editor talk
home
about bareo
art of design
decor guide
the gallery
living young
talk to editor
links
 
 
 
 

 

          สวัสดีครับ ยังไม่ป่วยเป็นไข้หวัดกันใช่ไหมเอ่ยตอนนี้ โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 กลับมาระบาดอีกครั้ง ซึ่ง ณ วันนี้กลายเป็นว่าเจ้าโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลไปซะแล้ว และล่าสุดก็มีผู้ป่วยจากโรคไข้หวัดใหญ่ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก และอีกหนึ่งทางเลือกในการป้องกันไข้หวัดใหญ่ตัวร้ายนี้ นั่นก็คือการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งวันนี้ผมจะมาแนะนำเกี่ยวกับเจ้าวัคซีนตัวนี้ เพื่อเป็นความรู้ในการตัดสินใจสำหรับผู้ที่คิดจะไปฉีดวัคซีนตัวนี้เพื่อ ป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ไว้ก่อน
          ไข้หวัดใหญ่ที่กำลังระบาดในตอนนี้ก็จะมีอยู่ 3 สายพันธุ์ ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไข้หวัดใหญ่ชนิด B และไข้หวัดใหญ่ชนิด เอ H3N2 (ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล) โดยวัคซีนนี้สามารถป้องกันคลอบคลุมได้ ทั้ง 3 สายพันธุ์
          ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นช่วงก่อนฤดูฝน คือ ช่วงเดือนพฤษภาคม ก่อนเกิดการระบาดของโรค และช่วงก่อนฤดูหนาวในเดือนตุลาคม โดยวัคซีนนี้ควรฉีดซ้ำทุก 1 ปี เนื่องจากแต่ละปีเชื่อไวรัสจะมีการกลายพันธุ์ หรือเป็นการกระตุ้นภูมิต้านทานให้เกิดมีประสิทธิภาพขึ้นมากอีก จึงต้องมีการผลิตวัคซีนขึ้นมาใหม่ทุก ๆ ปี
           โดยหลังจากฉีดวัคซีน (วัคซีนเชื้อตาย : ข้อดีของวัคซีนเชื้อตายคือปลอดภัย 100% เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกายแล้วจะไม่ก่อให้เกิดโรคหรืออาการเจ็บป่วยใดๆ สามารถให้ได้เกือบทุกคน โดยไม่มีอาการแพ้ ) แล้ว จะต้องใช้เวลา 2-3 อาทิตย์ เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไข้หวัดใหญ่ชนิด B และไข้หวัดใหญ่ชนิด เอ H3N2 (ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล) แต่วัคซีนนี้ไม่สามารถป้องกันไข้หวัดที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ อื่น ๆ หรือโรคหวัดทั่วไปได้
          สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนบางคนอาจมีอาการบวมแดง ปวด เป็นตุ่มนูนบริเวณที่ฉีด บางคนอาจเป็นไข้ มีอาการปวดเมื่อยตามมา แต่จะหายได้เองภายใน 1-2 วัน แต่หากใครเกิดอาการ ไข้ขึ้นสูงมากกว่า 2วัน หายใจไม่สะดวก เสียงแหบ หายใจเสียงดัง เกิดลมพิษ หน้าซีดขาว อ่อนเพลีย หัวใจเต้นเร็ว หรือเวียนศีรษะ ให้รีบพบแพทย์ทันที เนื่องจากอาจแพ้วัคซีนดังกล่าว
          บุคคลกลุ่มเสี่ยงที่ควรฉีดวัคซีน

1. หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์มากกว่า 7 เดือนขึ้นไป
2. คนอ้วนน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัมขึ้นไป
3. บุคคลอายุ 6 เดือนขึ้นไปที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ได้แก่ โรคปอดอุดกั้น หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งอยู่ระหว่างได้รับเคมีบำบัด เบาหวาน ธาลัสซีเมีย ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันผิดปกติ
4. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
5. ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป
6. เด็กอายุ 6 เดือน - 2 ปี
7. บุคลากรสาธารณสุขและผู้มีหน้าที่กำจัดซากสัตว์ปีก
           ผู้ที่ไม่สามารถฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ คือ

1. ผู้ที่มีอาการแพ้ไข่ หรือโปรตีนจากไก่ หรือไข่
2. ผู้ที่เคยแพ้ส่วนประกอบของวัคซีน
3. ผู้ที่มีประวัติแพ้วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่อย่างรุนแรง
4. เด็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน
5. ผู้ที่กำลังมีไข้ หรือมีการติดเชื้ออย่างเฉียบพลัน
6. ผู้ที่มีอาการโรคประจำตัวกำเริบ ไม่สามารถควบคุมได้
           ประชาชนทั่วไปสามารถรับบริการฉีดวัคซีนสำหรับป้องกันไข้หวัดใหญ่ประจำฤดูกาล ได้ที่โรงพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักควบคุมโรค และสำนักโรคติดต่อ อีกทั้งรัฐบาลได้มีการจัดเตรียมวัคซีนดังกล่าวไว้อย่างน้อย 500,000 โดส สำหรับผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
           วัคซีนนี้ผมได้มีโอกาสไปฉีดมาแล้ว โดยจะฉีดเข้าที่ต้นแขนครับ ไม่เจ็บแต่อย่างใด เพราะหลายๆคนคงกลัวเจ็บหรือกลัวเข็มกันแน่ๆ ผมขอแนะนำตอนไปโรงพยาบาลให้ใส่หน้ากากอนามัยไปด้วยเพราะที่โรงพยาบาลอาจมีเชื้อปะปนอยู่ ส่วนผู้ที่ไม่ได้ฉีดก็ควรใช้วิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น คือ ด้วยการล้างมือบ่อยๆ หากยังไม่ได้ล้างมือก็อย่านำมือมาขยี้ตา แคะจมูก หรือหยิบสิ่งของเข้าปาก ไอจามใส่กระดาษทิชชูหรือผ้าเช็ดหน้า และร่วมรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการสวมหน้ากากอนามัยทันทีที่ไม่สบายหรือเป็นหวัด แล้วอย่าลืมออกกำลังกายกันด้วยนะครับ..สวัสดีครับ
 
     
 

 

   สวัสดีครับ

-- เจ้ากะจุ๊ก--

 

 

 


บริษัท บาริโอ จำกัด

50 ซอยบรมราชชนนี 4 ถนนบรมราชชนนี เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700   Tel. 66 2881 8536-7   Fax. 66 2881 8538