Grand Royal Palace พระราชวังแสนสวย

Grand Royal Palace
พระราชวังแห่งความงาม

มีโอกาสได้ดูหนังแนวเทพนิยายบ่อยครั้ง บางทีก็แอบคิดไปว่าปราสาทพระราชวังของเจ้าหญิงที่เราเห็นในจอนั่น มีจริงหรือไม่? แล้วมารู้ทีหลังว่าหลายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสถานที่จริง บางเรื่องก็ถ่ายทำจากสถานที่จริงๆ ยิ่งทำให้รู้สึกทึ่งมากๆ ซึ่งปราสาทและพระราชวังที่อยู่จริงก็งดงาม หรูหรา ไม่แพ้ในเทพนิยายเลยค่ะ และหลายๆ ที่ยังถูกบันทึกให้เป็นมรดกของโลกเลยทีเดียว
บทความนี้จะพาคุณจะลัดเลาะขอบรั้วชมพระราชวังที่มีอยู่จริง ว่าจะสวยงามสมคำร่ำลือขนาดไหน ขอบอกเลยว่าไม่มีผิดหวังแน่นอนค่ะ..
Alhambra Palace

Cr. omrania

หากใครเคยดูหนัง Tales of the Alhambra หรือเป็นคอหนังสือ เพลง และเกม เช่น Assassin’s Creed, Memories of the Alhambra เป็นต้น อาจเคยเห็นพระราชวัง Alhambra ผ่านตามาบ้าง จากความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมสไตล์มัวร์ ที่บรรจงสร้างไว้อย่างยอดเยี่ยม
Alhambra Palace
พระราชวังอาลัมบรา Alhambra เป็นพระราชวังและป้อมปราการเก่าแก่ของสเปน ตั้งอยู่ในเมืองกรานนาดา สร้างขึ้นโดยกษัตริย์มุสลิมชาวมัวร์ สุลต่านมุฮัมมัดที่ 1 เดิมเป็นเพียงป้อมปราการเล็กๆ ก่อนจะถูกทิ้งร้าง และบูรณะขึ้นมาใหม่เมื่อกลางศตวรรตที่ 13 ต่อมาในปี 1492 หลังเหตุการณ์การยึดพื้นที่คืนของชาวคริสต์จากมุสลิม ได้มีการเปลี่ยนพระราชวังให้กลายเป็นราชสำนัก และปรับปรุงบางส่วนให้เป็นสถาปัตยกรรมแบบเรเนซองส์ แต่ทำไม่สมบูรณ์ จึงได้เปลี่ยนมาสร้างแบบอิตาลี ผสมผสานกันจนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่งดงาม และที่พระราชวังแห่งนี้มีชื่อว่า “อาลัมบรา” ก็เพราะว่าตัวอาคารสร้างด้วยหิน ดิน และอิฐสีแดง มีปูนขาวเป็นส่วนประกอบ ทำให้มีลักษณะออกเป็นสีแดง ซึ่งก็ตามความหมายของคำว่า “อาลัมบรา” ที่แปลว่า “สิ่งที่มีสีแดง” นั่นเองค่ะ
Alhambra Palace

Cr. imgur

พระราชวังอาลัมบราเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์มัวร์ที่โดดเด่นด้วยงานแกะสลักอันปราณีต ละเอียดละออ บนผนัง เสา เพดาน โค้งซุ้มประตูต่าง ๆ จนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจน ภายในพระราชวังประกอบด้วยหน้าพระลาน ท้องพระโรง ที่ถูกตกแต่งและประดับประดาไว้อย่างงดงามและเป็นเอกลักษณ์ มีห้องมุข ห้องชุด สนามหญ้า พระแกล พระทวาร ผนังกำแพง ซึ่งบริเวณภายในถูกแกะสลักลวดลายไว้อย่างปราณีต และเมื่อโด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง Tales of the Alhambra ทำให้พระราชวังอาลัมบราถูกยกย่องให้เป็นมรดกของโลกมาจนถึงปัจจุบัน
Mysore Palace
Mysore Palace

Cr. fabhotels

พระราชวังไมเซอร์ (Mysore ) เป็นพระราชวังเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของอินเดีย ตั้งอยู่ใจกลางเมืองของรัฐ Karnataka ในอดีตเคยเป็นที่ประทับของเหล่าราชวงศ์วาดิยาร์และเป็นที่ตั้งของอาณาจักรไมซอร์ อาคารทรงสวย ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามถูกล้อมล้อมด้วยสนามหญ้าขนาดใหญ่และส่วนหย่อม กลายเป็นองค์ประกอบที่สวยงามลงตัวจนทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเยี่ยมชมกว่า 6 ล้านคนต่อปี
Mysore Palace

Cr. mylifeiswanderful

ในส่วนของงานสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของพระราชวังไมเซอร์นั่น จุดสำคัญคือมีโดมที่เป็นจุดดึงดูดสายตา สร้างความน่าสนใจ ออกแบบโดยการผสมผสานระหว่างสไตล์ฮินดู (Hindu,) โมกุล (Mughal,) ราชบัท( Rajput) และสไตล์โกธิค (Gothic ) โครงสร้างทำจากหินสามชั้นกับโดมหินอ่อน ประตูทางเข้าและซุ้มประตูเปรียบดั่งตราสัญลักษณ์และเกราะป้องกันของอาณาจักรไมซอร์ ซึ่งได้มีการเขียนคำขวัญของราชอาณาจักรในภาษาสันสกฤตไว้โดยรอบว่า “नबिभॆतिकदाचन” หมายความว่า “ไม่เคยกลัว”
Mysore Palace

Cr. fabhotels

ตัวอาคารของพระราชวังไมเซอร์ก็เป็นอาคารหินสามชั้นที่ทำมาจากหินแกรนิตสีเทา และโดมหินอ่อนสีชมพู อีกทั้งยังมีในส่วนของซุ้มโค้งหลายแห่ง ซึ่งเหนือซุ้มโค้งแต่ละแห่งตรงกลางจะเป็นรูปปั้นของ Gajalakshmi เทพีแห่งความั่งคั่ง โชคลาภ และความอุดมสมบูรณ์ ภายในอาคารถูกตกแต่งไว้อย่างหรูหรา ประดับประดาด้วยศิลปะชิ้นเอกที่งดงามปราณีต มีการใช้สีพาสเทลสีเขียว สีน้ำเงิน และสีชมพู บนผนัง เสา และภาพจิตรกรรมฝาผนัง ทำให้ภายในดูมีสีสันและดูวิจิตรามากยิ่งขึ้น
Potala Palace
Potala Palace
พระราชวังโปตาลา (Potala Palace) ตั้งอยู่ที่กรุงลาซา เขตปกครองตนเองทิเบต ประเทศจีน พื้นที่ราบสูงทิเบต ถือเป็นทั้งป้อมปราการและสถานที่อันศักดิ์สิทธิ ซึ่งสร้างขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ในรัชสมัยของพระเจ้าซรอนซันกัมโป (Songtsan Gampo) ผู้เป็นปฐมกษัตริย์แห่งจักรวรรดิทิเบต
Potala Palace
พระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่หลายครั้ง เมื่อปี ค.ศ. 1617 – 1682 โลซัง กยาโช (Lobsang Gyatso) ดาไลลามะองค์ที่ 5 มีรับสั่งให้สร้างขึ้นในลักษณะของวังซ้อนวังบนยอดเขาเนินเตี้ยๆ ประกอบด้วยวังชั้นนอกและวังชั้นใน โดยวังชั้นนอก เรียกกันว่า “วังขาว” เนื่องจากตัวอาคารมีขาว ส่วนวังชั้นในเรียกว่า “วังแดง” เพราะผนังถูกทาด้วยสีแดง และอาคารหลังนี้สร้างหลังจากวังชั้นนอกถึง 50 ปี
Potala Palace

Cr. flickr

ลักษณะสำคัญของพระราชวังโปตาลา คือ ระเบียงจะมีภาพเขียนสีเรียงซ้อนกัน แถมอาคารยังได้ออกแบบให้มีทั้งบันไดไม้และบันไดหิน มีห้องสวดมนต์ที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงามสำหรับให้ประชาชนเข้ามาสักการะและขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่สำคัญยังมีรูปเคารพเกือบสองแสนองค์ด้วยกัน ปัจจุบันพระราชวังโปตาลาเป็นพิพิธภัณฑ์และสถานสักการะ โดยวังขาวจะแบ่งพื้นที่เป็นสำนักงาน มีโรงเรียนทางศาสนา และวังแดงถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ที่แห่งนี้จึงนับว่าเป็นศูนย์รวมทางจิดตใจของชาวทิเบตเลยก็ว่าได้
Palácio Nacional da Pena
Palácio Nacional da Pena
พระราชวังแห่งชาติเปนา (Palácio Nacional da Pena) เป็นพระราชวังในศิลปะจินตนิยม อยู่ในเมืองชิงตรา ประเทศโปรตุเกส ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงาม ทรงคุณค่า จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ในปี 1995 ในฐานะของ” Cultural Landscape” แห่งแรกในยุโรป
Palácio Nacional da Pena

Cr. parquesdesintra

พระราชวังแห่งชาติเปนาถูกออกแบบและพัฒนามาจากรูปแบบสถาปัตยกรรมโกธิค เข้ากับ Manueline Style ในยุคของกษัตริย์ Manuel ที่ 1 และนำมาผสมผสานกับศิลปะอิสลามของมัวร์ ทำให้เป็นอาคารที่ออกแบบได้อย่างแตกต่างแต่ลงตัวและสมบูรณ์แบบมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 จนถึงปัจจุบัน จุดเด่นงานดีไซน์ คือ รูปแบบของปล่องไฟทรงโคนในพื้นที่ของห้องครัวที่ดูโดดเด่นและเห็นได้ชัด รวมไปถึงห้องเพดานที่ถูกตกแต่งด้วยรูปหงส์หรูหรา สง่างาม นอกจากนี้ยังมีห้องเพดานรูปม้า ที่มีลวดลายของกระเบื้องผนังและรายละเอียดตกแต่งงดงามตระการตามากๆ เลยค่ะ
หากใครอยากสัมผัสบรรยากาศของพระราชวังสักครั้งในชีวิต สามารถเดินทางไปเยี่ยมชมได้ค่ะ เพราะแต่ละที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมความสวยงามกันด้วย ถ้าแฟนๆ บาริโอคนไหนที่มีโอกาสได้ไปชม ก็อย่าลืมถ่ายรูปมาฝากกันด้วยนะคะ^^
สามารถติดตามผลงานต่าง ๆ ของทาง Bareo ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ของ Bareo หรือทาง Facebook : Design by Bareo ที่จะคอยอัพเดทข่าวสาร งานดีไซน์ และผลงานการออกแบบตกแต่งภายในมากมาย ให้ท่านผู้อ่านได้รับความรู้ และความสนุกตลอดทั้งปี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
thepassport.travel
mysorepalace
alhambradegranada

CONTENT RELATED

NEW CONTENT

PORTFOLIO