การสร้างความโดดเด่นเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของงานออกแบบในหลายๆแขนง รวมไปถึงการออกแบบสถาปัตยกรรมก็เช่นกัน เพราะการมีผลงานที่แตกต่างโดดเด่นสะดุดตา จะช่วยส่งผลให้ผลงานการออกแบบนั้นเป็นเอกลักษณ์ และกลายเป็นที่จดจำได้ในที่สุด

เหล่านักออกแบบจึงพยายามค้นหาแรงบัลดาลใจที่จะมาเป็นตัวช่วยให้ผลงานการออกแบบนั้นโดดเด่นไม่เหมือนใคร และอีกหนึ่งสิ่งที่เข้ามาเป็นแรงบัลดาลใจได้เป็นอย่างดีนั่นก็คือ “แรงบันดาลใจจากอาหาร” จึงกลายมาเป็น “สถาปัตยกรรมจากอาหาร” ที่สร้างความแตกต่างและโดดเด่นอย่างชัดเจน

Cr. Cspdailynews

  The Big Chicken แน่นอนว่าได้รับแรงบัลดาลใจมาจากไก่ เพราะเป็นเมนูอาหารของทาง KFC ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทางด้านไก่ทอด โดย The Big Chicken ใช้โครงสร้างเหล็กสูงถึง 56 ฟุต และออกแบบโดย Hubert Puckett นักศึกษาสถาปัตยกรรมและการผลิต รูปแบบและการดีไซน์ที่ถูกตัดทอนจากความเสมือนจริง ทำให้ The Big Chicken กลายเป็นไก่ที่ดูน่ารักขี้เล่น รวมกับการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่เลือกใช้ขนาดของโครงสร้างได้อย่างเหมาะสม จึงทำให้กลายเป็นที่จดจำของผู้คนที่สัญจรไปมาในบริเวณนั้น รวมไปถึงบรรดานักท่องเที่ยวอีกด้วย

Cr. Nelsonworldwide

The Big Chicken เรียกได้ว่าเป็น landmark ที่โดดเด่นที่สุดในบริเวณนั้น เพราะมันถูกตั้งไว้ที่ทางแยกที่ใหญ่ที่สุดของ เมือง Cobb Parkway ใน Atlanta ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งการออกแบบนี้ถูกออกแบบให้กับร้านอาหาร KFC ด้วยความแตกต่างไม่เหมือนใครจึงทำให้กลายเป็นเอกลักษณ์ และเป็นที่จดจำแถมยังดังไปไกลระดับโลก

Cr. Wanderintwo

The Pineapple House Dunmore เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อว่ามีแรงบันดาลใจมาจากผลไม้ และกลายเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างแท้จริง สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในสวน Dunmore ประเทศสกอตแลนด์ มีเอกลักษณ์คือผลสับปะรดที่สร้างขึ้นจากหิน ถูกก่อสร้างอย่างประณีตและมีขนาดใหญ่โดดเด่นเป็นสง่า โดยชาวยุโรปเปรียบให้สับปะรดเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง เนื่องจากในสมัยก่อนชาวยุโรปมีการค้นพบสับปะรดและมักนำมารับประทานโดยยกย่องให้เป็นอาหารอันโอชะ จึงเป็นที่มาของสับประรดลูกโตในที่ดินของ Dunmore แห่งนี้ เพราะสวน Dunmore คือบ้านพักอาศัยของของชนชั้นสูงอย่าง Earls of Dunmore ขุนนางแห่งสกอตแลนด์ อีกด้วย

Cr. Wanderintwo

The Pineapple House Dunmore ตั้งอยู่ในบริเวณสวนที่มีกำแพงล้อมรอบ ห่างไกลจากตัวบ้าน Dunmore เพราะต้องการใช้ประโยชน์จากความลาดชันของที่ดิน สร้างกำแพงขึ้นมาเพื่อให้ผนังสามารถป้องป้องสวนจากลม และน้ำค้างแข็ง สิ่งนี้ช่วยให้อุณหภูมิหลังกำแพงสูงกว่าด้านนอกเล็กน้อย เป็นผลให้พืชพรรณเจริญเติบโตได้ดี โดยปัจจุบันถูกยกให้เป็นลิขสิทธิ์ของ The national Trust for Scotland และเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเยี่ยมชมได้

Cr. Bundabergregion

The bundaberg barrel เป็นโรงงานผลิตเบียร์ที่มีความโดดเด่นอยู่ที่การออกแบบอาคารเป็นรูปถังเบียร์ สถานที่แห่งนี้เป็นธุจกิจเบียร์ที่มีเบียร์ที่ผลิตจากขิง เป็นเบียร์ชื่อดังของที่นี่ โดยเลือกเอาสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ในการหมักเบียร์อย่างถังไม้ มาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ เพื่อทำให้แตกต่างจากโรงงานเบียร์ทั่วไป และกลายเป็นสิ่งดึงดูดผู้คนได้เป็นอย่างดี

Cr. Queensland

โดยถ้ามองจากไกลๆจะเห็นได้ว่านักออกแบบมีความตั้งใจให้เห็นเป็นถังไม้ที่อยู่ในลักษณะแนวนอน ครึ่งหนึ่งของถังเสมือนถูกฝังอยู่ใต้ดิน โดยภายนอกของอาคารใช้วัสดุเป็นไม้เรียงกันไปตามแนวโค้งของถังเบียร์ ทางเข้าใช้เป็นกระจกเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มองเห็นด้านในตัวของอาคาร ด้วยดีไซน์ที่สะดุดตาแบบนี้เองจึงทำให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ผู้คนผลัดกันแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชม

Cr. Aussietowns

Big Oyster เป็นหนี่งในสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นมาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยตั้งอยู่ที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ในอดีต Big Oyster ถูกเปิดเป็นร้านอาหารที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหอยนางรมขนาดใหญ่ เหตุที่ถูกออกแบบให้เป็นหอยนางรม เพราะเป็นการเคารพต่อผลผลิตในท้องถิ่นนั่นเอง

ลักษณะของ Big Oyster ออกแบบให้เป็นรูปทรงหอยนางรมที่มองมาจากไกลๆ หอยนางรมดูเหมือนจะมีฟันยักษ์ที่เปล่งประกาย แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นหน้าต่างบานใหญ่ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์แบบพาโนรามาเหนือชายฝั่ง ภายในอาคารมีความกว้างถึง 30 ฟุต และสูง 12 ฟุตเลยทีเดียว ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ที่ยังเป็นที่จดจำของผู้คนที่ผ่านไปมาในบริเวณนั้น

Cr. Commons.wikimedia

  Hood Milk Bottle ขวดนมยักษ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ถัดจาก พิพิธภัณฑ์เด็กบอสตัน ในประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยความสูงใหญ่และมีรูปร่างแตกต่างจากสิ่งปลูกสร้างบริเวณนั้น Hood Milk Bottle ถูกสร้างขึ้นโดย Arthur Gagner ในปี 1930 เขาตั้งใจสร้างให้ถัดจากร้านขายไอศกรีมของเขา เพื่อเป็นการดึงดูดผู้คนให้เข้ามาสนใจกับสิ่งก่อสร้างที่แปลกใหม่ และนับว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่แปลกใหม่ในยุคนั้นมากเลยทีเดียว หลังจากนั้นเขาได้ขาย Hood Milk Bottle ในปี 1943 และถูกปล่อยร้างมาเป็นเวลานานสิบปี

Cr. Bostonchildrensmuseum

จนกระทั่ง H.P. Hood and Sons, Inc. บริษัท ผลิตนมถูกชักชวนให้ซื้อและมอบให้กับพิพิธภัณฑ์เด็กบอสตันในปี 1977 ด้วยรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ และขนาดที่ใหญ่ยักษ์ มีความสูงถึง 40 เมตร และมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 18 ฟุต ทำให้ Hood Milk Bottle กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์เด็กบอสตัน และได้กลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญจุดหนึ่งในปัจจุบันอีกด้วย

เป็นที่เห็นกันอย่างชัดเจนว่า แรงบัลดาลใจจากอาหารเป็นตัวช่วยอย่างดีที่ทำให้งานออกแบบนั้นเป็นเอกลักษณ์ สถาปัตยกรรมจากอาหาร จึงเป็นผลงานเป็นที่สะดุดตา และมีเสน่ห์ดึงดูดผู้คนให้มาสนใจ และเกิดคุณค่าในตัวของมันเองในที่สุด

สามารถติดตามผลงานต่าง ๆ ของทาง Bareo ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ของ Bareo หรือทาง Facebook : Design by Bareo ที่จะคอยอัพเดทข่าวสาร งานดีไซน์ และผลงานการออกแบบตกแต่งภายในมากมาย ให้ท่านผู้อ่านได้รับความรู้ และความสนุกตลอดทั้งปี

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

marietta
wanderintwo
atlasobscura