นอกจากนี้ งานเขียนแบบรายละเอียดที่นักออกแบบตกแต่งภายในทำออกมาก็เปรียบเสมือนเข็มทิศและแผนที่ ที่ลูกค้าจะสามารถนำไปใช้ว่าจ้างผู้รับเหมาในการตกแต่งบ้านให้ประสพความสำเร็จตามความประสงค์ได้เป็นอย่างดี การตกแต่งบ้านโดยปราศจากแบบหรือนักออกแบบตกแต่งภายในแล้ว เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้รับเหมาเอาเปรียบเจ้าของบ้านได้เกือบร้อยเปอร์เซนต์ทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยน Spec หรือลดวัสดุ ลดขนาดต่างๆ รวมทั้งแก้แบบให้ทำงานได้ง่ายขึ้น หรือหลบแบบตัดเอาส่วนที่ยากออกไป ซึ่งจะส่งผลให้งานด้อยคุณภาพลงอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆ ที่เจ้าของบ้านต้องจ่ายเงินเต็มจำนวน หรืออาจจะมากกว่าที่ควรจะเป็นด้วยซ้ำไปครับ
ดังนั้น หากจะว่าไปแล้ว ประโยชน์ของการว่าจ้างนักออกแบบตกแต่งภายในมืออาชีพที่เก่งๆ นั้น สามารถแบ่งได้เป็น 5 ข้อใหญ่ดังต่อไปนี้
1. ประหยัดเวลา นักออกแบบตกแต่งภายในมืออาชีพมักจะมีวิธีการทำงานอย่างเป็นระบบ ทำให้งานที่ยากกลับกลายเป็นง่ายและรวดเร็ว รวมทั้งยังมีประสบการณ์ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในหน่วยงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเจ้าของบ้านบางรายก็สามารถทำเองได้ เพียงแต่อาจจะต้องเสียเวลาในการวางแผนงาน ติดต่อและรวบรวมทีมงาน แบ่งงาน และยังต้องบริหารการเงินควบคู่ไปด้วย บ่อยครั้งที่การใช้บริการจากมืออาชีพอาจจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาไปได้มากกว่าครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
2. ประหยัดค่าใช้จ่าย บางครั้ง อาจดูเหมือนว่าการว่าจ้างนักออกแบบตกแต่งภายในนั้นเป็นเรื่องฟุ่มเฟือยโดยไม่จำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การใช้บริการของนักออกแบบตกแต่งภายในมืออาชีพน่าจะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นต่างๆ ได้มากเลยทีเดียว นอกจากนี้ นักออกแบบตกแต่งภายในที่ดียังสามารถให้คำแนะนำในการเลือกซื้อสินค้า หรือของประดับตกแต่งต่างๆที่ได้มาตรฐาน และหลีกเลี่ยงสินค้าที่มีคุณภาพต่ำ หรือมีอายุการใช้งานน้อย ซึ่งเป็นการลดค่าเสียหายจากการลองผิดลองถูกต่างๆ ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งนักออกแบบที่มีจริยธรรมสูงๆ มักจะแนะนำให้ลูกค้าหลีกเลี่ยงจากผู้รับเหมาที่ดูไม่มั่นคงหรือมีแนวโน้มจะทิ้งงาน อันจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากกับลูกค้าในภายหลังได้อีกด้วย
|