ภาพวาดบ้านคอทเทจ ของ “แอนน์ แฮททาเวย์”
Credit : shakespeare .org.uk
หากนึกถึงบ้านที่ให้บรรยากาศร่มรื่นและแลดูอบอุ่น “บ้านสไตล์คอทเทจ” ( Cottage House ) คงจะเป็นบ้านสไตล์แรกที่เรานึกถึง เพราะด้วยสไตล์ของบ้านอันเป็นเอกลักษณ์ที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้รู้สึกถึงความอบอุ่น งดงาม เงียบสงบ ในแบบชนบทของชาวยุโรป ในปัจจุบันบ้านสไตล์คอทเทจ หรือกระท่อมหลังเล็กสไตล์ยุโรปนั้น มักทำให้เรานึกถึงวัฒนธรรมของชาวยุโรปในชนบท ซึ่งแบบบ้านสไตล์นี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งภายในประเทศของเราและในต่างประเทศ เนื่องจากความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและลักษณะที่เน้นความเป็นธรรมชาติเป็นสำคัญ และหนึ่งในบ้านสไตล์คอทเทจที่โด่งดังไปทั่วโลก จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่หลายๆคนตั้งความหวังไว้ว่าต้องไปสัมผัสบ้านหลังนี้ด้วยตัวเองสักครั้งหนึ่งในชีวิต นั่นก็คือ บ้านคอทเทจ ของ “แอนน์ แฮททาเวย์” ( Anne Hathaway )
ภาพวาดรูป แอนน์ แฮททาเวย์ วาดโดย Sir Nathaniel Curzon, 1708
แอนน์ แฮททาเวย์ เป็นภรรยาของวิลเลียม เชคสเปียร์ กวี นักเขียนบทละคร และนักแสดงชาวอังกฤษ ผู้ซึ่งเป็นตำนานของโลก ทั้งคู่แต่งงานกันในปี ค.ศ. 1582 เมื่อแอนน์อายุ 26 ปีและเช็คสเปียร์ในขณะนั้นอายุเพียง 18 ปี โดยบ้านคอทเทจหลังนี้เป็นบ้านของครอบครัวของแอนน์ เป็นบ้านที่แอนน์เกิดและเติบโตขึ้น ณ หมู่บ้าน ชอตเตอรี เมืองวอร์ริคเชียร์ ประเทศอังกฤษ
ภาพบ้านคอทเทจของแอนน์ ในปี ค.ศ. 1885
Credit : shakespeare .org.uk
บ้านหลังนี้ถือเป็นสถานที่ที่เชคสเปียร์จะมาคอยพบเธอในช่วงแรกที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มต้นขึ้น บ้านหลังนี้สร้างขึ้นมากว่า 500 ปีที่แล้ว มีเนื้อที่กว้างกว่า 90 เอเคอร์ ออกแบบในสไตล์ทิวดอร์ ( Tudor Style ) ปัจจุบันข้าวของเครื่องใช้ดั้งเดิมส่วนใหญ่ในบ้านยังคงถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี เช่น เฟอร์นิเจอร์ดั้งเดิม รวมไปถึงเตียงนอนของแอนน์ และเรื่องราวใน 5 ศตวรรษที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับของครอบครัวของเธอที่อาศัยอยู่ที่นี่มาแล้วถึง 13 ชั่วอายุคน ( มากกว่า 368 ปี )
Credit : shakespeare .org.uk
เดิมทีบ้านคอทเทจหลังนี้เป็นบ้านในไร่ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1463 และมีเพียงแค่ 3 ห้องเท่านั้น โดยห้องที่ยังคงมีให้เราเห็นมาถึงปัจจุบันนั้น ได้แก่ ห้องครัว ห้องนอน และห้องนั่งเล่น ซึ่งบุคคลแรกที่ได้มาอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ก็คือ จอห์น แฮททาเวย์ ปู่ของแอนน์ ซึ่งเป็นผู้เช่าฟาร์มแกะในตอนนั้น และในช่วงเวลาต่อมาแอนน์ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นที่บ้านหลังนี้ในปี ค.ศ. 1556
อย่างที่ทราบกันว่าที่ดินในบ้านคอทเทจหลังนี้ เดิมทีเป็นฟาร์มที่รู้จักกันในชื่อ “ฮิวแลนด์ส” และครอบครัวของแอนน์นั้นก็เป็นเกษตรกรเลี้ยงแกะที่ถือว่าประสบความสำเร็จ ดังนั้นจึงมีที่ดินที่แบ่งออกเป็นฟาร์มปศุสัตว์และเป็นสวน จึงมีพื้นที่สำหรับปลูกสมุนไพร ต้นไม้ ดอกไม้ ผักรวมถึงผลไม้ต่างๆ มากมาย
Geranium (เจอเรเนียม) เป็นดอกไม้ในสกุลเพอลาร์โกเนียม (Pelargonium) ซึ่งในภาษาละติน Pelargonium แปลว่ามีกลิ่นแรง ซึ่งกลิ่นหอมของพวกมันจะได้กลิ่นอย่างชัดเจนแค่เพียงเดินผ่าน กลิ่นของ Geranium จะเป็นกลิ่นคล้ายผลไม้รสเปรี้ยวและมีกลิ่นอายของกลิ่นกุหลาบ นิยมนำไปใช้ทำเป็นกลิ่นสบู่ โลชั่น
น้ำมันเจอเรเนียมได้มาจากการกลั่นใบและก้านเช่นเดียวกับดอกกุหลาบ ของเหลวให้กลิ่นคมชัดแต่ก็มีกลิ่นที่หวานกว่ากุหลาบ ซึ่งเจอเรเนียมจะมีกลิ่นหอมคล้ายกับลาเวนเดอร์ ทำให้มีกลิ่นเหมาะกับความเป็นชายมากขึ้น สารสกัดนี้จึงถูกนำมาใช้ในน้ำหอมผู้ชายมากมาย
สวนดอกไม้และผลไม้ภายในบ้านคอทเทจของแอนน์
ในปี ค.ศ. 1920 เอเลน วิลมอทท์ ( Ellen Willmott ) ผู้เชี่ยวชาญทางด้านพืชสวนได้รับมอบหมายจาก องค์กรShakespeare Birthplace Trust ให้ออกแบบและการปลูกพืชในสวนรอบตัวบ้าน การออกแบบสวนดอกไม้และสวนผลไม้ของเอเลนนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อพรรณาถึงบรรดาพืชพันธุ์หลากหลายชนิดที่ได้ถูกกล่าวถึงในบทประพันธ์ของเชคสเปียร์ โดยพันธุ์ไม้ต่างๆของเธอยังมีให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ รวมถึงแปลงดอกไม้ 3 แปลงใกล้ทางเข้าบ้านที่มีชื่อว่า “สวนมิสวิลมอตต์” ( Miss Willmott’s garden )
จุดประสงค์ที่องค์กร Shakespeare Birthplace Trust ต้องการออกแบบสวนที่บ้านคอทเทจของ Anne Hathaway เพราะในปีค.ศ. 1923 ได้มีการวางท่อระบายน้ำใหม่สำหรับเมือง Shottery ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับสวนในบ้านของแอนน์แห่งนี้ และเมื่อการวางระบบท่อระบายน้ำของเมืองเสร็จสมบูรณ์ ในเวลานั้นสวนก็เต็มไปด้วยดินและโคลน องค์กร Shakespeare Birthplace Trust จึงจำเป็นด้องปรับปรุงและจัดภูมิทัศน์บางส่วนของพื้นที่สวนขึ้นมาใหม่ ซึ่ง ณ เวลานั้น เอลเลน วิลมอทท์ เป็นนักออกแบบสวนที่เป็นที่ยอมรับและเป็นที่ชื่นชอบอย่างกว้างขาวง จึงได้รับคัดเลือกให้มาออกแบบสวนและคอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการจัดสวนดอกไม้ใหม่ และหลังผลงานการจัดสวนครั้งนั้นเสร็จสิ้นลง เอลเลน ถูกชื่นชมและถือเป็นนักจัดสวนที่ออกแบบสวนดอกไม้ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากมาจนถึงทุกวันนี้
สวนภายในบ้านคอทเทจของแอนน์
Credit : farmcottages .com
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ความมั่งคั่งร่ำรวยของครอบครัวแฮททาเวย์ได้ลดลง ทรัพย์สินบางส่วนรวมทั้งที่ดินถูกจำนอง กระทั่งในปี ค.ศ. 1838 บ้านคอทเทจหลังนี้ก็ได้ถูกขายออกไป แต่ทว่าลูกหลานครอบครัวแฮททาเวย์ก็ยังคงอาศัยอยู่ต่อในบ้านหลังนี้ในฐานะของผู้เช่า สำหรับสมาชิกครอบครัวแฮททาเวย์คนสุดท้ายที่อาศัยอยู่ในบ้านคอทเทจหลังนี้ คือ แมรี่ เบเกอร์ จากนั้นองค์กร Shakespeare Birthplace Trust ได้ซื้อบ้านหลังนี้ไป ในปี ค.ศ. 1892 โดยให้แมรี่และครอบครัวของเธอได้รับค่าจ้างจำนวนมากถึง 75 ปอนด์ต่อปี แต่หน้าที่ของพวกเขาก็คือจะต้องคอยบอกเล่าและแบ่งปันเรื่องราวในครอบครัวให้นักท่องเที่ยวฟัง และจะต้องดูแลบำรุงรักษาบ้านคอทเทจหลังนี้ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ซึ่ง วิลเลี่ยม เบเกอร์ ลูกชายของแมรี่ได้ครอบครองส่วนหนึ่งของบ้านหลังนี้จนกระทั่งเขาจากไปในปี ค.ศ. 1911
สถานที่ตั้งองค์กร Shakespeare Birthplace Trust สแตรทฟอร์ดริมแม่น้ำเอวอน เมืองวอร์ริคเชียร์ ประเทศอังกฤษ
Credit : burnsidestratford .co.uk
สำหรับ Shakespeare Birthplace Trust ถือเป็นองค์กรการกุศลด้านการศึกษาที่จดทะเบียนอิสระซึ่งตั้งอยู่ใน สแตรทฟอร์ดริมแม่น้ำเอวอน เมืองวอร์ริคเชียร์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งจัดตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1847 หลังจากการซื้อบ้านเกิดของ วิลเลียมเชกสเปียร์ เพื่อเก็บรักษาไว้เป็นอนุสรณ์แห่งชาติ นอกจากนี้ยังถือว่าเป็นองค์กรเพื่อสังคมสำหรับอนุรักษ์สถานที่เก่าแก่ที่สุดในสหราชอาณาจักร ไม่ได้รับเงินทุนจากรัฐบาลหรือเงินอุดหนุนจากสาธารณะ โดยทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับการสนับสนุนของประชาชนและอาศัยการบริจาคและรายได้ที่ได้รับจากผู้เยี่ยมชมสถานที่ขององค์กร
Shakespeare Birthplace Trust ถือเป็นองค์กรการกุศลของเช็คสเปียร์ที่สำคัญที่สุดในโลกและมีความพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อส่งเสริมการชื่นชมและการศึกษาบทละครและผลงานต่างๆของ วิลเลียม เชกสเปียร์ ในระดับสากลและส่งเสริมความก้าวหน้าทั่วไปเพื่อพัฒนาต่อยอดของความรู้ของเชกสเปียร์ Shakespeare Birthplace Trust มีหน้าที่ดูแลและรักษาทัพย์สมบัติที่เกี่ยวข้องกับ เชกสเปียร์ ทั้งหมด
บ้านคอทเทจ ของ “แอนน์ แฮททาเวย์” ณ ปัจจุบัน
Credit : shakespeare .org.uk
Credit : meetbirmingham .com
ปัจจุบันผู้คนจำนวนมากยังคงเดินทางไปที่เมืองวอร์ริคเชียร์ เพื่อค้นหาสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตส่วนตัวและประวัติของเช็คสเปียร์ ซึ่งบ้านคอทเทจหลังนี้ก็มีชื่อเสียงในเรื่องราวสุดโรแมนติกที่เกี่ยวพันกับเช็คสเปียร์แทบทั้งสิ้น แต่สำหรับใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศบ้านคอทเทจหลังนี้ ก็สามารถเดินทางไปดูบ้านคอทเทจจำลองขนาดเท่าของจริงกันได้ที่ต่างๆ ดังนี้ค่ะ