Color Trend of 2019

 

เนื่องในเทศกาลแห่งความสุขปีนี้ รำเพยขอเปิดเรื่องด้วยการทักทายและขออวยพรให้แฟนเพจของบาริโอทุกท่าน จงประสบแต่ความสุข ความสำเร็จ และเต็มไปด้วยความหฤหรรษ์ตลอดปี 2019 นี้นะคะ รวมทั้งขอให้วงการออกแบบของบ้านเรา มีความเจริญก้าวหน้า เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และให้นักออกแบบทุกคนสร้างชื่อเสียงในระดับโลกได้กันถ้วนหน้ากันค่ะ

 

สำหรับเดือนนี้ รำเพยได้รับมอบหมายให้มาสวมบทเป็นหมอดู ทำหน้าที่ทำนายทายทักว่าปีนี้ สีอะไรจะโดดเด่น และเป็นที่นิยมในงานออกแบบบ้าง ซึ่งรำเพยก็ได้ไปถอดไพ่ ส่องเงาในอ่างน้ำ และดูลูกแก้ววิเศษกันมาแล้ว พบว่าปีนี้ สีที่น่าจะเข้าวิน มี ด้วยกันถึง 4 สีทีเดียวค่ะ และที่สำคัญสีทั้งสี่สีนี้ จะมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันไป และเหมาะกับแฟนๆ ของบาริโอกันได้อย่างแน่นอนค่ะ

 

 

เพื่อไม่ให้เสียเวลา รำเพยขอพาทุกท่านไปชมสีสันที่จะสะดุดตาในเวทีงานออกแบบประจำปีหน้ากันเลยนะคะ

 

สีแรกที่รำเพยอยากแนะนำเป็นอย่างยิ่ง คือสี Yellow Ochre หรือสีดินเหลืองค่ะ สี Yellow Ochre นี้ ได้ชื่อตามสีของดินเหนียวที่มีปริมาณธาตุเหล็กเจือปนอยู่ในเนื้อดินมากเป็นพิเศษ จนเจ้าดินดังกล่าวมีสีเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์ โดยสี Yellow Ochre หรือสีดินเหลืองนี้ จะให้ความรู้สึกที่สว่างแบบผู้ใหญ่ และแฝงความหรูหรา ดูมีราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อจับคู่กับสีดำขลับ ก็จะยิ่งเน้นและขับความโดดเด่นของสี Yellow Ochre นี้ ออกมาได้จับตาและจับใจเลยทีเดียวค่ะ

 

นอกจากนี้ สี Yellow Ochre นี้ ยังมีพี่น้องอีกหลายเฉดสี เช่น Orange Ochre หรือสีส้มอิฐ ซึ่งเราจะพบเห็นสี Orange Ochre ได้ในผลงานประจำปีนี้ของสุดยอดแบรนด์แฟชั่นชื่อดังหลายยี่ห้อ โดยสี Orange Ochre นี้จะแตกต่างจากสี Mandarin Orange ของ Hermes เล็กน้อย โดยจะให้ความรู้สึกที่อ่อนโยนกว่า และสุภาพมากกว่าค่ะ

 

sienna italy

 

สี Red Ochre เป็นอนุพันธ์ของสี Ochre อีกสีหนึ่ง โดยจะมีสีสันกระเดียดออกไปทางสี Sienna หรือสีดินของเมือง Sienna ในอิตาลี ที่ให้สีแดงน้ำตาล (ให้สีแดงมากกว่าน้ำตาล) และอนุพันธ์ของสีนี้ ยังรวมไปถึงสีอมตะนิรันดร์กาลอย่างสี Burnt Sienna ซึ่งเป็นสีดินแดงที่เข้มขึ้นมาอีกหน่อย เป็นสีแนวน้ำตาลแดง เป็นต้นค่ะ

โดยจะว่าไป ปี 2019 นี้ สีในแนว Ochre จะมีบทบาทสำคัญในวงการออกแบบและแฟชั่นอย่างเห็นได้ชัด แต่สีในโทนเหลืองอย่าง Yellow Ochre หรือ Golden Ochre จะมาให้เห็นมากเป็นพิเศษค่ะ

ตัวอย่างสี Sienna
www.pinterest.com

 

 

 

 

ต่อไปเป็นสีที่สอง ที่รำเพยได้มาจากการเสี่ยงทายไม้ติ้ว จนได้สี Lilac หรือสีม่วงอมชมพูมาเข้าวินค่ะ

 

สี Lilac เป็นสีโทนม่วงกึ่งชมพู ซึ่งดูสุภาพและสวยหวาน เหมาะกับการใช้งานทั่วไป และที่สำคัญ สี Lilac นี้เป็นสีที่มีแฟนประจำอยู่มากมาย อาจเป็นเพราะเป็นสีที่สวย หวาน ดูสุภาพ เรียบร้อยและใช้งานง่าย ดูเบาๆ สบายๆเหมาะกับทุกโอกาสก็ได้ค่ะ

 

 

ในปีนี้ สีที่จะมาเข้าคู่กับสี Lilac คงไม่พ้นสีในโทนขาว สะอาดตา ในอารมณ์ที่ดูสว่าง สดใสร่าเริง แบบเด็กๆ ซึ่งคงจะมาทำให้พวกเราได้สบายตา สบายใจกันค่ะ

 

นอกจากในวงการแฟชั่นแล้ว คาดว่าสี Lilac จะมีบทบาทในกลุ่มงานออกแบบผลิตภัณฑ์ และงานตกแต่งภายในมากขึ้นอีกด้วย

 

 

สำหรับสีที่สามที่รำเพยได้มาจากการดูลูกแก้ววิเศษ แต่สงสัยว่าลูกแก้วจะเก่าไปหน่อย สีเลยออกมาซะเข้มเชียวค่ะ โดยสีที่ได้ เป็นสี Viridian Green หรือสีเขียวหัวเป็ด ซึ่งจะเป็นสีเขียวเข้มอมฟ้า โดยมีเนื้อสีเขียวมากกว่าสีฟ้าทำให้ได้สีที่อิ่มตัวมาก เมื่อนำมาใช้ในงานออกแบบ จะให้ความรู้สึกเย็นและสงบนิ่ง คล้ายกับการนั่งเล่นในป่าสนในเมืองหนาวที่มีสีเขียวขจี

 

 

สี Viridian Green นี้ สามารถใช้โดดๆ ได้ โดยไม่จำเป็นต้องจับคู่กับสีใด เพราะเป็นสีที่มีความหมายในตัวเอง แต่ก็ดูดี เมื่อจับคู่กับสีอื่นๆ เช่นกัน เช่น เมื่ออยู่กับสีคู่ตรงข้าม เช่นสีแดงส้ม หรือแดงเข้ม ก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นในเมืองหนาว หรือนำไปเข้ากับสีในตระกูลใกล้เคียงกันเช่น สีเขียวอ่อน หรือสีฟ้าก็ช่วยให้ดูสว่างและสดใสขึ้น

 

แม้ว่าสี Viridian Green จะเป็นสีที่ใช้ยากในการตกแต่งภายใน เนื่องจากเป็นสีที่มีเอกลักษณ์และความรู้สึกเฉพาะ รวมทั้งโอกาสที่จะเห็นก็มีน้อย แต่ก็จะแพร่หลายในงานออกแบบแฟชั่น และงานออกแบบผลิตภัณฑ์เป็นหลักค่ะ

 

 

สำหรับสีสุดท้าย ซึ่งรำเพยอยากจะแนะนำ จัดว่าเป็นสีพิเศษจริงๆค่ะ เพราะรำเพยแทบไม่เคยเห็นการใช้สีนี้มาก่อนเลย และในความเป็นจริง สีนี้ ก็ไม่เชิงว่าเป็นสีซะด้วยสิคะ เพราะเป็นชื่อสีของวัสดุซะมากกว่า โดยสีสุดท้ายนี้ คือ สี Lapis  Lazulli (ลาพิส ลาซูรี) ค่ะ

 

สำหรับแฟนๆ หนังสือเด็กอย่าง Septimus Heap หรือ Toddhunter Moon คงคุ้นเคยกับชื่อของวัสดุชนิดนี้ เพราะมีกล่าวถึงในเรื่องเกือบตลอด นัยว่าเป็นวัสดุแห่งมนตรา สามารถดูดซับเวทย์มนต์ต่างๆ ได้

 

Lapis Lazulli จะเป็นชื่อของหินสีฟ้าสดใสคล้ายกับสี Ultramarine แต่มีลวดลายหรือสีสันอื่นๆ แซมอยู่ในเนื้อสี ทำให้ดูเป็นหินที่มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นเป็นพิเศษ ทั้งนี้ ตัวเนื้อหิน Lapis Lazulli นี้จะประกอบไปด้วยแร่ธาตุสำคัญอย่าง Lazurite ที่ให้สีออกโทนฟ้าแบบ Ultramarine และมีธาตุอื่นๆ แทรกอยู่ในเนื้อหิน โดยธาตุเหล่านี้จะทำให้เกิดลวดลายและสีที่ซับซ้อน อย่างเช่น Calcite ที่ให้สีขาว, Sodalite ให้สีฟ้าเข้ม และ Pyrite ที่ให้สีเหลือง เป็นต้น

 

www.pinterest.com

 

ว่ากันว่าด้วยความแปลกตาเช่นนี้ เจ้า Lapis Lazulli จะถูกนำมาใช้ในงานออกแบบเกือบทุกแขนง ทั้งในแง่ของสี และลวดลาย โดยเฉพาะงานออกแบบและตกแต่งภายใน ที่เราจะได้เห็นกันชัดๆ ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป

 

สีประจำปี 2019 ทั้งสี่สี ถูกใจแฟนเพจกันบ้างหรือเปล่าคะ? หรือโดนใจใครจนอยากจะนำไปใช้ตกแต่งบ้านหลังใหม่ หรือตกแต่งคอนโดฯ สุดรักของตนเอง รำเพยก็ยินดีมากนะคะ และหากชอบใจกันมากๆ อย่าลืมช่วยกันแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้นักเขียนด้วยนะคะ

 

 

 

-รำเพย-