Back to original เป็นกระแสที่กำลังมาแรง วันนี้ decor guide อาสาพาเที่ยว ช้อปปิ้ง บวกกับชมธรรมชาติไปในตัวนะคะ คงทายกันอยู่ในใจว่าคือที่ไหน เฉลยค่ะ เฉลย วันนี้เราพาไปเกาะเกร็ด...เกาะเกร็ด เป็นชื่อที่ได้ยินมานานมาก.. แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน นึกภาพไม่ออกว่าจะอยู่ส่วนไหน ตรงไหน และไปอย่างไง..
สิบเอ็ดโมง คือเวลานัดเจอกันที่ office อ้อลืมบอกไป office เราอยู่แถวปิ่นเกล้าจ้า.... เราออกทางถนนพระราม 5 ตัดเข้านนทบุรี และเลี้ยวเข้าตลาดปากเกร็ด มองหาวัดสนามเหนือเพื่อข้ามฟากสู่เกาะเกร็ดเป้าหมายของเรา
เกาะเกร็ดเกิดขึ้นจากการขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงส่วนที่เป็นแหลม ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ แห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ. 2265 เรียกว่า คลองลัดเกร็ดน้อย ต่อมากระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางแรงขึ้นเซาะตลิ่งทำให้คลองขยาย แผ่นดินตรงแหลมจึงกลายเป็นเกาะ
เกาะเกร็ดมีความเจริญมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา สังเกตได้ว่าวัดวาอารามต่างๆบนเกาะส่วนใหญ่จะเป็นศิลปะในสมัยอยุธยา แต่คงจะมาร้างคนเมื่อพม่ามายึดกรุงศรีอยุธยาได้ แต่หลังจากกอบกู้เอกราชได้ พระเจ้าตากสินมหาราชจึงโปรดให้ชาวมอญที่เข้ารีตมาตั้งถิ่นฐานที่นี่ ชาวมอญบนเกาะเกร็ดนั้นมีทั้งที่เข้ามาในสมัยกรุงธนบุรี และสมัยรัชกาลที่ 2
ขึ้นจากท่าน้ำได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ประกาศแนะนำ และเชิญชวนให้นมัสการพระพุทธรูปประจำจังหวัดนนทบุรี วัดปรมัยยิกาวาส(วัดปากอ่าว) เป็นวัดรามัญมาแต่โบราณ รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าให้ปฏิสังขรณ์วัดปากอ่าว และให้เปลี่ยนนามพระอารามนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติยศ พระเจ้าบรมมหัยยิกาเธอกรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูรว่า วักปรมัยยิกาวาศ ( บรม+อัยยิกา+อาวาศ) แปลว่า วัดของยาย ภายหลังเขียนเป็น วัดปรมัยยิกาวาส พระอุโบสถมีการตกแต่งด้วยวัสดุนำเข้าจากอิตาลี ศิลปะยุโรป แบบพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 5 พระประธานในพระอุโบสถนั้นเป็นปางมารวิชัย ฝีพระหัตถ์ของพระองค์เจ้าประดิษฐานวรการ ซึ่งเป็นผู้ที่สร้างพระสยามเทวาธิราช รัชกาลที่ 5 ทรงยกย่องว่าพระประธานนี้งามด้วยฝีพระพักตร์ดูมีชีวิตชีวาเหมือนคนจริงๆ
ออกจากพระอุโบสถมาเห็นป้ายบอกทางเข้าชมพิพิธภัณฑ์รัชกาลที่ 5 เหมือนเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้เดินตามป้ายบอกทางไป และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ในพิพิธภัณฑ์นอกจากมีเครื่องปั้นดินเผา เครื่องมือเครื่องใช้แบบต่างๆ แล้ว ที่นี่ยังเป็นวัดเดียวที่เก็บรักษาพระไตรปิฎกอักษรรามัญฉบับหลวง ฉบับเดียวในประเทศไทย และครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด |
|
การเที่ยวบนเกาะเกร็ด สามารถเลือกว่าจะเดินหรือขี่จักรยาน ทางเดินสามารถเดินเชื่อมต่อได้รอบเกาะ ขนาดไม่กว้างไปกว่ารถจักรยานสวนกันได้ สองข้างทางมีทั้งขนม และของเล่นสมัยโบราณที่เห็นแล้วทำให้นึกย้อนไปสมัยที่ยังเป็นเด็กอย่างลูกเต๋ากระดาษ ฉลากกระดาษ ตุ๊กตากระดาษพร้อมชุดแต่งตัวกระดาษ ที่ถูกวิวัฒนาการกลืนไปด้วยของเล่นพลาสติกเข้ามาแทนที่ และที่อดอมยิ้มไม่ได้ คือเมื่อหันไปเห็น หมากฝรั่งบุหรี่ หรือลูกอมไข่นกกระทา ในความคิดของเด็กถ้าอยากโก้แบบผู้ใหญ่ต้องคีบบุหรี่ ก็จะคีบบุหรี่หมากฝรั่งนี่แหละแทน หรืออยากปากขาวต้องอมไข่นกหระทา
ที่เห็นมากไม่แพ้กันคงจะเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาแบบต่างๆ มีทั้งที่ผลิตจากโรงงานบนเกาะเกร็ดเอง และผลิตจากที่อื่นอย่างถ้วย โถ ชามตราไก่ แล้วก็ของ hand made อย่างเครื่องสาน ตะกร้า กระเป๋า ของแกะสลัก ของที่ทำจากธรรมชาติ เช่น ทัพพีจากกะลามะพร้าว หุ่นไม้ชัก
บนเกาะเกร็ดมี ศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านชาวมอญ ตั้งอยู่ที่ด้านซ้ายของวัดปรมัยยิกาวาส ห่างจากวัดประมาณ 100 เมตร คุณป้า PR (เราตั้งให้) ต้อนรับเราเป็นอย่างดี ชี้ชมวิธีการเลือกดิน การปั้น เตาเผาเครื่องปั้นแบบเก่าที่เรียกว่าเตาอังโล่ และแบบไฟฟ้าที่ใช้ในปัจจุบัน ที่นี่เป็นสถานที่แสดงภาชนะเครื่องปั้นดินเผาแบบรามัญ รูปทรงต่างๆ ฝีมือประณีตสวยงาม เช่น หม้อน้ำ
ส่วน หมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผามอญโบราณ หรือกวานอาม่าน ตั้งอยู่บริเวณสองบ้างทางเดินรอบเกาะเกร็ดทั้งด้านซ้าย และด้านขวาของวัดปรมัยยิกาวาส เป็นหมู่บ้านที่ทำเครื่องปั้นดินเผาภาชนะของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น กระถาง ครก อ่างน้ำ เป็นต้น แหล่งใหญ่และเก่าแก่ของจังหวัดนนทบุรี
บนเกาะเกร็ดมีวัดที่น่าสนใจหลายวัดด้วยกันอย่าง วัดเสาธงทอง เป็นวัดที่มีทัศนียภาพริมน้ำงดงาม ด้วยเวิ้งแม่น้ำกว้าง แลดูรื่นรมณ์เพลินตาเพลินใจ บริเวณรอบวัดมีต้นไม้ใหญ่ ยืนต้นอยู่รายรอบน่าเที่ยวชม วัดเสาธงทอง นอกจากเป็นที่ตั้งโรงเรียนประถมแห่งแรกของอำเภอปากเกร็ดแล้ว ด้านหลังโบสถ์ยังประดิษฐานเจดีย์ที่สูงที่สุดของอำเภอปากเกร็ดด้วย พระเจดีย์เป็นศิลปะอยุธยาย่อมุมไม้สิบสอง มีเจดีย์องค์เล็กเป็นบริวารโดยรอบอีก 2 ชั้น ส่วนด้านข้างโบสถ์มีเจดีย์องค์ใหญ่อีก 2 องค์ องค์หนึ่งเป็นเจดีย์ทรงระฆังหรือทรงลังกา อีกองค์หนึ่งมีฐานเหลี่ยม ภายในโบสถ์มีลายเพดานสวยงามมากเขียนลายทองกรวยเชิงอย่างงดงาม พระประธานเป็นพระปางมารวิชัยปูนปั้นขนาดใหญ่ คนมอญเรียกวัดนี้ว่า เพี๊ยะอาล๊าต ที่สูงตระหง่านไม่แพ้กันคือ ต้นยางอายุ 200 ปี
วัดฉิมพลี
มีโบสถ์ขนาดเล็กงดงามมาก และยังมีสภาพสมบูรณ์แบบเดิมเป็นส่วนใหญ่ หน้าบันจำหลักไม้เป็นรูปเทพทรงราชรถล้อมรอบด้วยลายดอกไม้ ซุ้มประตูเป็นทรงมณฑป ซุ้มหน้าต่างแบบหน้านาง ยังคงเห็นความงามอยู่ และฐานโบสถ์โค้งแบบเรือสำเภา
วัดไผ่ล้อม
สร้างสมัยอยุธยาตอนปลาย มีโบสถ์ที่งดงามมาก ลายหน้าบันจำหลักไม้เป็นลายดอกไม้ มีคันทวยและบัวหัวเสาที่งดงามเช่นกัน หน้าโบสถ์มีเจดีย์ขนาดย่อมสององค์ระปทรงคล้ายมะเฟือง ฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมสิบสอง ประดับลายปูนปั้น คนมอญเรียกวัดนี้ว่า เพี๊ยะโต้
เดินมาลัดเลาะเรื่อยมาเห็นคนมุงกลุ่มใหญ่ เพิ่งสลายจากไป สมาชิกไทยมุงอันดับ 1 อย่างเราก็ไม่พลาดที่จะเข้าร่วมเริ่มต้นมุงใหม่อีกครั้ง จุดสนใจอยู่ที่คุณป้าและคุณน้า 2 สาว เริ่มจากคุณน้าสาธิตวิธีทำทองหยอด และเม็ดขนุน จากนั้นคุณป้าที่นั่งข้างๆ ก็ไม่ยอมแพ้สาธิตก็ไกวแขนทำฝอยทองให้ดูพลางเชิญชวนพลางให้ลองทำบ้าง ก็ได้รับการสนองตอบจากสมาชิกตัวน้อยทันที ด้วยวิธีการทำไม่ยาก และอัธยาศัยของคุณน้าและคุณป้าจากกลุ่มเล็กๆ ก็เริ่มขยายวงกว้างออกไปอีก ถ้าชิมขนมไทยแล้วล่ะก็ที่พลาดไม่ได้คือ หันตรา เป็นขนมโบราณ ที่มีลักษณะคล้ายกับเม็ดขนุนมาก แต่จะต่างกันก็ตรงที่หันตราจะมีน้ำค้างของไข่ขาว ( มีลักษณะเป็นเส้นๆสีขาวๆ)เป็นส่วนที่ช่วยเพิ่มความอร่อย ซึ่งขนมหันตรานี้เป็นขนมที่เลื่องชื่อของเกาะเกร็ดมานาน
คุณป้าใจดียังบอกอีกว่าถ้า จะดูจริงจังต้องนั่งเรือรอบเกาะ เรือจะพาชมหมู่บ้านรอบเกาะและจะแวะที่ คลองขนมหวาน ที่เรียกชื่อนี้เพราะ บริเวณคลองขนมหวานและคลองอื่นๆ รอบเกาะเกร็ด ชาวบ้านจะทำขนมหวาน จำพวกทองหยิบ ทองหยอด ขายส่งและยังสาธิตให้นักท่องเที่ยวได้ชมด้วย ได้ยินดังนั้นสองเท้าเร็วเท่าความคิดเดินย้อนกลับมาที่ท่าเรือทันที
และต้องร้องว้า...เมื่อเดินย้อนกลับมาถึงพร้อมๆ กับเสียงประกาศว่าเรือรอบเกาะ เที่ยวสุดท้ายกำลังออกจากท่าพอดี เรามองด้วยสายตามุ่งมั่นว่า คราวหน้าเราจะมานั่งให้ได้..
การเดินทาง :
รถโดยสารประจำทาง รถตู้บริการ หรือนำรถส่วนตัวไปยังปากเกร็ด สามารถฝากรถไว้ได้ที่บริเวณวัดสนามเหนือ
ลงเรือข้ามฟากได้สองท่า คือ ท่าเรือวัดสนามเหนือ (ไม่ไกลจากท่าน้ำปากเกร็ด) ค่าเรือข้ามฟาก 2 บาท หรือท่าเรือวัดกลางเกร็ด ค่าเรือโดยสาร 6 บาท มีเรือบริการระหว่าง 05.00-21.30 น.
การคมนาคมบนเกาะจะใช้จักรยานเพื่อให้เหมาะกับขนาดของเกาะ
การเช่าเรือเที่ยวรอบเกาะเกร็ด ราคามีตั้งแต่ 350-3,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางและขนาดของเรือ ติดต่อที่ท่าเรือวัดปรมัยยิกาวาส หรือจองล่วงหน้าที่ โทร. 0 2584-5012
หรืออาจใช้บริการเรือนำเที่ยวรอบเกาะ ที่ท่าเรือวัดปรมัยยิกาวาส จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ค่าโดยสาร ท่านละ 40 บาท เรือจะออกทุก 1-2 ชม.ตามแต่จำนวนคนมาเที่ยว |