนข้างเยอะ และสามารถมองเห็นดอกไม้ภายในได้ทะลุปรุโปร่ง ทำให้การจัดดอกไม้ในโหลส่วนใหญ่มักเป็นการจัดสวนดอกไม้แบบย่อมๆ โชว์ความสวยงามได้ทุกมุม ดอกไม้ที่นิยมนำมาจัดในขวดโหล เช่น ยิปซี ยิปโซ ลาเวนเดอร์

Cr. countryliving

สำหรับการตกแต่งบ้านด้วยการห้อยดอกไม้ลงมา นับเป็นไอเดียที่ดีและแปลกตาสุดๆ ซึ่งถ้าจะเรียกว่าการแขวนก็คงไม่ผิด ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละวิธีการเป็นอย่างไร เช่น ใช้ขวดหรือกระถาง หรือวัสดุอื่นๆ เป็นฐานแล้วใช้เชือกผูกแล้วแขวนไว้ตามจุดต่างๆ ของบ้าน

Cr. jessicapaster

และอีกหนึ่งวิธีก็คือการใช้ดอกไม้เป็นนักแสดงนำเพียงหนึ่งเดียว คือการใช้แค่ดอกไม้ มัดรวมกันเป็นพุ่ม แล้วใช้เชือกผูกก้านแล้วห้อยดอกไม้ลงมา ก็สวยไปอีกแบบเช่นกัน ทำเป็นม่านหน้าต่าง หรือพาทิชั่น กันพื้นที่ภายในบ้านก็ดูดีไปอีกแบบ

Cr. rawsunshinecoast

ดอกไม้แห้ง ถือว่ากำลังเป็นที่นิยมสุดๆ เนื่องจากให้ความสวยงามแล้ว ยังไม่เหี่ยวเฉา สามารถเก็บไว้ได้นาน ซึ่งวิธีการทำดอกไม้แห้งก็มีหลายวิธีด้วยกัน เช่น การทิ้งดอกไม้ให้แห้งเองตามธรรมชาติ การใช้silica

ซึ่งดอกไม้ที่นิยมทำไปเป็นดอกไม้แห้ง ก็จะมีทั้ง ดอกสแตติช ซึ่งมีความหมายว่า ความรู้ดีๆ ที่คงอยู่ตลอดไป ดอกแคสเปีย คือ ความทรงจำและความหลังที่ไม่เคยลบเลือน ดอกยิปโซ หมายถึงความสดใสและหัวใจที่บริสุทธิ์ ดอกไฮเดรนเยีย สื่อถึงการขอโทษ การให้อภัย ความจริงใจไม่เสแสร้ง และดอกกุหลาบ หมายถึงความรักและความปรารถนา

Cr. cityspride

และข้อดีของการจัดและตกแต่งบ้านด้วยดอกไม้แห้งอีกข้อหนึ่งก็คือ สามารถนำไปจัดได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น การจัดแจกัน การจัดใส่ขวดโหล หรือแบบแขวน เป็นต้น

การจัดดอกไม้ตามโทนสีเป็นเทคนิคที่ทำให้ช่อดอกไม้ดูสวยงามน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะนิยมจัดเป็นโทนสี แบ่งเป็นโทนสีร้อน เช่น สีแดง สีส้ม สีม่วง สีเหลือง และสีโทนเย็น เช่น ขาว น้ำเงิน น้ำเงินคราม ม่วงคราม เขียวเหลือง เขียวแก่

การจัดดอกไม้ในโทนสีร้อน จะให้ความรู้สึกกระตือรือร้น สดใส สนุกสนาน น่าตื่นเต้น และดูมีพลัง ในขณะที่การจัดดอกไม้โทนสีเย็น จะให้ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย อ่อนหวาน ละมุนละไม

Cr. loveyourabode

แน่นอนอยู่แล้วว่าดอกไม้สีขาว ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ไหนก็สามารถตกแต่งเข้ากับสีอื่นๆได้ง่าย แถมยังสวยงามดูเรียบง่าย เรียบร้อย แต่คงไว้ซึ่งความคลาสสิกอีกด้วย การนำดอกไม้สีขาวมาจัดกับดอกไม้ต่างพันธุ์แต่สีเดียวกันก็สวย หรือผสมกับสีอื่นก็ทำให้ดูโดดเด่นขึ้น แม้แต่การเลือกใช้ดอกไม้สีขาวแซมด้วยใบไม้สีเขียวสดก็เรียบหรูไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

Cr. camillestyles

ดอกไม้สีชมพูหมายถึงความโรแมนติกชวนฝัน ดูอ่อนหวาน แต่ถ้าอยากเบรกความหวานลงนิดหน่อย ให้ใช้ดอกไม้สีขาวแซม จะทำให้อารมณ์ดูนุ่มนวล น่ามองมากยิ่งขึ้น เช่น กุหลาบชมพูแซมด้วยลิลลี่สีขาวหรือดอกยิปโซ ดูเรียบง่ายแต่สวยหรูดูหวานนุ่มนวล

Cr. gettyimages

ส่วนใหญ่ดอกไม้โทนสีนี้จะเป็นจำพวกทานตะวัน ซึ่งไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเติมมากมายนัก แซมด้วยดอกไม้สีขาว หรือใบ้ไม้สีเขียว เพิ่มลูกเล่นด้วยผลไม้สีโทนเดียวกันจะทำให้ดูน่าสนใจมากขึ้น แถมยังทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูมีมิติ ดูสดใส ร่าเริง สนุกสนานได้ง่ายๆ อีกด้วย

Cr. drivenbydecor

ดอกไม้โทนสีม่วงดูมีเสน่ห์ สวยหวาน โรแมนติก และลึกลับ ดอกไม้โทนสีม่วงที่นิยมนำมาตกแต่งบ้านในปัจจุบันก็จะมีตั้งแต่ ดอกลาเวนเดอร์ ไฮเดรนเยีย และดอกไอริส เป็นต้น ดอกไม้โทนนี้สามารถนำมาตกแต่งด้วยดอกไม้สดหรือดอกไม้แห้งก็ได้ทั้งคู่ ที่สำคัญการจัดดอกไม้โทนสีม่วงยังสามารถเล่นไฮไลท์เพิ่มความโดดเด่นด้วยการใช้สีม่วงอ่อน ม่วงเข้ม สีฟ้า ผสมกันได้อย่างลงตัว

ใครที่อยากเติมดอกไม้เพิ่มความสวยงามภายในบ้านด้วยเทคนิคที่ทางบาริโอนำมาเสนอมา สามารถนำไปลองใช้ ทำได้ง่ายๆ รับรองบ้านของคุณจะเต็มไปด้วยบรรยากาศของความสุขและอบอุ่นเพิ่มขึ้นทวีคูณเลยทีเดียวค่ะ

สามารถติดตามผลงานต่าง ๆ ของทาง Bareo ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ของ Bareo หรือทาง Facebook : Design by Bareo ที่จะคอยอัพเดทข่าวสาร งานดีไซน์ และผลงานการออกแบบตกแต่งภายในมากมาย ให้ท่านผู้อ่านได้รับความรู้ และความสนุกตลอดทั้งปี