Décor Guide ฉบับนี้ จะพาท่านผู้อ่านทุกท่านไปเที่ยวเมืองเก่าอยุธยากันนะคะ พอพูดถึง อยุธยา หลายท่านคงมีคำถามย้อนกลับมาว่า แล้วจะไปทำอะไรกันละ ซึ่ง Guide ชั้นดีอย่างดิฉัน คงต้องสรรหาสถานที่ที่น่าสนใจมาโน้มน้าวให้ทุกท่านเกิดความสนใจจนขับรถไปเที่ยวกันจนได้แหละคะ
อยุธยา หรือพระนครศรีอยุธยา เมืองหลวงเก่าของไทยเราแต่ก่อน เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางของประเทศ ตั้งอยู่ห่างจากกรุงเทพประมาณ 70 กม. ซึ่งหากขับรถไปคงประมาณ 1 ชั่วโมงคะ โดยเส้นทางที่ไปได้ก็มีเส้นทางหลักๆ อยู่สองเส้นทาง คือเส้นทางรังสิตตรงขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ จนถึงทางแยกที่ไปสระบุรี เราก็จะชิดซ้ายเข้าทางขนาน เพื่อตรงขึ้นไปอยุธยาคะ ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งคือทางวงแหวนรอบใน หรือถนนกาญจนาำูุภิเษกตรงไปจนถึงทางแยก 345 ที่กำลังก่อสร้างสะพานลอยอยู่ และเลยตรงไปทางป้ายที่เขียนว่า บางปะิอิน แล้ววิ่งตามป้ายจนมาบรรจบกับเส้นถนนพหลโยธินที่เข้าสู่อยุธยาก็ได้คะ
ในอยุธยานี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลากหลายแห่งทีเดียว เริ่มต้นจาก บางปะิอิน อันเป็นที่ตั้งของพระราชวังบางปะิอินที่สวยงาม ซึ่งในพระราชวังแห่งนี้ ก็ได้มีพระที่นั่งที่งดงามอยู่หลายแห่ง เริ่มตั้งแต่ พระที่นั่งไอยศวรรย์ทิพยอาสน์, พระที่นั่งวโรภาษพิมาน ซึ่งพระที่นั่งทั้งสองหลังนี้เป็นส่วนหนึ่งของเขตพระราชฐานชั้นนอก ที่ใช้เป็นสถานที่ให้พระเจ้าอยู่หัวออกมาสมาคม
ส่วนในเขตพระราชฐานชั้นใน อันเป็นที่ประทับของพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ เริ่มต้นที่พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร อันเป็นสถานที่แปรพระราชฐานอันทรงโปรดของรัชกาลที่ 5 โดยอาคารนี้ได้ก่อสร้างขึ้นเป็นอาคารเรือนไม้สองชั้นแบบชาเล่ต์ และภายในได้มีการตกแต่งแบบยุโรป ด้วยเครื่องเรือนจากฝรั่งเศส
พระที่นั่งวิทูรทัศนาที่เป็นหอคอยสูงประมาณ 30 เมตร ตกแต่งด้วยลายขนมปังขิง และติดตั้งกล้องส่องทางไกลไว้ดูดาว และชมทัศนียภาพรอบพระราชวัง
พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญซึ่งก่อสร้างเลียนแบบเก๋งจีน เป็นเก๋งสองชั้้น และมีชื่อเรียกภาษาจีนว่า เทียนเม่งเต้ย หรือ พระที่นั่งฟ้าสว่าง ซึ่งพระที่นั่งแห่งนี้ มีคณะพ่อค้าชาวจีนและข้าราชการกรมท่าซ้ายช่วยกันออกทุน เพื่อสร้างถวายรัชกาลที่ 5 ในพ.ศ. 2432
นอกจากนี้้ ในบริเวณพระราชวัง ยังมีสิ่งก่อสร้างเด่ินๆ อีกมากมาย เช่น หอเหมมณเ๊๋ฑียรเทวราช สะพานตุ๊กตา และที่จะอดกล่าวถึงเสียมิได้ คือ อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ หรือ สมเด็จพระนางเรือล่ม ในพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ซึ่งอนุสาวรีย์นี้ได้ตั้งคู่กับอนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ ที่ได้โปรดเกล้าให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2430
นอกจากนี้ในบริเวณใกล้เคียง เพียงข้ามฝั่งแม่น้ำ ยังมีวัดนิเวศน์ธรรมประวัติ ซึ่งเป็นวัดที่ก่อสร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมโกธิค ที่สวยงาม โดยวัดนิเวศฯนี้ รัชกาลที่ 5 ได้โปรดเกล้าให้สร้างขึ้น เพื่อเป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ และเปรียบเสมือนวัดหลวงประจำพระราชวังบางปะิอินแห่งนี้
เมื่อจบจากการชมพระที่นั่งบางปะิิอินที่แสนงดงามแล้ว ดิฉันอยากจะนำท่านขับรถไปเยี่ยมชมศูนย์ศิลปาชีพบางไทรที่อยู่ห่างประมาณ 30 นาทีเท่าันั้น โดยศูนย์ศิลปาชีพแห่งนี้ได้จัดตั้งขึ้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตามพระบรมราชโองการโปรดเกล้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนารถ เพื่อใช้เป็นสถานที่ฝึกฝีมือช่างแบบศิลปะไทยโบราณ โดยท่านที่สนใจสามารถแวะเข้าเยี่ยมชม และซื้อผลิตภัณฑ์ของทางศูนย์เพื่อเป็นของที่ระลึกได้อีกด้วย
ในศูนย์ศิลปาชีพบางไทรแห่งนี้ ยังประกอบไปด้วยสถานที่ที่น่าสนใจเด่นๆ อีกหลายแห่ง เช่น หมู่บ้านศิลปาชีพ ที่ได้จำลองหมู่บ้านไทยของแต่ละภาค และยังมีการสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมของแต่ละภาคไว้อีกด้วย
สวนนก เป็นกรงนกขนาดใหญ่และมีนกที่หายากกว่า 30 ชนิด ให้แวะชม
วังปลา เป็นตู้แสดงพันธ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ ให้นักท่องเที่ยวเดินชมได้โดยรอบ มาถึงตอนนี้ เราเพิ่งจะมาเที่ยวอยุธยาได้เพียงแค่สองจุดเท่านั้น ยังมีจุดที่น่าสนใจให้แวะชมอีกมากมาย โดยเฉพาะในส่วนของเมืองเก่า ที่จะมีวัดเก่าแก่ให้เราแวะชมอีกมากมาย ซึ่งตอนนี้ เราคงต้องขอลาไปก่อน และจะกลับมานำท่านไปเที่ยวในส่วนเมืองเก่าของอยุธยาอีกในฉบับต่อไปนะคะ
|