Viking Architecture
สถาปัตยกรรมไวกิ้ง
ไวกิ้ง (Viking) ตำนานที่สามารถพบเห็นได้ตามหน้าประวัติศาสตร์และสื่อบันเทิงมากมาย สิ่งที่น่าค้นหาไม่แพ้วีรกรรม หรือเรื่องเล่าของชาวไวกิ้ง ก็คือสถาปัตยกรรมของชาวไวกิ้ง ที่อยู่อาศัยที่มีแนวความคิดในการออกแบบเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและธรรชาติ รวมไปถึงในเรื่องของการตกแต่งที่มีเอกลักษณ์จนเกิดเป็นความงามทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ของชาวไวกิ้งนั่นเอง
เรื่องราวของชาวไวกิ้ง
Cr. livescience
ไวกิ้ง เป็นกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตอยู่กับท้องทะเลในช่วงยุคไวกิ้ง (Viking Age) ในช่วงศตวรรษที่ 7-11 โดยชื่อเรียกนั้นได้มาจากภาษานอสโบราณ (Old Norse) ที่ว่า “Vikingr” มีความหมายแปลว่า โจรสลัด มากไปกว่านั้นคำว่าไวกิ้งยังมีความหมายใกล้เคียงกับคำว่าการเดินเรืออีกด้วย
ดังนั้นคำว่า Vikingr จึงถูกนำมาใช้นิยามกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมคล้ายกับ โจรสลัด และยังหมายถึง กลุ่มคนที่ล่องเรือออกปล้นสะดมตามพื้นที่ต่างๆอีกด้วย แต่ในอีกด้านหนึ่งไม่ได้มีเพียงกลุ่มคนเหล่านี้ แต่ยังมีกลุ่มคนที่ออกเดินเรือเพื่อทำการค้าขายทางน้ำ และสำรวจพื้นที่ใหม่ๆในยุคบุกเบิกก็ถูกเหมารวมว่าเป็นไวกิ้วด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ชาวไวกิ้งยังมีการปลูกพืช ทำปศุสัตว์เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ แถมยังมีหลักฐานการใช้ของใช้ต่างๆเช่น หวี ช้อน และหลักฐานในเรื่องการรักษาความสะอาด หรือแม้กระทั่งมีกฎหมายเป็นของตัวเอง จึงเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่มีอารยธรรมสูงไม่แพ้ใครเลยทีเดียว
Cr. wildatlanticway
ย้อนกลับไปถึงภูมิหลังของประเทศแทบสแกนดิเนเวีย ซึ่งมีลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่ล้อมรอบไปด้วยทะเล จึงทำให้การเดินทางโดยเรือเป็นสิ่งจำเป็น แต่สิ่งที่ทำให้ชาวไวกิ้งต้องออกปล้นและหาดินแดนใหม่ อาจเกิดจากแผ่นดินที่มีจำกัด รวมไปถึงความยากจนอีกด้วย อย่างไรก็ตามชาวยุโรปในยุคนั้นสามารถแยกความแตกต่างของไวกิ้งเฉพาะกลุ่มที่เป็นพ่อค้าแลกเปลี่ยนสินค้า กับกลุ่มไวกิ้งทั่วไปที่บุกปล้นประเทศในแถบยุโรปได้ แต่นอกจากนี้ยังมีนักประวัติศาสตร์อธิบายว่า แม้แต่กลุ่มไว้กิ้งที่เป็นพ่อค้า ก็ยังไม่ได้เป็นมิตรเหมือนพ่อค้าทั่วไป
ที่อยู่อาศัยของชาวไวกิ้ง
พื้นที่อาศัยของชาวไวกิ้งมักอยู่ในแถบสแกนดิเนเวียที่ล้อมรอบไปด้วยทะเล ภูเขา และป่า ซึ่งเป็นอุปสรรคในการเดินทางทางบก ดังนั้นชาวไวกิ้งจึงเลือกที่จะใช้การเดินทางทางน้ำและมักจะตั้งถิ่นฐานติดกับปากแม่น้ำ ตามประวัติศาสตร์ที่ค้นพบจะสามารถแบ่งสถาปัตยกรรมของชาวไวกิ้งได้ดังนี้
Boating Houses
Cr. avaldsnes
Boating Houses เป็นอาคารที่ใช้เก็บเรือของชาวไวกิ้งในช่วงฤดูหนาว หรือในช่วงที่สภาพอากาศเลวร้ายจนไม่สามารถเดินเรือได้ ชาวไวกิ้งมักจะสร้าง Boating Houses ห่างจากตลิ่งเล็กน้อย โดยใช้วิธีขุดหลุมลงไปจากพื้นดิน มีความยาวของอาคารตั้งแต่ 30เมตรเป็นต้นไป เนื่องจากเรือของชาวไวกิ้งส่วนมากจะมีความยาวประมาณ 25 เมตรหรือมากกว่านั้น
Cr. avaldsnes
ในส่วนของการออกแบบภายนอกของ Boating Houses ตัวผนังจะถูกสร้างจากไม้โดยใช้อิฐหรือหินขนาดใหญ่ก่อขึ้นเป็นฐาน โดยมีลักษณะเป็นทรงโดมที่เกิดจากการตีไม้ที่มีความยาวเรียงต่อกันเป็นแนวโค้ง หรือมีลักษณะคล้ายท้องเรือนั่นเอง
Religious Buildings
Cr. avaldsnes
Borgund Stave Church เป็นหนึ่งในอาคารทางศาสนาของชาวไวกิ้ง ตั้งอยู่ในประเทศ Norway เป็นหนึ่งในศาสนสถานที่ถูกใช้สำหรับชุมนุมของชาวคริสต์หลังจากที่ผู้คนหันมารับถือศาสนาคริสต์กันอย่างแพร่หลาย โดยการตกแต่งมีลักษณะที่โดดเด่นคือหลังคาที่ซ้อนกันขึ้นไปหลายชั้น และนิยมสร้างหอคอยหรือยอดแหลมไว้ตรงยอดของอาคาร โดยสถานที่แห่งนี้ถูกสร้างด้วยไม้เนื้อแข็ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพื้นที่ในบริเวณดังกล่าวมีทรัพยากรป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ รวมไปถึงฝีมือทางการช่างของผู้คนในแถบสแกนดิเนเวียในยุคนั้นอีกด้วย
Cr. avaldsnes
การออกแบบภายในเป็นไปอย่างประณีต โดยส่วนมากจะเป็นเรื่องราวถึงพระเยซู รวมไปถึงสัญลักษณ์ทางศาสนาอย่างไม้กางเขนและเหล่าสาวกต่างๆ มีการทำซุ้มโค้ง เสากลม และงานแกะสลักซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านงานไม้ของชาวไวกิ้งเลยก็ว่าได้
Viking Longhouse
Cr. wallswithstories
บ้านของชาวไวกิ้งจะสร้างโดยมีลักษณะเป็นแนวยาว โดยขนาดจะขึ้นอยู่กับความสำคัญของเจ้าของบ้าน หรือเรียกอีกอย่างว่าเป็นเหมือนการแสดงฐานะของเจ้าบ้านอีกด้วย แต่ไม่ว่าขนาดจะแตกต่างกันเท่าใด โครงสร้างของบ้านแต่ละหลังก็จะมีลักษณะที่เหมือนกันเกือบทั้งหมด
Cr. wallswithstories