White Marble
เรื่องราวของหินสีขาว
หนึ่งใน Material ที่นิยมใช้กันในงานออกแบบและตกแต่งภายในก็คือ ‘หินอ่อน’ เพราะเป็นวัสดุที่เมื่อนำมาประกอบการออกแบบแล้วให้ความรู้สึกหรูหรา สงบ มั่นคงและมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
โดยลวดลายบนแผ่นหินสีขาวที่ว่านั้นเกิดจากแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามแหล่งกำเนิดในแต่ละพื้นที่ และหนึ่งในประเทศที่เก่าแก่และเชี่ยวชาญเกี่ยวกับหินอ่อนที่สุดก็คือประเทศ ‘อิตาลี’
แหล่งกำเนิดของหินอ่อนหลายชนิดที่อยู่ในอิตาลี ว่ากันว่าเป็นพื้นที่ที่มีความบริสุทธิ์สูง ทำให้เมื่อตัดแผ่นหินออกมาจะเป็นสีขาวสะอาด และมีลวดลายที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ โดยเมื่อที่ขึ้นชื่อเรื่องหินอ่อนมากที่สุดของอิตาลีก็คงไม่พ้นเมื่อ Carrara ใน Tuscany ทางตอนเหนือของอิตาลี
Cr. do-in-italy
ที่เมืองคาราร่านั้น จะมีภูเขาหินลูกใหญ่ที่ถูกใช้เป็นแหล่งทรัพยากรส่งออกหิน ‘White Carrara’ มานานตั้งแต่สมัยกรีกโรมัน และโด่งดังที่สุดในสมัยของจักรพรรดิ์จูเลียส ซีซาร์ (Julius Ceasar) ซึ่งในสมัยนั้นนิยมใช้หินอ่อนหลายชนิดเพื่อสร้างงานสถาปัตยกรรมต่างๆ ไปจนถึงรูปปั้นปฎิมากรรมชื่อดังของโลกที่ตั้งอยู่ในอิตาลี เช่น รูปปั้น David ของ Michaelangelo ไปจนถึงมหาวิหาร Pantheon ในโรม (ซึ่งเรื่องราวการขนส่งหินอ่อนจากเมืองคาราร่าไปโรมนั้นก็น่าสนใจไม่แพ้กันเลยทีเดียวค่ะ)
|| White Carrara ||
Cr. carmelimports
หินที่อยู่ในเมืองคาราร่านั้นแน่นอนว่ามันถูกเรียกว่า ไวท์คาราร่า (White Carrara) โดยจะเป็นหินอ่อนสีขาวที่มีเส้นแร่สีน้ำตาลวิ่งเป็นลวดลายแซมอยู่บนแผ่นหินสีขาวสะอาด เมื่อนำมาใช้ในงานออกแบบนิยมขัดเงาเพื่อให้ดูหรูหราและเน้นลวดลายให้โดดเด่นสวยงามมากขึ้น
ไวท์คาราร่า ไม่ใช่หินชนิดเดียวที่เกิดขึ้นในเมืองคาราร่า แต่ในวงศ์ตระกูลของไวท์คาราร่ายังมีหินที่คล้ายกันแต่มีเกรดสูงกว่าอีกสองชนิด โดยหินทั้งสองชนิดนั้นก็คือ Calacatta และ Statuario
|| White Calacatta ||
Cr. i.pinimg
หินคาลาคัตต้า (Calacatta) นั้น ได้รับการขนานนามให้เป็นหินอ่อนที่หรูหรามากที่สุด โดยจะมีเส้นแร่สีเทาและทองวิ่งอยู่บนแผ่นหินเป็น Pattern ไม่ใช่ลายเส้น ซึ่งเกิดจากการทับถมกันของชั้นแร่ธาตุ ทำให้หินคาลาคัตต้าทุกลอตนั้นมีลวดลายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและไม่เหมือนใคร
|| Statuario ||
Cr. pinterest
ส่วนหินสตาร์ตูอาริโอ (Statuario) จะเป็นหินที่แพงและมีเกรดสูงที่สุดในบรรดาหินทั้งสามชนิดที่เราได้กล่าวมา แหล่งกำเนิดของหินชนิดนี้จะอยู่ทางตอนเหนือเลยเมืองคาราร่าไปอีกเล็กน้อย ซึ่งจุดเด่นที่ทำให้หินชนิดนี้มีราคาแพงคือ นอกจากการมีลวดลายของเส้นแร่สีเทาและสีทองเหมือนหินคาลาคัตต้าแล้ว ยังว่ากันว่าเส้นแร่นั้นวิ่งพาดแผ่นหินได้เป็นเส้นชัดเจนและสวยงามที่สุดนั่นเอง
ถัดมาคือหินอีกชนิดที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันและถูกขนานนามว่าเป็นไวท์คาราร่าแห่งกรีซ… ใช่ค่ะ หินชนิดนี้ยังอยู่ในวงศ์ตระกูลของหินไวท์คาราร่า แต่เนื่องจากมีแหล่งกำเนิดคนละประเทศ ทำให้สีของเส้นแร่และลวดลายการทับถมของแร่ธาตุต่างกัน และหินชนิดนี้ก็คือหินอ่อน Volakas
Cr. volakasmarble
หินอ่อนไวท์วารากัส (White Volakas) ถูกพบในหมู่บ้าน Volakas ที่ตั้งอยู่บนเขา Falakron ทางตะวันออกของประเทศกรีซติดกับบัลกาเรีย โดยหมู่บ้านแห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่หินไวท์วารากัสเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งกำเนิดของหินอ่อน Graniti และ Pighes อีกด้วย
|| White Volakas ||
Cr. miladmarble.rocmet
หินไวท์วารากัสนั้นจะมีลวดลายหลากหลาย ตั้งแต่ลายน้อยเช่นเดียวกับหินไวท์คาราร่า เรียกว่า Volakas Brilliant White, มีลายสีเทาเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อยวิ่งเป็นแนวทะแยงเรียกว่า Volakas Olympus White, มีลวดลายสีเทาที่วิ่งเหมือนก้อนเมฆ ไหลไม่เป็นระเบียบเรียกว่า Cloudy Volakas, ลวดลายชัดเจนและมีระเบียบดังในภาพตัวอย่าง เรียกว่า Classic Volakas ไปจนถึงลวดลายสีเทาและน้ำเงินที่เข้มและหนา เรียกว่า Volakas Onyx
[ที่มา : http://www.volakasmarble.com]
ข้ามมาถึงฝั่งเอเชียกันบ้างค่ะ หินอ่อนชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมกันในบ้านเราและมีแหล่งกำเนิดจากจีนนั้นได้แก่ หินอ่อน White Panda นั่นเอง
|| White Panda ||
Cr. marble
ด้วยความที่เป็นหินอ่อนสีขาวตัดกับลวดลายสีดำที่ชัดเจน ทำให้ไวท์แพนด้า (White Panda) กลายเป็นหินอ่อนที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่ต้องการใช้วัสดุหินอ่อน แต่ไม่ต้องการให้พื้นที่ดูขาวเรียบมากเกินไป และด้วยเหตุนี้เองก็ทำให้ดีไซน์เนอร์มากมายชื่นชอบที่จะนำหินชนิดนี้มาใช้ในงานออกแบบเพื่อเพิ่มมิติและลูกเล่นให้กับงานออกแบบเช่นกัน
แต่การใช้หินชนิดนี้นั้นก้ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ เพราะการใช้หินที่มีลวดลายนั้น สำหรับพื้นที่เล็กๆ สามารถจบได้ในหินแผ่นเดียว แต่หากเป็นพื้นที่ใหญ่หรือกว้างขวางล่ะก็… สิ่งที่ยากที่สุดของการใช้หินที่มีลวดลายก็คือ ‘การต่อลายหิน’ นั่นเอง
การต่อลายหิน หรือ Marble Bookmatch เป็นการนำ ‘ลวดลายจริง’ ของแผ่นหินตั้งแต่สองแผ่นขึ้นไปมาจัดวางลงในงานดีไซน์ เพื่อหาทิศทางของงานออกแบบ โดยลวดลายของหินนั้นทางดีไซน์เนอร์จะขอมาจากร้านหินและทำการดีไซน์ความเป็นไปได้ของการตัดหิน เพื่อให้เกิดลวดลายที่สวยงามและเหมาะสมกับงานออกแบบที่สุดนั่นเอง
Cr. stoneembassy , spacestone , indiamart