ทุกวันนี้มีคอนโดและบ้านจัดสรรเกิดขึ้นมากมายราวกับดอกเห็ด (เปรียบซะเห็นภาพชัดเจนเชียว) นอกจากการออกแบบภายนอกที่ดูสวยงามล้วนดึงดูดใจให้เลือกซื้อหรือผ่อนกันได้ตามใจชอบควรคำนึงการออกแบบภายใน ซึ่งรวมไปถึงการส่วนต่างๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้อนนอน ห้องน้ำ ห้องรับแขกและห้องครัว

     หุหุ…..โปรยมาซะขนาดนี้แล้ว อยากรู้แล้วใช่มั๊ยว่าวันนี้ Karuntee จะนำเอาสาระดีๆ เรื่องไหนมาฝากแฟนๆ ชาวบาริโอ และนั่นก็คือเรื่องควรรู้เกี่ยวกับการเลือกท็อปเคาน์เตอร์ห้องครัวค่ะ เหล่าคุณแม่บ้าน พ่อบ้านทั้งหลายไม่ควรพลาดเด็ดขาดค่ะ อืม….เพราะถ้าพลาดแล้ว คุณจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องนะ บอกเลย!

     ห้องครัวถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของบ้าน เนื่องจากต้องดูแลและใส่ใจในการดูแลรักษา เนื่องจากเป็นที่สำหรับรองรับการประกอบอาหารต่างๆ โดยนำมาถึงความเลอะเทอะเปรอะเปื้อน รวมถึงคราบสกปรกที่อาจเกิดขึ้นหลังจากที่ใช้งานเสร็จ ดังนั้นความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกท็อปเคาน์เตอร์จึงสามารถช่วยทำให้สะดวกสบายในการเลือกซื้อและใช้งานเป็นอย่างมาก อ่า….งั้นเราไปทำความรู้จักพร้อมๆ กันเลยดีกว่า

1.ศึกษาข้อมูลให้พร้อมก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ

     การหาข้อมูลต่างๆ ในปัจจุบันถือเป็นเรื่องง่ายมากเลยค่ะ เพราะไม่ว่าจะมองซ้าย มองขวา ก็พบเจอกับโซเซียลเน็ตเวิร์คหรือบรรดาสมาร์ทโฟนทั้งหลายที่ช่วยให้การหาข้อมูลในเรื่องที่คุณอยากรู้ง่ายเหมือนปลอกกล้วยเลยทีเดียว เช่นเดียวกับการเลือกซื้อท็อปเคาน์เตอร์ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยการศึกษาหาข้อมูลอย่างละอียดถี่ถ้วน โดยเฉพาะคุณสมบัติต่างๆ รวมไปถึงการใช้งานที่เหมาะสม เพื่อให้ตรงใจกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากยิ่งขึ้น คำเตือน! ข้อนี้สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะถ้าคุณให้พนักงานแนะนำเพียงอย่างเดียว คุณก็จะได้รู้เพียงข้อดีของมัน ฉะนั้นเพื่อป้องกันความผิดพลาดคุณจึงควรศึกษาข้อดีข้อเสียของวัสดุแต่ละชนิดเป็นหลักแล้วใช้คำแนะนำของพนักงานมาช่วยประกอบการตัดสินใจดีกว่า อย่าลืมใช้สมาร์ทโฟนให้เป็นประโยชน์กันนะจ๊ะ

2.เลือกท็อปเคาน์เตอร์ที่มีหลายวัสดุ

     การเลือกใช้ท็อปเคาน์เตอร์ที่ประกอบด้วยหลายวัสดุนั้นจะทำให้ห้องครัวของคุณมีความแข็งแรงและทนทานมากขึ้นซึ่งเหมาะสำหรับครัวไทยที่สำคัญยังทำให้บริเวณห้องครัวดูมีสีสันหลากหลาย โดดเด่นมีสไตล์และน่าใช้งานเป็นอย่างยิ่ง

3.การเลือกสีของท็อปเคาน์เตอร์

     หลายคนอาจคิดว่าท็อปเคาน์เตอร์ห้องครัวเหมาะสำหรับสีโทนเข้มมากกว่า เพราะดูแลรักษาและทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นคราบ เนื่องจากความมืดของสีดำจะช่วยปกปิดรอยเปื้อนและคราบต่างๆได้ดีกว่าสีอื่นๆซึ่งก็ถือว่าความเข้าใจนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่ก็ไม่เสมอไปซะทุกอย่าง เคาน์เตอร์ที่มีสีสันก็มีคุณสมบัติเหล่านี้เช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับการดูแลใส่ใจของแต่ละคนมากกว่า ฉะนั้นการเลือกท็อปเคาน์เตอร์นั้นจึงอยากให้มองที่คุณสมบัติของวัสดุมากกว่าสีและสไตล์การตกแต่งบ้านของคุณจะดีกว่า

4.เช็ดรอยเปื้อนออกทันที

     หากเกิดรอยเลอะและเปรอะเปื้อนบริเวณท็อปเคาน์เตอร์ ควรรีบทำความสะอาดทันที เพราะจะทำให้เกิดคราบและขจัดได้ยากลำบากมากกว่าเดิม โดยการทำความสะอาดนั้นก็ขึ้นอยู่กับลักษณะพื้นผิวของวัสดุที่คุณใช้และลักษณะของรอยเปื้อนที่เกิดขึ้น บางคนอาจใช้น้ำยาเช็ดคราบหรือน้ำส้มสายชู แม้กระทั่งน้ำมะนาวก็สามารถใช้ทำความสะอาดได้เช่นกัน

5.จัดการกับคราบหยดน้ำ

     หลังจากใช้งานบริเวณท็อปเคาน์เตอร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมมองข้ามสิ่งเล็กๆ ที่สามารถทำให้เกิดคราบได้เช่นกัน นั่นก็คือหยดน้ำที่เกาะติดอยู่ ควรเช็ดให้แห้งด้วยน้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำส้มสายชู แค่เพียงเท่านี้ท็อปเคาน์เตอร์ห้องครัวของคุณก็จะไม่เกิดคราบ สามารถใช้งานทนทานได้อย่างยาวนาน

     อ่ะ…อ่ะ แต่ความสำคัญของการเลือกท็อปเคาน์เตอร์ยังไม่หมดแค่นี้นะคะ อีกหนึ่งขั้นตอนที่ควรคำนึงถึง อืม….ในระหว่างที่เลือกอยู่นะคะ สิ่งนั้นก็คือวัสดุที่นิยมนำมาทำท็อปเคาน์เตอร์ห้องครัว จะมีอะไรบ้างนั้น ไปรู้จักพร้อมๆ กันเลยค่ะ Let’s go……

     1. หินธรรมชาติ หรือที่เราเรียกจนเคยชินว่า หินแกรนิต นั่นเองค่ะ เหตุผลที่หินแกรนิตนิยมนำมาทำเป็นท็อปเคาน์เตอร์ครัวเพราะมีความแข็งแกร่งสูงเนื้อแน่นเป็นแผ่นเดียวกัน รวมไปถึงมีความทนทานต่อความร้อนได้ถึง 1200 องศาฟาเรนไฮท์ความหนาของหินแกรนิตอยู่ที่ประมาณ 2 ถึง 2.5 เซนติเมตรจึงสามารถเจียรขอบหรือเจียรลบมุมได้อย่างสวยงามมีสีสันและรูปแบบให้เลือกมากมาย ข้อเสียคือมีการดูดซับน้ำมากกว่าวัสดุสังเคราะห์อื่นๆ ซึ่งเป็นบ่อเกิดของคราบและความสกปรก จึงควรเช็ดทำความสะอาดให้แห้งหลังจากที่ใช้งานเสร็จ ส่วนราคาของหินแกรนิตไม่แพงมากและมักจะแปรผันตามขนาดที่สั่งตัด

     2. หินสังเคราะห์ เป็นวัสดุทดแทนหินที่มีส่วนผสมของหินธรรมชาติชนิดต่างๆปะปนอยู่ไม่ว่าจะเป็นหินแกรนิตหินอ่อนหรือหินควอตซ์ซึ่งจะมีเรซิ่นเป็นตัวประสานเพื่อให้เกิดความคงทนและแข็งแรงทนการขีดข่วนความร้อนทนไฟทนกรดด่างสารเคมีได้มากกว่าหินธรรมชาติลักษณะของพื้นผิวจะเรียบไร้รูพรุน จึงเกิดความสกปรกได้ยาก ข้อเสียของหินชนิดนี้เห็นที่จะมีอยู่เพียงข้อเดียวคือ ราคาแพง!

ข้อควรคำนึง
     ในการทำท็อปเคาน์เตอร์ครัวไม่ควรเลือกใช้หินสังเคราะห์ที่มีส่วนผสมของหินอ่อนเนื่องจากเป็นวัสดุที่ไม่ทนทานต่อกรดด่างเช่นรอยเปื้อนของอาหารน้ำยาล้างจาน

     3. หินเทียม เป็นวัสดุทดแทนหินที่ผลิตจากส่วนผสมอื่นๆที่ไม่ใช่หินธรรมชาติเช่นอะคริลิคโพลีเอสเตอร์ มีลักษณะผิวเรียบเนียนเป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่นไม่มีรูพรุนไม่ดูดซึมน้ำทำให้สามารถทำความสะอาดได้ง่ายเป็นหินที่มีลวดลายและสีสันให้เลือกอย่างหลากหลาย ข้อเสียที่พบได้ทั่วไปคือวัสดุที่ทำจากหินเทียมจะเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย แต่ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการเคลือบเงาและซ่อมแซมได้แบบง่ายๆ เช่นกัน ส่วนราคาค่อนข้างสูงซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของหิน

     4. กระเบื้องเซรามิค เป็นวัสดุกระเบื้องดินเผาเคลือบเซรามิคมีข้อดีคือสามารถดูแลและทำความสะอาดได้ง่ายทนความร้อนได้ดีมีหลายแบบและหลากราคาให้เลือกจึงทำให้เป็นที่นิยมของหลายครอบครัวในปัจจุบัน แต่ข้อเสียคือผิวจะไม่สม่ำเสมอเพราะกระเบื้องอาจแตกหรือหลุดร่อนได้คราบเปื้อนมักติดอยู่บริเวณยาแนวราคาแพงค่อนข้างสูง

     5. ลามิเนต เป็นวัสดุพลาสติกที่มีทั้งแบบลามิเนตติดกาวและแผ่น MDF Board เป็นท็อปสำเร็จรูปที่มีความหนาประมาณ20-40 มิลลิเมตร ทำความสะอาดง่ายและดัดโค้งง้อได้ตามใจต้องการ ข้อควรระวังคือเมื่อเกิดรอยขีดข่วนจะไม่สามารถซ่อมแซมได้

     6. ไม้ วัสดุที่ทำจากไม้จะให้ความรู้สึกคล้ายกับอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีประโยชน์หลากหลาย ลักษณะพื้นผิวมีหลายรูปแบบ ทำความสะอาดง่าย ที่สำคัญวัสดุที่นำมาใช้เป็นท็อปเคาน์เตอร์ต้องเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความทนทานกว่าส่วนที่นำมาทำเป็นตู้ข้อเสียคือเมื่อโดนน้ำจะเกิดรอยด่างและคราบสกปรก รวมถึงรอยขีดข่วน

     7. สเตนเลสสตีล หากครัวไหนที่ใช้งานหนักหรือมีการประกอบอาหารบ่อยครั้ง (ท็อปแบบนี้พบเห็นได้มากที่ครัวของร้านอาหาร ลองไปขอพ่อครัวดูสิ เย้ย…ผิดๆ ไม่ควรอย่างแรง อิอิ) ท็อปเคาน์เตอร์แบบสเตนเลสสตีลเป็นอีกหนึ่งช้อยส์ที่ควรเลือก เพราะเป็นวัสดุที่มีความทนทาน ปัจจุบันได้มีการนำเอาสเตนเลสมาผสมผสานเรื่องของวัสดุต่างๆเช่น หน้าบานกระจกหรือหน้าบานไม้ สเตนเลสสามารถทำผิวขัดได้หลายแบบทั้งผิวเรียบธรรมดาลายขนแมวที่มีการขัดลายเป็นเส้นๆและลายเส้นผมที่มีลักษณะเป็นเส้นยาวๆเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ ข้อดีคือทนทาน ดูแลรักษา ทำความสะอาดง่าย ข้อเสียคือราคาแพงและบุบง่าย

     8. หินอ่อน หินอ่อนสามารถช่วยสร้างความหรูหราให้กับบรรยากาศภายในห้องครัว ส่วนมากมักพบในบ้านสไตล์โมเดิร์น ข้อดีคือมีความทนทานสูง ทนน้ำและความร้อนได้ดี แต่ข้อเสียที่ทำให้คนไม่นิยมใช้ท็อปเคาน์เตอร์จากหินอ่อนก็คือราคาสูงและต้องหมั่นดูแลอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากเกิดรอยเปื้อนและรอยขีดข่วนได้ง่าย

     ถึงห้องครัวจะเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของบ้าน แต่ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับมันเช่นเดียวกับบริเวณอื่นๆ นะคะอย่าละเลยที่จะใส่ใจเลือกและดูแลรักษา เพราะนอกจากจะทำให้ดูสวยงามอยู่ตลอดเวลาแล้ว ยังสามารถกลายเป็นห้องครัวที่อยู่กับเราไปยาวนานได้เช่นกัน

ขอขอบคุณรูปภาพจาก

http://www.forfur.com/