ถ้าพูดถึงการแต่งบ้านของผู้คนในปัจจุบัน อีกหนึ่งสไตล์ที่กำลังได้รับความสนใจกันเป็นอย่างมากจนอดนึกถึงไม่ได้เลยนั่นก็คือ การแต่งบ้านในรูปแบบมินิมอล หรือ Minimal Style ที่นำเอาแนวคิดหลักจากความเรียบง่าย เล็กน้อย มีประโยชน์ใช้สอย แต่กลับให้บรรยากาศที่ดูโปร่ง โล่ง ผ่อนคลายและดูดี มีเอกลักษณ์ได้อย่างเหลือเชื่อ

     Minimal Style เรามักจะให้คำจำกัดความไว้ว่า ว่า  “Less is More” น้อยแต่มากน้อยในที่นี้คือไม่ยัดเยียด ตามความจำเป็นและประโยชน์ตามความเหมาะสม มากคือมากด้วยความรู้สึกและตอบสนองประโยชน์วิถีแห่งความสุขได้อย่างสมบูรณ์  ด้วยเทคนิคในการเลือกใช้โทนสีพื้นอ่อนๆ มาใช้ในการตกแต่งบ้าน ซึ่งจะช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลายให้แก่ผู้พักอาศัยได้เป็นอย่างดี

สไตล์ Minimal กับ Modern มันต่างกันอย่างไร

      Modern Style มีตั้งแต่สมัยที่มีการปฏิวัติอุตสาหกรรมในประเทศยุโรป มีการตกแต่งที่เรียบง่ายแต่ดูเก๋ ใช้เส้นสายองค์ประกอบและเฟอร์นิเจอร์เป็นแบบกราฟิค  รูปทรงเรขาคณิต สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม ทรงกลม วัสดุส่วนใหญ่ที่นำมาตกแต่งส่วนใหญ่ มีกลิ่นอายของความเป็นอุตสาหกรรมซะเป็นส่วนใหญ่ อาทิ กระจก  โลหะ  หนัง  เป็นต้นครับ

   Minimal  จะแตกต่างจาก Modern Style ตรงที่ Minimal จะเน้นเรื่องของพื้นที่ (Space ) ซะเป็นส่วนใหญ่ เฟอร์นิเจอร์ หรือ องค์ประกอบต่างๆจะถูกซ่อนอยู่ในผนังให้ดูกลมกลืนกับธรรมชาติ  อีกทั้งยังรู้สึกถึงความผ่อนคลาย (Comfort) โล่งสบาย งานแบบ Minimal เป็นเสมือนผู้ที่คลั่งไคล้ความทันสมัยและบ่งบอกความมีสไตล์

แต่งบ้านอย่างไรให้เป็น  Minimal Style ???

      1.ตกแต่งในแบบเรียบง่าย

      Minimal คือการให้ความสำคัญกับพื้นที่ว่างให้ความรู้สึกโล่งผ่อนคลาย ดังนั้นการตกแต่งในสไตล์นี้จึงเน้นการลดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออก แล้วเก็บไว้แต่สิ่งที่จำเป็นไว้เท่านั้น เพราะเสน่ห์ของการออกแบบตกแต่งสไตล์นี้ก็คือ ความเรียบง่ายของเส้นสาย รูปทรง และโครงสร้างของอาคาร รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ และสิ่งประดับตกแต่งต่างๆ ที่ดูไม่ล้นจนเกินไปนั้นเองครับ

      2.การจัดระบบที่เก็บของ

      สำหรับการออกแบบส่วนเก็บของ เช่น ชั้นเก็บของข้างผนัง หรือตู้เสื้อผ้าในห้องนอน มักจะออกแบบให้ถูกซ่อนอย่างกลมกลืนไปกับอาคารหรือเครื่องเรือน เช่น ออกแบบผนังหรือมุมต่างๆ ให้สามารถซ่อนตู้ หรือลิ้นชักเก็บของได้ โดยออกแบบหน้าบานต่างๆให้กลมกลืนไปกับผนังห้อง ก็จะช่วยอำพรางความไม่เป็นระเบียบของบ้านได้ดียิ่งขึ้นด้วยครับ

      3.โทนสี

      อารมณ์ของโทนสีของก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญ โทนสีของอาจอยู่ในโทนสีแบบโมโนโทนก็ดูสวยเก๋ไม่เบา หรืออาจเน้นพื้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งให้มีความโดดเด่นหรือสีฉูดฉาด สำหรับสไตล์ Minimal ไม่ได้มีโทนสีที่ เฉพาะเจาะจง แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะเน้นไปที่สีพื้นอย่าง ขาว ดำ เทา เป็นต้น เพราะให้ความรู้สึกที่เบา ไม่ฉูดฉาดเกินไป แต่ก็สามารถใช้สีโทนอื่นได้เช่นกัน แต่ให้คุมโทนไว้สามเฉด คือ สีเข้ม สีกลาง และสีอ่อน เช่นเลือกสีดำเป็นสีเข้ม สีขาวเป็นสีอ่อน ดังนั้นสีกลางคือสีเทา เป็นต้น

     4. เฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง

      เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย นิยมแบบเรียบๆ ในหนึ่งชิ้นสามารถใช้ได้หลายหน้าที่ เช่น เลือกซื้อตู้โชว์ที่สามารถเป็นชั้นหนังสือ และชั้นวางทีวีได้ด้วย เลือกเตียงที่มีช่องเก็บของเล็กๆ ใต้เตียง เป็นต้น และการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ควรซื้อเฉพาะเท่าที่จำเป็นและคุมโทนสีของ เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นด้วย และมักเลือกใช้สีขาว หรือสีสันค่อนข้างขรึม เพื่อให้บ้านมีบรรยากาศที่ดูเรียบ สงบ และผ่อนคลาย

     5.องค์ประกอบอื่นของการตกแต่ง

     การตกแต่งด้วยของตกแต่งอย่างแจกัน รูปภาพ หรือผลงานศิลปะอื่นๆ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะมันจะสามารถช่วยสร้างอารมณ์สร้างบรรยากาศให้กับผู้อยู่อาศัยได้ แต่ให้คุณเลือกมาสักชิ้นสองชิ้นที่คิดว่าโดดเด่นที่สุด

      สำหรับ Minimalism มิได้เป็นเพียงตัวกำหนดแนวคิดในการออกแบบตกแต่งบ้านเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวกำหนดวิถีการดำรงชีวิตที่ไม่ยึดติดในการซะสมสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ พอใจการใช้สอยเพียงสิ่งของที่จำเป็น  เพียงแค่คุณยึดหลักนี้คุณก็จะได้ตกแต่งบ้านในแบบ Minimal ได้อย่างสมบูรณ์แบบในวิถีแห่งความเรียบง่ายที่คุณปรารถนา สำหรับวันนี้บียอนขอตัวลาไปก่อนสวัสดีครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก
builttobuildgroup.com
thinkofliving.com
pinterest.com