ร้านอาหารสไตล์ไวกิ้ง ถือเป็นสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว กลายเป็นที่จดจำของผู้คนมากมาย อีกทั้งยังมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร จนทำให้เกิดไอเดียที่จะนำเอกลักษณ์ในสถาปัตยกรรมสแกนดิเนเวียมาเป็นสไตล์ในการออกแบบสิ่งปลูกสร้างอย่างนับไม่ถ้วน กลายเป็นจุดขายและตัวช่วยในการสร้างบรรยากาศภายในร้านอาหารให้ไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย

Cr. broadsheet

Mjolner เป็นร้านอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิถีชีวิตของชาวไวกิ้ง พร้อมกับถูกตกแต่งในรูปแบบของ สแกนดิเนเวียร่วมสมัย ออกแบบโดยดีไซน์เนอร์จาก Studio Y ทีม Yaron Kanor และ Aiste Strazdaite โดยร้านอาหารแห่งนี้มีถึงสองสาขา คือที่ซิดนีย์ และเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย และสิ่งที่ทำให้ Mjolner เป็นร้านอาหารที่มีเอกลักษณ์และโดดเด่นคือ การเน้นการสร้างบรรยากาศภายในร้าน เพราะทางดีไซน์เนอร์ได้ออกแบบให้แสงสว่างภายในร้านให้มีความรู้สึกเหมือนความสว่างที่มาจากแสงเทียน จึงทำให้อบอวลไปด้วยความรู้สึกที่อบอุ่นและเป็นกันเอง เหมาะกับการมาสังสรรค์

Cr. hiddencitysecrets

การสร้างบรรยากาศที่มีเอกลักษณ์นี้ เกิดจากการนำวัฒนธรรม รวมไปถึงลักษณะการใช้ชีวิตของชาวไวกิ้ง เข้ามาเป็นแนวทางในการออกแบบ ซึ่งองค์ประกอบใหญ่ๆของวัฒนธรรมชาวไวกิ้งก็คือ การสังสรรค์ จึงทำให้สอดคล้องกับแรงบันดาลใจที่เลือกนำมาออกแบ นอกไปจากนั้นการตกแต่งในส่วนต่างๆภายในร้านก็ยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่ได้มาจากชาวไวกิ้ง เช่น การตกแต่งภายในที่เลือกใช้ลักษณะของอิฐและปูนเปือย หรือจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ที่เลือกใช้วัสดุจากไม้ และที่สำคัญขาดไปไม่ได้ก็คืออุปกรณ์ตกแต่งที่เป็นเครื่องหนัง อาวุธของชาวไวกิ้ง เขาสัตว์ต่างๆ รวมไปถึง เรือไวกิ้ง อีกด้วย

Cr. south.is

South Iceland สถานที่แห่งธรรมชาติ มีร้านอาหารสไตล์ไวกิ้งตั้งอยู่กลางทุ่งกว้าง นั่นก็คือร้าน Ingolfsskali Viking Restaurant เป็นร้านอาหารสไตล์ไวกิ้ง ที่รวมไว้ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรมและประเพณีต่างๆของชาวไวกิ้ง เพื่อจะพาผู้ที่ได้มาเยือนได้พบกับช่วงเวลาที่เรียบง่ายขึ้น โดยมีธรรมชาติเป็นส่วนประกอบสำคัญ เพราะร้านอาหารแห่งนี้ถูกล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติที่งดงามทางตอนใต้ของประเทศ Iceland และยังมีเอกลักษณ์สำคัญคือการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมของชาวไวกิ้ง โดยเริ่มต้นกันตั้งแต่ภายนอกของร้าน ที่ออกแบบให้มีลักษณะโครงสร้างเหมือนกับบ้านของชาวไวกิ้ง ที่เรียกกันว่า Viking Longhouse ซึ่งภายในจึงสามารถจุคนได้สูงสุดถึง 250 คน และยังสามารถเพิ่มพื้นที่สำรองด้านนอกได้อีก 180 ที่ จึงทำให้เหมาะกับการจัดงานสังสรรค์เป็นที่สุด

Cr. icelandwithaview

การออกแบบตกแต่งภายใน อบอวลไปด้วยบรรยากาศแบบดั้งเดิมของชาวไวกิ้ง การใช้ไม้เป็นวัสดุหลักของโครงสร้างอาคาร นอกจากนั้นเฟอร์นิเจอร์แทบจะทุกอย่างภายในร้านก็ทำมาจากไม้อีกด้วย เพิ่มเติมกลิ่นอายของชาวไวกิ้งเข้าไปด้วยการใช้เชิงเทียนที่ลักษณะคล้ายงาหรือเขาสัตว์ มาเป็นของตกแต่งวางตามโต๊ะรับประทานอาหาร และสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือหนังสัตว์ที่ถูกทำมาตกแต่งไว้ตามผนังในจุดๆต่างๆภายในร้าน

Cr. icelandwithaview

ภายนอกร้านเองก็ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ร่วมสนุกด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการยิงธนู หรือการปาขวานสไตล์ไวกิ้ง

Cr. tripadvisor

The Viking Village Restaurant ร้านอาหารสไตล์ไวกิ้ง เป็นส่วนหนึ่งใน Viking Village ตั้งอยู่ที่ประเทศไอซ์แลนด์ สถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว ความพิเศษของ The Viking Village Restaurant คือเป็นการจำลองสภาพแวดล้อมและบรรยากาศของชาวไวกิ้ง เพื่อมอบเป็นประสบการณ์สุดพิเศษให้แก่นักท่องเที่ยว โดยภายในบริเวณจะมีทั้งอาคารต่างๆ ซึ่งมีลักษณะคล้ายสถาปัตยกรรมในยุคไวกิ้ง ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม รวมไปถึงโรงแรม ร้านอาหาร และกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับของชาวไวกิ้ง

Cr. fishermansvillage

การออกแบบภายนอกของ The Viking Village Restaurant ได้รับอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมจำพวกโบถส์ของยุคไวกิ้ง การสร้างหลังคาที่ซ้อนกันขึ้นไปหลายชั้น มีลักษณะคล้ายกับอาคารทางศาสนาของชาวไวกิ้ง การออกแบบตกแต่งภายในร้านก็ยังคงได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมของยุคไวกิ้งเช่นกัน โดยถูกตกแต่งโดยมีเอกลักษณ์เชิงสัญลักษณ์ต่างๆ เช่นอุปกรณ์การล่าสัตว์ ภาพเขียนของชาวไวกิ้ง และที่สำคัญคือการคุม Mood and Tone ที่ทำให้นึกถึงกลิ่นอายของยุคสมัยไวกิ้ง นอกจากนี้ร้านอาหารแห่งนี้ยังเน้นอาหารที่เป็นแบบไวกิ้งดั้งเดิม ผู้ที่มาเยือนจะเต็มอิ่มไปด้วยบรรยากาศ และประเพณีของชาวไวกิ้งที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน

Cr. twnews

อีกหนึ่งร้านอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชาวไวกิ้ง Vinaböd Tapas Bar ร้านอาหารกึ่งบาร์เครื่องดื่ม ที่ตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ เรียกได้ว่าทั้งบรรยากาศและการตกแต่งมีกลิ่นอายสไตล์ชาวไวกิ้งให้ได้เห็นอย่างชัดเจน สถานที่แห่งนี้จะเน้นให้ผู้คนได้นัดกันเพื่อมาสังสรรค์โดยเฉพาะ สำหรับผู้คนที่ชอบดื่มด่ำกับการตกแต่งหรือแม้กระทั่งอาหารเลิศรส ก็จะต้องตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษ แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายเพราะด้วยพิษเศรษฐกิจในช่วงโควิทนี้เอง ทำให้ร้านอาหารแห่งนี้ไม่สามารถไปต่อได้ และต้องทำการปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็ยังมีลูกค้าประจำที่ยังคอยเอาใจช่วย และหวังจะให้กลับมาเปิดตัวอีกครั้งหากผ่านสถานการณ์ช่วงนี้ไปได้

Cr. stockportpropertyblog

Dan Ray ผู้ริเริ่มแนวคิดการตกแต่งร้านในสไตล์นี้ขึ้น เขามีความชอบเกี่ยวกับนวนิยาย รวมถึงเรื่องราวในยุคไวกิ้ง และถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถสร้างสรรค์ร้านให้เหมือนหลุดออกมาเหมือนหนึ่งพันปีที่ผ่านมาได้ แต่เขาสามาถทำให้ร้านอาหารแห่งนี้มีบรรยากาศที่เป็นกันเอง และความสนุกสนานคล้ายกับการสังสรรค์ของผู้คนในยุคนั้นได้ ในส่วนของการตกแต่งเน้นเฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหลักและยังเป็นงานที่ทำจากมืออีกด้วย นอกจากนี้ยังเลือกใช้การตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ต่างๆที่เข้ามาช่วยสร้างความรู้สึกให้ใกล้เคียงกับยุคสมัยไวกิ้ง และด้วยความลงตัวของการเลือกสรรการตกแต่งภายในร้าน ลูกค้าจึงต่างพากันให้คะแนนกับบรรยากาศของร้านมากมายเลยทีเดียว

Cr. Dylan Moore

การที่หลากหลายธุรกิจได้เลือกนำสไตล์ไวกิ้งมาเป็นแรงบรรดาลใจ กลายเป็นอีกหนึ่งข้อยืนยันว่าวัฒนธรรม และเอกลักษณ์ของชาวไวกิ้งนั้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้สไตล์อื่นใดในโลก นอกจากสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่นแล้ว วิถีชีวิตสไตล์ไวกิ้งก็ได้เข้ามาเป็นส่วนช่วยสร้างความน่าค้นหาให้กับธุรกิจร้านอาหารได้เป็นอย่างดี

สามารถติดตามผลงานต่าง ๆ ของทาง Bareo ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ของ Bareo หรือทาง Facebook : Design by Bareo ที่จะคอยอัพเดทข่าวสาร งานดีไซน์ และผลงานการออกแบบตกแต่งภายในมากมาย ให้ท่านผู้อ่านได้รับความรู้ และความสนุกตลอดทั้งปี

หรือหากสนใจจะออกแบบตกแต่งภายในกับทาง Bareo ทางเราก็มีบริการออกแบบภายในครบวงจร โดยสามารถอ่านรายละเอียดการให้บริการของเราได้ที่นี่ คลิ๊ก

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

fjorukrain.is
manchestereveningnews
tasteatlas
sarahwcooley.wordpress