Mackintosh สถาปนิกผู้มีผลงานโดดเด่นเป็นอมตะอย่างไม่เสื่อมคลาย ผลงานการออกแบบของเขา ที่ทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษามากมาย สะท้อนให้เห็นถึงพรสวรรค์ และความสามารถของ Mackintosh ได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่ากว่าจะมาเป็น Mackintosh ที่โลกรู้จัก จะต้องผ่านกระบวนการรังสรรค์ผลงานมาอย่างมากมาย และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ คือสถาบันที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในการผลิตศิลปิน นักออกแบบ และสถาปนิกที่ทรงอิทธิพล และประสบความสำเร็จมากที่สุดของโลกอย่างสถาบัน “ Glasgow School of Art ”

Charles Rennie Mackintosh นักออกแบบชาวสกอตแลนด์ ผู้มีหัวก้าวหน้าและทันสมัยที่สุดแห่งยุค เขาเริ่มเข้าศึกษาด้านการออกแบบงานสถาปัตยกรรมในปี ค.ศ.1889 และพัฒนาการออกแบบให้เป็นเอกลักษณ์ โดยยึดพื้นฐานของรูปแบบและวัสดุในงานสถาปัตยกรรมสกอตแลนด์แบบดั้งเดิม ผลงานของ Mackintosh จะแฝงไปด้วยกลิ่นอายความโรแมนติก ทั้งการออกแบบอาคาร เฟอร์นิเจอร์ และงานตกแต่งภายใน เรียกได้ว่าผลงานของเขามีอิทธิพลอย่างมากต่องานของสถาปนิกในยุคช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20

Cr.http://www.gsa.ac.uk

ผลงานจำนวนไม่น้อยที่ทิ้งเอาไว้ให้เป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นหลังได้ศึกษา งานออกแบบของเขาจัดอยู่ในยุคหลังของ Art Nouveau โดยเขาได้ผสานความอ่อนช้อยของศิลปะแบบ Nouveau เข้ากับเส้นสายที่เรียบง่าย ทำให้เกิดเป็นความงามที่คลาสสิค และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

งานออกแบบของ Mackintosh มีทั้งอาคารบ้านเรือน, โบสถ์, โรงเรียนศิลปะ, งานหล่อเหล็ก และลวดลายบนพื้นผ้า เป็นต้น เรียกได้ว่ามากมายหลายแขนง สมกับที่เป็นศิลปินระดับโลกจริง ๆ

Mackintosh เติบโตในชนบทของเมือง Glasgow และเข้าเรียนในโรงเรียนสอนศิลปะ Glasgow School of Art หนึ่งในโรงเรียนเฉพาะด้านศิลปะในสกอตแลนด์ โดยโรงเรียนแห่งนี้เน้นการศึกษาที่มุ่งเน้นการปฏิบัติจริง จึงทำให้นักศึกษาได้ลงมือและทดลองทำ

The Mackintosh Building
Cr.http://www.gsa.ac.uk/

ในช่วงที่ Mackintosh ยังเป็นนักศึกษาเขามีโอกาสได้ฝึกงานกับสถาปนิก John Hutchins และได้ร่วมงานกับบริษัทสถาปนิกที่มีชื่อเสียงอย่าง Honeyman & Keppie และสุดท้ายเขาได้มีโอกาสได้กลับมาออกแบบอาคารสำคัญให้กับ Glasgow School of Art ที่เขาเคยศึกษา ชื่อว่าอาคาร Mackintosh (แมคอินทอช) ซึ่งเป็นหนึ่งในอาคารที่แสดงถึงเอกลักษณ์แห่งคริสต์ศตวรรษที่ 20 และกลายเป็นผลงานชิ้นเอกอีกนึ่งชิ้นของ Mackintosh อีกด้วย

Cr.https://www.scotland.org

ผลงานของ Mackintosh หลักๆแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทคือ การออกแบบอาคาร เฟอร์นิเจอร์ และงานตกแต่งภายใน ซึ่งงานออกแบบภายในที่โดดเด่นของ Mackintosh ก็คือ Tea Room ที่เปรียบเหมือนร้าน Cafe ในยุคนี้

โดยผลงานที่ถือได้ว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดของเขาก็คือ Tea Room เพราะเป็นงานที่รวมเอา Art, Architect และ Design มาสอดผสานกันอย่างกลมกลืม และยังได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในตัวอย่างผลงานที่ดีที่สุดในโลกของยุคอาร์ตนูโวอีกด้วย

Cr.https://www.glasgowmackintosh.com

ผลงานการออกแบบเก้าอี้ของ Mackintosh ถือเป็นการสร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่น และยังคงความเป็นอมตะมาจนถึงปัจจุบัน ผลงานเก้าอี้ที่เป็นผลงานที่โด่งดังของ Mackintosh คือเก้าอี้ที่มีพนักพิงสูง เขาต้องการแสดงให้เห็นว่าผู้นั่งเก้าอี้จะต้องนั่งหลังตรง จึงออกแบบที่นั่ง ขาเก้าอี้ และพนักพิง ตัดทอนให้มีรูปทรงที่เรียบง่าย เลือกใช้ไม้โอคเนื้อแข็ง พนักพิงแนวตั้งยาวไปจรดขาหลัง กลายเป็นองค์ประกอบที่เพิ่มความแข็งแรงให้เก้าอี้มีประสิทธิภาพในการใช้งานมากขึ้น และรูปทรงเหล่านี้เองที่กลายเป็นสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ในเวลาต่อมา

“High-backed chair”
cr.https://www.1843magazine.com

Argyle’ chair
Cr.https://collection.maas.museum

นอกจากนี้ยังมีเก้าอี้ที่มีชื่อเสียงจากการออกแบบของ Mackintosh อย่าง Hill House chair ที่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการใช้รูปทรงเรขาคณิตเพื่อสร้างเก้าอี้ที่ดูสวยงาม แต่ยังใช้งานได้จริงตามวัตถุประสงค์และ Ingram Chair ที่ออกแบบขึ้นมาสำหรับห้องรับประทานอาหารสีขาวที่มีชื่อว่า The Ingram Tea Rooms ใน Glasgow อีกด้วย

Hill House chair
Cr.https://iconicinteriors.com

Ingram Chair
Cr. https://www.bauhaus2yourhouse.com

จากความพยายามรังสรรค์ผลงานให้มีคุณภาพของ Charles Rennie Mackintosh นี้เอง ทำให้เรื่องราวของเขารวมไปถึงงานออกแบบของเขา ยังเสมือนมีชีวิตไม่เลือนหายไปจากวงการดีไซน์ แถมยังกลายเป็นแบบอย่างให้คนรุ่นหลังอย่างเรา ได้นำไปใช้เป็นแรงบัลดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานของตนเองในอนาคต ถือได้ว่า “ยุคอาร์ตนูโว” เป็นยุคหนึ่งที่ผลงานของ Mackintosh ได้สร้างความแตกแต่ง และส่งผลให้เกิดงานดีไซน์ในสไตล์ต่าง ๆ ตามมาอย่างมากมาย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
www.crmsociety.com
www.greatbuildings.com
www.artcyclopedia.com
www.gsa.ac.uk
www.scotland.org
www.glasgowmackintosh.com
www.musee-orsay.fr