The Luxe Lounges & Travel
งานดีไซน์เลานจ์สุดหรู
หลายคนคงเคยวาดฝันว่าครั้งหนึ่งในชีวิต อยากจะได้มีโอกาสเดินทางแบบเอ็กซ์คลูซีฟเหมือนคนดัง หรือเหล่าเซเลบริตี้ที่มักจะโพสรูปหรือลงคลิปท่องเที่ยวที่หรูหราต่าง ๆ ในโซเชียลมีเดีย ซึ่งรูปเหล่านั้นล้วนน่าอิจฉาและเต็มไปด้วยความสุข เพราะสิ่งที่เราเห็นมักเต็มไปด้วยการเดินทางแบบเหนือระดับแทบทั้งสิ้น ดังนั้นเราจะมาสานฝันคุณผู้อ่านที่ชอบเดินทางท่องเที่ยว ด้วยการพาไปเช็คอินที่ Luxury Lounge ตามสถานที่ต่าง ๆ สำหรับนักเดินทางที่ต้องการความหรูหราเท่านั้น
Eastern & Oriental Express, Thailand
Cr. huahin
มาเริ่มออกเดินทางกันที่สถานีรถไฟหัวลำโพงบ้านเรา กับขบวนรถไฟ Eastern & Oriental Express ซึ่งถือเป็นรถไฟของประเทศไทยที่ให้บริการเหมือนโรงแรมระดับห้าดาว โดยเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2538 ด้วยการสั่งซื้อตู้โดยสารมาจากประเทศนิวซีแลนด์ และได้ทำการปรับขนาดความกว้างล้อให้เหลือเพียง 1 เมตร ขนาดของตู้จึงมีขนาดกว้างกว่าตู้โดยสารประเภทอื่น ๆ ของรถไฟไทย ความยาวทั้งขบวน 500 เมตร ตู้โบกี้โดยสารทั้งหมด 22 ตู้ ด้านนอกทาสีน้ำเงินคลาสสิค
Cr. belmond
ภายในตู้โดยสารออกแบบตกแต่งสไตล์วินเทจอย่างงดงามหรูหรา ในส่วนห้องพักมีความสะดวกสบายคล้ายโรงแรมระดับห้าดาวย่อส่วน มีทั้งโบกี้ห้องอาหาร บาร์ ฟิตเนส สปา และจุดชมวิว Open Air ท้ายขบวนที่สามารถดื่มด่ำกับ Tropical View แบบประทับใจมิรู้ลืม แต่มุมที่มีแขกมาใช้บริการตลอดทั้งวันคงหนีไม่พ้นโซน Dining Room และ Piano Bar ที่เหล่าบริกรมืออาชีพบรรจงเสิร์ฟเมนูอาหารและเครื่องดื่มสุดหรู ที่รังสรรค์โดยเชฟไทยและเชฟต่างชาติ เคล้าอารมณ์สุนทรีย์ด้วยเสียงเปียโนไพเราะไปพร้อมกับบรรยากาศความงดงามของการตกแต่งภายในของโบกี้รถไฟ ราวกับย้อนยุคไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน และตามธรรมเนียมผู้โดยสารทุกคนที่อยู่บนขบวนนี้จะแต่งตัวค่อนข้างเป็นทางการ โดยเฉพาะคุณผู้หญิงจะใส่เดรสสวยมาเดินเฉิดฉายเวลามื้อค่ำในทริปนี้โดยเฉพาะ
Cr. belmond
Eastern & Oriental Express เปิดให้บริการเส้นทาง 4 ประเทศ คือ ไทย ลาว มาเลเซีย และสิงคโปร์ ระยะเวลาเดินทางก็มีตั้งแต่ 1 คืนถึง 3 คืน ขึ้นอยู่กับระยะทางและทริปที่เลือก ทั้งนี้ยังมีตู้เลดี้ที่ติดกล้องวงจรปิดให้สาว ๆ ได้อุ่นใจอีกด้วย
Cr. belmond
Train Suite Shiki – Shima, Japan
Cr. jnto
ข้ามฝากมาแดนอาทิตย์อุทัยกับขบวนรถไฟนำเที่ยวสุดหรูจาก JR East นั่นคือ Train Suite Shiki-Shima ( ทรานสวีท ชิกิ – ชิมะ ) ที่คว้ารางวัลดีไซน์ยอดเยี่ยมจากงาน Good Design Award 2017 มาได้ โดยจำกัดจำนวนผู้โดยสารต่อขบวนเพียง 34 ท่านเท่านั้น โดยจะเริ่มต้นและสิ้นสุดการเดินทางที่สถานี Ueno, Tokyo ทริปท่องเที่ยวนั้นมีให้เลือกตั้งแต่ 2 วัน, 3 วัน และ 4 วัน ซึ่งจะเปิดให้เดินทางไปตามภูมิภาคต่าง ๆ
Cr. designboom
การตกแต่งภายนอกขบวนรถไฟนั้นเป็นสีแชมเปญโกลด์ที่ให้ความรู้สึกเรียบหรู ส่วนภายในตกแต่งเทียบเท่าระดับโรงแรมห้าดาว และยังคงเน้นเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นด้วยศิลปะผสานระหว่าง Traditional Japanese Aesthetics กับ Futuristic Spirit ใช้วัสดุตกแต่งส่วนใหญ่จากไม้ธรรมชาติ และคัดสรรสิ่งของเครื่องใช้มาจากภูมิภาคต่าง ๆ ภายในประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์หรืองานศิลปหัตถกรรม สำหรับภายในตู้นอนก็การตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่นเช่นกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีชื่อห้องว่า ชิกิ ชิมะ สวีท พื้นจะถูกปูด้วยเสื่อทาทามิ มีอ่างอาบน้ำไม้ฮิโนกิ หรูหราซะจนแทบไม่อยากเชื่อว่ากำลังอาบน้ำอยู่บนรถไฟ
Cr. Insidehook
Cr. Newgenluxury
ไฮไลท์ของรถไฟขบวนนี้คือ เลานจ์ โคะโมะเระบิ ( Komorebi Lounge ) ซึ่งแปลว่าแสงที่รอดผ่านต้นไม้ในป่า การตกแต่งผนังในแบบงานคราฟท์ มีการเลือกใช้ไม้วางสอดประสานกันให้ดูเหมือนกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางต้นไม้ในป่าใหญ่ ที่เลานจ์แห่งนี้มีเครื่องดื่มสูตรพิเศษที่คิดค้นขึ้นเพื่อผู้โดยสารโดยเฉพาะ โบกี้ต่อมาคือ ห้องอาหารสุดหรู ชิกิ – ชิมะ ( Dining Shiki – Shima ) เสิร์ฟอาหารแบบ Japanese Fine Cuisine คัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศ นำมาปรุงและเสิร์ฟในรูปแบบ Fine Dining
Cr. Jreast
ผู้ที่รับหน้าที่ออกแบบรถไฟขบวนนี้ก็ได้แก่ Ken Kiyoyuki Okuyama ซึ่งเป็น Japanese Industrial Designer เจ้าของ KEN OKUYAMA DESIGN เคยมีผลงานการออกแบบที่โดดเด่นเกี่ยวกับยานยนต์ให้กับ Ferrari และ Porsche ส่วนชุดพนักงานนั้นผู้ออกแบบก็คือ Naoki Takizawa เจ้าของ Naoki Takizawa Design Inc. ซึ่งเคยเป็นถึง Creative Director ของ Issey Miyake มาแล้วด้วย
Onboard Lounges
ทะยานขึ้นฟ้ามานั่งชั้น First Class และมาดื่มด่ำกับบาร์บนเครื่องบินกันบ้าง โดยปกติหากพูดถึง Lounge รับรองผู้โดยสารตามสายการบินต่าง ๆ คนทั่วไปอาจจะนึกถึงแค่ Lounge หรูบนภาคพื้นดินตามสนามบินที่จัดเตรียมไว้รับรองผู้โดยสารของสายการบินนั้น ๆ แต่ครั้งนี้เราขอพูดถึง Lounge หรือ Bar ที่อยู่บนเครื่องบิน และก็ไม่ใช่ทุกสายการบินที่จะมี โดยเราจะขอแนะนำบางสายการบินระดับท็อปที่เป็นที่รู้จักของคนไทย ที่มี Lounge หรือ Onboard Bar เจ๋ง ๆ นำมาฝากกัน
The New Emirates A380 Onboard Lounge
Cr. Samchui
สายการบินแรกที่หลายคนรู้จักนั่นคือ Emirates โดยโซน Lounge นี้จะอยู่บนเครื่องบินรุ่น A380 ซึ่งปัจจุบันเป็นเครื่องบินพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยเครื่องบินนี้แบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นบนสำหรับผู้โดยสารชั้น First class และ Business Class ส่วนชั้นล่างมีไว้สำหรับผู้โดยสารชั้น Economy ซึ่งโซน Lounge นี้จะอยู่ด้านหลังของที่นั่งชั้น Business Class มีโซฟายาวทั้ง 2 ฝั่งของตัวเครื่องบิน สามารถนั่งได้จำนวน 8 – 10 คน ซึ่งเหมาะกับการเดินทางนาน ๆ ทำให้ผู้โดยสารสามารถมานั่งดื่มสนทนาพูดคุยซึ่งกันละกันได้ การออกแบบตกแต่งเน้นโทนสีสว่าง แลดูสบายตา จัดพื้นที่ใช้สอยได้คุ้มค่า โดยมี Mini Bar อยู่ตรงกลางโซน ขนาบด้วยโซฟาสีขาวสว่างดูทันสมัย
Cr. Runwaygirl
Qatar Airways A380 Onboard Lounge
Cr. Flydango
สำหรับ Onboard Lounge ของ Qatar Airways จะอยู่บนเครื่องบินรุ่น A380 บริเวณหลังที่นั่งชั้น Business Class และขนาดโซฟาจะกว้างกว่าของ Emirates Onboard Lounge การออกแบบ Onboard Lounge ของ Qatar จะเน้นไปที่ความหรูหรา โดยยังคงนำสีประจำสายการบินเข้ามาเป็นลูกเล่น และมีการดีไซน์เคาร์เตอร์บาร์ให้มีความโค้งมนอย่างน่าสนใจ ความพิเศษของการบริการจากเครื่องบินลำนี้นอกจากจะมีบริการขนมขบเคี้ยวแล้ว ยังเสิร์ฟแชมเปญแบรนด์ดังอย่าง Krug ไว้คอยบริการผู้โดยสารอีกด้วย ซึ่งสำหรับเครื่องบินรุ่นอื่น ๆ ปกติจะเสิร์ฟแชมเปญ Krug ให้เฉพาะผู้โดยสารชั้น First Class เท่านั้น แต่ทว่าหากได้นั่งเครื่องบิน A380 ผู้โดยสารชั้น Business Class สามารถลุกจากที่นั่งเดินมานั่งดื่มแชมเปญ Krug ได้ที่บาร์นี้เช่นกัน ข้อดีของบาร์แบบนี้คือ หากใครเดินทางมากันหลาย ๆ คนก็สามารถพากันมา Hang Out ที่โซนนี้ได้ เพราะสามารถคุยและส่งเสียงดังกันได้แบบไม่ต้องรบกวนผู้โดยสารท่านอื่น ๆ หรือถ้าเดินทางมาคนเดียวแล้วมานั่งเล่นโซนนี้ ก็อาจจะได้เพื่อนใหม่กลับไปด้วย
Cr. Onemileatatime
Superyacht Lounges
เดี๋ยวนี้เราเห็นผู้คนมักจัดปาร์ตี้บนเรือกันมากขึ้น นอกจากจะเปลี่ยนบรรยากาศ ยังเพิ่มความรู้สึกหรูหราให้กับไลฟ์สไตล์อีกด้วย เราจะขอยกตัวอย่างเรือสำราญชื่อดังมาแนะนำกัน ไว้เป็นไอเดียท่องเที่ยวเผื่อใครอยากสัมผัสบรรยากาศแบบนี้บ้าง
Symphony of the Seas
Cr. Usatoday.
เรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ ( Symphony of the Seas) ดาวเด่นแห่งท้องทะเลของโลกลำนี้ มีน้ำหนักถึง 230,000 ตัน จุผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 6,870 คน มีความสูง 18 ชั้น เป็นเรือสำราญที่ถูกยกให้เป็นเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน โดยเรือสำราญซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ ถือเป็นโครงการใหญ่ของบริษัท รอยัล แคริบเบียน อินเตอร์เนชั่นแนล (Royal Caribban International ) บริษัทเดินเรือสำราญขนาดใหญ่สัญชาติอเมริกันที่ให้บริการเส้นทางใน ยุโรปและอเมริกา โดยมีไฮไลท์ที่ไม่ได้อยู่แค่ความอลังการจากขนาดโครงสร้างเรือ แต่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายมากมายที่ถูกยกให้เป็นที่สุดของโลกอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นสวนน้ำขนาดยักษ์ ร้านค้า คาสิโน โรงภาพยนตร์ ห้องพัก สวนสาธารณะ ก็จัดอยู่ในระดับห้าดาวทั้งสิ้น โดยเฉพาะส่วนรับรองผู้โดยสารอย่าง Suit Lounge สุดอลังการ ที่ตกแต่งอย่างสวยงามหรูหราและถูกออกแบบมาให้มีมากมายหลายมุม ทั้งมุมนั่งรับแสงแดดยามเช้า หรือมุมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่สามารถมองเห็นมหาสมุทรไกลสุดลูกหูลูกตา บรรดาอาหารเลิศรส หรือบาร์เครื่องดื่มชั้นดี พร้อมฟลอร์เต้นรำให้ได้ออกมาโยกย้ายอย่างสนุกสนาน
Cr. Usatoday.
Cr. Bolsovercruiseclub