บัลลังก์นกยูง ( The Peacock Throne หรือ Sun Throne) บัลลังก์ที่มีชื่อเสียงอันโด่งดัง และมีเรื่องเล่ามาอย่างยาวนาน และด้วยความวิจิตรตระการตาในการออกแบบจึงทำให้บัลลังก์นี้กลายเป็นสิ่งล้ำค่า และหมายตาของใครหลายๆคน จนเกิดเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ

Cr. wikipedia

บัลลังก์นกยูง ถูกสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิชาห์ จาหัน (Shah Jahan) แห่งอาณาจักรโมกุล ผู้ซึ่งสร้าง ทัชมาฮาล อันโด่งดัง โดยบัลลังก์นกยูงนี้ถูกสร้างขึ้นในต้นศตวรรษที่ 17 บัลลังก์นี้ตั้งอยู่ในท้องพระโรง Diwan-i-Khas (Hall of Private Audiences) ในป้อมแดง (Red Fort of Delhi) แห่งกรุงเดลี ซึ่งเป็นเมืองหลวงของอินเดียในขณะนั้น และยังเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงอำนาจการปกครองอาณาจักรโมกุลอันยิ่งใหญ่ ที่กว้างใหญ่ไพศาลเกือบทุกอนุในอินเดีย

(จิตรกรรมแสดงภาพของจักรพรรดิ Akbar II )

Cr. navrangindia.wordpress

การสร้างบัลลังก์นกยูงนี้ขึ้นมา ตามความเชื่อที่ว่า ราชสำนักของจักรพรรดิชาห์ จาหัน (Shah Jahan) และตัวพระองค์เองเป็นเสมือนภาพสะท้อนของสวรรค์บนโลก และเป็นหัวใจของทั้งจักรวรรดิเลย จักรพรรดิชาห์ จาหัน ที่เป็นผู้ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้า จึงถูกนับเป็นประธานในศาลในฐานะผู้พิพากษาอีกด้วย เพราะเหตุนี้เองจึงจำเป็นต้องมีที่นั่งที่เหมาะสมกับตำแหน่งในฐานะผู้แทนของพระเจ้า จึงมีการสร้างบัลลังก์ที่เน้นถึงความสำคัญของการเป็นกษัตริย์ที่ยุติธรรม และเป็นที่มาของรูปทรงการดีไซน์ทั้งหมดของบัลลังก์นกยูง

Cr. wikipedia

บัลลังก์นกยูงเป็นบัลลังก์ที่หุ้มด้วยทองพร้อมกับประดับด้วยเพชรนิลจินดา บริเวณด้านหน้าของบัลลังก์จะมีขั้นบันไดสำหรับก้าวเพื่อขึ้นไปนั่ง ในส่วนของตัวบัลลังก์เป็นตั่งยกระดับขึ้นเพื่อให้สูงจากพื้น ทำให้ผู้คนด้านล่างมองเห็นผู้นั่งบนบัลลังก์อได้อย่างชัดเจน ที่ทำรูปทรงให้มีลักษณะเช่นนี้ สันนิษฐานว่ามีแรงบัลดาลใจที่อยากจะทำให้ตัวบัลลังก์เสมือนลอยอยู่เหนือพื้นโลก และมีโดมทรงกลมด้านบนให้เหมือนกับสวรรค์ชั้นฟ้า

Cr. wilipedia

โดยรูปทรงโดมของบัลลังก์นกยูงยังเป็นแบบสถาปัตยกรรมเดียวกับโดมของป้อมแดงที่เป็สถานที่ตั้งบัลลังก์อยู่ด้านในอีกด้วย

ในส่วนของการประดับประดาที่สุดแสนจะวิจิตรตระการตา เป็นสิ่งที่บ่งบองได้ถึงความมีฝีมือและประณีตของช่างอินเดียในสมัยนั้น นกยูงถูกนำมาเป็นส่วนสำคัญในการใช้ตกแต่งโดยมีอยู่บริเวณสองมุมของโดม และอยู่ในจุดที่สูงสุดบนยอดของบัลลังก์ ขนาบสองข้างของพานพุ่มดอกไม้ ถูกเนรมิตขึ้นจากเพชรพลอยล้ำค่า และบริเวณปากของนกยูงทุกตัวยังคาบสร้อยไข่มุกไว้อีกด้วย

Cr. wilipedia

การที่เลือกนกยูงมาเป็นส่วนสำคัญของบัลลังก์ เพราะนกยูงเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นกษัตริย์ และพลังอำนาจ โดยคตินี้เป็นความเชื่อของชาวอินเดีย และทั้งหมดทั้งมวลก็ได้สำเร็จออกมาเป็นบัลลังค์ยูงทอง ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งกษัตริย์ และนกยูงยังแพร่หลายขึ้นในหมู่ชาวเปอร์เซียในเวลาต่อมาอีกด้วย

ภาพทั้งหมดที่ได้เห็นถือเป็นหลักฐานยืนยันที่ทำให้ได้รู้ว่าบัลลังก์นกยูงนั้นเคยมีอยู่จริงในอินเดียในยุคสมัยนั้น ด้วยความวิจิตรตระการตาและความล้ำค่าของมัน จึงมีชื่อเสียงเลื่องลือไปไกลจนทำให้กลายเป็นที่หมายปองของจักรพรรดิเปอร์เซีย จนกระทั่งเมื่อได้โอกาสจึงทำการยึดบัลลังก์นกยูงนี้ไปสู่เปอร์เซีย และบัลลังก์ยูงทองชิ้นนี้ยังคงเป็นสมบัติล้ำค่าที่ใครๆต่างแย่งชิงต้องการที่จะครองครองเป็นเจ้าของ จึงทำให้ในทีสุดกลายเป็นบัลลังก์ที่หายสาบสูญไปอย่างน่าเสียดาย เหลือเพียงสถานที่ที่เคยเป็นที่ตั้งบัลลังก์นกยูง และภาพต่างๆนี้ไว้ให้ผู้คนรุ่นหลังได้เข้าชมประวัติศาสตร์เพียงเท่านั้น

Cr. Flickr

เรียกได้ว่านกยูงมีความสำคัญกับความเชื่อของผู้คนหลากหลายเชื้อชาติเลยทีเดียว ด้วยความสง่างาม และความเลอค่าของมัน จึงทำให้ถูกนำมาเป็นแรงบัลดาลใจในการสร้างสรรค์สิ่งของต่างๆมากมาย รวมไปถึงบัลลังก์ของกษัติย์ที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน

สามารถติดตามผลงานต่าง ๆ ของทาง Bareo ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ของ Bareo หรือทาง Facebook : Design by Bareo ที่จะคอยอัพเดทข่าวสาร งานดีไซน์ และผลงานการออกแบบตกแต่งภายในมากมาย ให้ท่านผู้อ่านได้รับความรู้ และความสนุกตลอดทั้งปี

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

wikipedia
chotiroskovith.blogspot
navrangindia.wordpress
flickr