อิกลู หรือที่เรารู้จักกันอีกชื่อว่าบ้านเอสกิโม เป็นที่อยู่อาศัยของชาวเอสกิโม เป็นบ้านที่มีเอกลักษณ์ทั้งในเรื่องของรูปทรง รวมไปถึงคุณสมบัติโดดเด่นที่ช่วยสร้างความอบอุ่นให้ชาวเอสกิโมหนีพ้นจากความหนาวมาได้ และความพิเศษเหล่านี้ในปัจจุบันได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการสร้างที่พักอาศัยที่ไม่ใช่เพียงบ้านพักชั่วคราวอีกต่อไป แต่ยังสร้างให้สามารถใช้อยู่อาศัยได้ตลอดทั้งปี

cr.http://www.survivalnewsonline.com

Igloo คือ ที่พักอาศัยของชาวเอสกิโมซึ่งเป็นมนุษย์เผ่าหนึ่งที่อาศัยอยู่ทางแถบขั้วโลกเหนือ หรือชนเผ่าบางกลุ่มที่อาศัยในเขตหนาว ซึ่งมีหิมะปกคลุมพื้นที่เกือบทั้งหมดแต่พวกเขาก็มีการรับมือด้วยการประยุกต์สร้างที่อยู่อาศัยสำหรับหลบหนีจากสภาพอากาศหนาว โดยมีชื่อเรียกว่า “อิกลู” หรือที่รู้จักกันในชื่อ บ้านเอสกิโม

cr.https://arcticblacksheep.wordpress.com/

IGLOO ประกอบไปด้วยน้ำแข็ง โดยจุดเด่นอยู่ที่คุณสมบัติของน้ำแข็ง ทำให้บ้านเอสกิโมนั้นสามารถเก็บกักความร้อนได้ดีเป็นพิเศษ ชาวเอสกิโมจะทำการหาแผ่นน้ำแข็งมาตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมขนาดพอเหมาะ นำไปวางซ้อนกันวนเป็นรูปก้นหอยจนกลายเป็นทรงโดม และทำการเจาะทางเข้าไว้ด้านล่างให้พอดีตัว เป็นการกันลมหนาวไม่ให้ผ่านเข้ามา นอกจากนี้ผนังด้านในมีการใช้หนังสัตว์มาขึงบุไว้เป็นฉนวนไม่ให้ความร้อนจากตะเกียง และไออุ่นจากร่างกายออกไปภายนอก ด้วยเหตุนี้ทำให้บริเวณภายในของบ้านนั้นมีอุณหภูมิที่อุ่นกว่าภายนอกมากถึง 4-15 องศาเซลเซียส จนทำให้บ้านนั้นโดดเด่นทางด้านแนวคิดการก่อสร้าง

cr.www.forumalev.net

ข้อดีของบ้าน IGLOO คือเมื่อชาวเอสกิโมมีการย้ายถิ่นฐาน หรือหน้าร้อนมาถึง ตัวบ้านเหล่านี้จะสามารถละลายกลับคืนสู่ธรรมชาติได้โดยไม่มีอะไรเหลือตกค้างให้เป็นเศษขยะ และเนื่องจากแผ่นน้ำแข็งมีอยู่ทุกที่ที่พวกเขาอยู่อาศัย จึงทำให้ชาวเอสกิโมสามารถที่จะสร้างบ้านไว้กี่หลังก็ได้

และด้วยคุณสมบัติที่มีประโยชน์ของการสร้าง lGLOO ของชาวเอสกิโม โรงแรมระดับโลกจึงได้มีการนำแนวคิดนี้มาปรับใช้ และยังมีการทำให้การอาศัยอยู่กับน้ำแข็งกลายเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับคนปกติทั่วไป เพราะทางโรงแรมเองมีสิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาดที่จะมาลอง ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาการบนจานน้ำแข็ง การนอนผ่อนคลายบนเตียงน้ำแข็ง ซึ่งก็เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดหรูเหล่านี้

Icehotel ตั้งอยู่ที่ประเทศสวีเดน เป็นโรงแรมน้ำแข็งแห่งแรกของโลกและยังเป็นโรงแรมน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่เปิดมายาวนานที่สุด ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1994 ห้องพักของที่นี่ีมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ จุดเด่นจะอยู่ที่การแปลงโฉมโรงแรมด้วยก้อนน้ำแข็งกว่า 5,000 ตันจากทะเลสาบน้ำแข็ง Torne ในประเทศสวีเดน และยังมีการใช้น้ำแข็งมาแกะสลักมาเป็นของใช้ต่างๆ ทั้งบาร์ เตียงนอน และอื่นๆ แต่ในช่วงที่อุณหภูมิขึ้นสูงน้ำแข็งเหล่านี้ก็จะค่อยๆละลาย เมื่อถึงหน้าหนาวทางโรงแรมก็จะต้องมีการสร้างขึ้นใหม่อีกครั้งในหน้าหนาวต่อไป

cr.https://www.nationalgeographic.com/

cr.https://mymodernmet.com

โรงแรม Borealis Basecamp ตั้งอยู่ในทางเหนือของเมือง Fairbanks ประเทศสหรัฐอเมริกา มีความโดดเด่นด้วยที่พักทรงโดม ซึ่งก็ได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านของชาวเอสกิโมนั่นเอง ตัวโดมมีความยาว 10 ฟุต และมีทั้งหมด 10 อาคาร ความพิเศษที่นอกเหนือไปจากนี้คือสามารถมองเห็นวิวผ่านทางเพดานของห้องได้โดยตรง และที่สำคัญนักท่องเที่ยวยังสามารถมานอนชมแสงเหนือได้ทีนี่อีกด้วย ถึงแม้ว่าด้านนอกจะหนาวเหน็บแค่ไหนแต่การออกแบบภายในก็ถูกควบคุมด้วยระบบให้ความอุ่นอย่างดี มีการใช้ฉนวนใยแก้ว ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับวัสดุที่นักวิจัยขั้วโลกใช้ในการอยู่อาศัย เรียกได้ว่าการมาพักผ่อนที่นี้จะต้องเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมเลยล่ะค่ะ

cr.https://xoxobella.com

cr.https://www.tripadvisor.com/

Kakslauttanen Arctic Resort ตั้งอยู่ระหว่างทางไป Arctic Sea ใกล้ ๆ อุธยานแห่งชาติ Urho Kekkonen ซึ่งเป็นอุธยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดของประเทศฟินแลนด์ โดยในบริเวณของโรงแรมจะได้เจอกับบ้านเอสกิโมที่ทำจากแก้วขนาด 2-4 คน เรียงรายกันอยู่ ซึ่งในจุดนี้เองก็สามารถนอนชมแสงเหนือได้อย่างสบาย แน่นอนว่าเป็นที่นิยมไปทั่วโลกกลายเป็นสัญลักษณ์ของบ้านที่อยู่ท่ามกลางความหนาวเหน็บไปเสียแล้ว ทางโรงแรมได้นำนวัตกรรมในยุคปัจจุบันมาประยุกต์ให้เข้ากับความต้องการของนักท่องเที่ยวมากขึ้น คือการใช้กระจกมาทำเป็นหลังคาแบบใสเพื่อให้มองวิวได้รอบบริเวณ แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งรูปร่างรูปทรงของบ้านแบบดั้งเดิมไว้

cr. https://www.travelden.co.uk

cr. https://funsubstance.com/

Sorrisniva lgloo Hotel ตั้งอยู่ที่ Norway ประติมากรรมทั้งหมดที่นี่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของคนท้องถิ่น และจิตรกรกว่า 30 คน สิ่งปลูกสร้างเหล่านี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบ้านน้ำแข็งของชาวเอสกิโม ตกแต่งไปด้วยประเพณีและความเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงรวมไปถึงสัตว์ป่าในตำนานก็ถูกนำมาเป็นส่วนนึงในการออกแบบ โดยที่พักของนักท่องเที่ยวประกอบไปด้วย เตียงน้ำแข็งที่ประดับไปด้วยพรม และหนังกวางเรนเดียร์ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากวิถีชีวิตของชาวเอสกิโมในสมัยก่อน นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเช่ารถหิมะไปสำรวจหุบเขา Finnmark เพื่อที่จะเรียนรู้วัฒนธรรมของคนท้องถิ่นบริเวณนั้นได้อีกด้วย

cr. https://practicalwanderlust.com/

cr. https://www.cntraveler.com

Hotel de Glace ตั้งอยู่ที่ประเทศแคนาดา โรงแรมแห่งนี้จะเปิดให้เข้าพักเฉพาะหน้าหนาว ยิ่งทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นที่จับตามองของนักท่องเที่ยวที่จะรอจองเพื่อมาเข้าพักในหน้าหนาว โดยสิ่งที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ก็คือการที่ทุกส่วนในโรงแรมทำจากน้ำแข็งจริง ๆ  เฟอร์นิเจอร์ต่างๆก็จะถูกสร้างมาจากน้ำแข็งทั้งหมด โดยภายในห้องจะไม่มีหน้าต่างเพื่อต้องการกักเก็บความอบอุ่นเอาไว้นั่นเอง ความพิเศษของที่นี่อีกหนึ่งอย่างก็จะอยู่ที่ความประณีต ที่ช่างสลักลงมือแกะสลักกำแพง และเครื่องใช้ต่างๆไว้อย่างสวยงาม กลายเป็นโรงแรมน้ำแข็งที่หรูหราไม่แพ้ที่อื่นๆ

cr. https://www.cntraveler.com

cr. https://tourismexperienceblog

ภูมิปัญญาของคนในอดีตเมื่อถูกนำมาประยุกต์กับนวัตกรรมของคนในรุ่นปัจจุบัน กลับกลายเป็นความลงตัวและสร้างคุณค่า เป็นผลงานที่สร้างรายได้ให้กับคนรุ่นหลังๆได้อย่างมากมาย บ้านที่เกิดมาจากการต้องการเอาตัวรอดจากความหนาวเหน็บของชาวเอสกิโม ถูกพัฒนามากลายเป็นโรงแรมสุดหรูหรามากมายทั่วโลกเรียกได้ว่าเป็นความมหัศจรรย์แห่งความคิดสร้างสรรค์ที่น่าทึ่ง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ngthai.com
practicalwanderlust.com
th.wikipedia.org
www.nationalgeographic.com