Viking Style
ศิลปะไวกิ้ง
ศิลปะไวกิ้ง (Viking Style) เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น้อยคนจะเข้าใจ เพราะหากกล่าวถึง “ไวกิ้ง” มันจะถูกมองว่าเป็นกลุ่มคนที่มีความป่าเถื่อน ไร้อารยธรรม เป็นนักรบหรือโจรสลัด แต่ที่จริงแล้วชาวไวกิ้งเป็นกลุ่มคนที่มีอารยธรรมขั้นสูงเลยทีเดียว ชาวไวกิ้งไม่เพียงแต่บุกปล้นสะดม ยังมีหลักฐานว่ามีการทำปศุสัตว์ การนับถือศาสนา มีวัฒนธรรมและประเพณี มีการเขียนแผนที่เดินเรือ อีกทั้งยังพบว่าชาวไวกิ้งมีกฎหมายเป็นของตนเองอีกด้วย
Cr. rockpapershotgun
ศิลปะไวกิ้ง จึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่าค้นคว้าและศึกษา เนื่องจากความสามารถด้านงานไม้ของชาวไวกิ้ง ทำให้เกิดศิลปะการแกะสลัก การประดิษฐ์มากมาย โดยสามารถแบ่งศิลปะไวกิ้งออกได้เป็น 6 ยุคหลักๆ ดังต่อไปนี้
Oseberg ( ค.ศ. 790 – 850 )
Cr. lookviking
ศิลปะไวกิ้ง Oseberg ถูกค้นพบบริเวณช่องแคบ Skagerrak ใน Vestfold ทางตอนใต้ของประเทศนอร์เวย์ โดยค้นพบบริเวณหลุมฝั่งศพของชาวไวกิ้ง โดยศิลปะ Oseberg มีลักษณะเป็นงานแกะสลักบนไม้ขนาดใหญ่ หรือหัวเรือของชาวไวกิ้ง มีรูปทรงเป็นนามธรรม บิดเบี้ยว ทั้งรูปร่างของมนุษย์ สัตว์ร้ายต่างๆ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของสิ่งมีชีวิต
Cr. iush100s15.wordpress
ศิลปะ Osberg เป็นการแสดงให้เห็นถึงว่าชาวไวกิ้งเองก็มีอารยธรรมไม่แพ้ชนชาติอื่น อีกทั้งยังถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคศิลปะของชาวไวกิ้งก็ว่าได้ ด้วยรูปแบบการแกะสลักที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งเป็นศิลปะยุคเดียวที่มีการกล่าวถึงมนุษย์บนงานศิลปะ
Borre ( ค.ศ. 850 – 950 )
Cr. lookviking
ศิลปะยุค Borre ถูกค้นพบบริเวณสุสานบอร์ (Borre mound cemetery) ในเขตอุทยานแห่งชาติบอร์ (Borre National Park) ใน Vestfold ทางตอนใต้ของประเทศนอร์เวย์ รูปทรงของงานศิลปะยุค Borre มีลักษณะเป็นรูปทรงเลขาคณิตมากขึ้น มีความสมมาตรของงานศิลปะ โดยเชื่อว่าได้รับอิทธิพลมาจากการดัดแปลงอักขระของภาษานอร์สออกมาเป็นงานศิลปะ
Cr. deviantart
โดยงานศิลปะยุค Borre ยังมีการค้นพบลายซูมอร์ฟิค (zoomorphic) หรือลวดลายของสิ่งมีชีวิตต่างๆ บนเครื่องมือหรือสิ่งของต่างๆของชาวไวกิ้งอีกด้วย
Jellinge ( ค.ศ. 900 – 980 )
Cr. lookviking
ศิลปะไวกิ้ง ในยุค Jellinge เป็นช่วงที่ชาวไวกิ้งมีความเจริญก้าวหน้าและมีอำนาจทางการค้าเป็นอย่างมากในประเทศแถบยุโรป โดยถูกค้นพบบริเวณหลุมฝังศพ Jelling ในประเทศเดนมาร์ก โดยรูปแบบงานศิลปะที่ค้นพบอยู่ในรูปของสิ่งของเครื่องใช้ เครื่องเงิน และเครื่องโลหะ
Cr. viking.archeurope
โดยสิ่งที่ลำค่าที่สุดของศิลปะยุค Jellinge ก็คือ “ถ้วยเงิน” ที่มีการสลักลวดลายของชาวไวกิ้งโดยรอบของถ้วย และจากหลักฐานทางโบราณคดีเชื่อว่า ถ้วยเงินที่ค้นพบนี้อาจเป็นถ้วยเงินของกษัตริย์ หรือราชินีพระองค์ใดพระองค์หนึ่งของประเทศเดนมาร์ก แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของชาวไวกิ้งในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี
Mammen ( ค.ศ. 970 – 1020 )
Cr. lookviking
Mammen เป็นยุคของานศิลปะไวกิ้งที่โดดเด่นเป็นอย่างมากด้วยลวดลายของต้นไม้แห่งชีวิต (Yggdrasil) โดยถูกต้นพบที่สุสาน Mammen ในเดนมาร์ก โดยสิ่งที่ถูกค้นพบคือ ขวาน Mammen (Mammen axe) ที่ถูกประดับตกแต่งอย่างปราณีตด้วยเส้นเงินเป็นลักษณะของต้นไม้แห่งชีวิตทั่วทั้งตัวด้ามขวาน
Cr. ravenforge
นอกจากขวาน Mammen ที่ถูกค้นพบแล้ว ยังค้นพบ หีบ Cammin (Cammin Chest) ที่สร้างจากงาช้างและทองคำ ตกแต่งด้วยการแกสลักงานช้างเป็นรูปของสัตว์ร้ายต่างๆ ตามความเชื่อของชาวไวกิ้ง
Cr. utulethule
Ringerike ( ค.ศ. 1000 – 1070 )
Cr. lookviking
ยุค Ringerike เป็นศิลปะไวกิ้งที่ถูกค้นพบทางตอนเหนือของนอร์เวย์ โดยสิ่งลำค่าที่ถูกพบคือ The Söderala weathervane กังหันทองแดงที่ตกแต่งไว้บริเวณส่วนหัวของเรือไวกิ้ง มีการแกะสลักลาย และฉลุลายบนเนื้อโลหะ ซึ่งต้องใช้ฝีมือเป็นอย่างมากในยุคนั้นในการผลิต จึงเชื่อว่าเป็นยุตที่ชาวไวกิ้งเริ่มมีการเรียนรู้และติดต่อทางการฑูตมากกว่าที่จะออกล่าอาณานิคมหรือปล้นสะดม
Cr. wikiart
นอกจากนี้ยังพบหิน Vang rune ที่จารึกเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของชาวไวกิ้งอีกด้วย อีกทั้งยังพบอักษรของชาวไวกิ้งจารึกอยู่บน Vang rune ที่อธิบายถึงช่วงของยุคสมัย Ringerike อีกด้วย
Cr. penelope.uchicago
Urnes (ค.ศ. 1050 – 1150 )
Cr. lookviking
ศิลปะยุค Urnes ได้รับชื่อมาจากโบสถ์ออร์เนส (Urnes Stave Church) ในประเทศนอร์เวย์ โดยมีการแกะสลักแผ่นไม้เป็นเรื่องราวตามหลักความเชื่อของศาสนา ต้นไม้แห่งชีวิต Yggdrasil งูมีขาที่หลอกล่อให้มนุษย์ทำผิดต่อพระเจ้า อีกทั้งยังมีรูปทรงของงานแกะสลักรูปมนุษย์และสัตว์ต่าง ๆ อีกด้วย
Cr. geocaching
จากหลักฐานเชื่อว่าโบสถ์ออร์เนส เป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์ที่เก่าแก่ที่สุดที่ถูกสร้างโดยชาวไวกิ้ง เมื่อชาวไวกิ้งเริ่มยอมรับศาสนาคริสต์ และรับไว้เป็นศาสนาของชาวไวกิ้ง นอกจากนี้โบสถ์ออร์เนสยังถูกจัดเป็นหนึ่งในมรดกโลกโดย UNESCO อีกด้วย
Cr. atlasobscura