Tea’s Story
ประวัติชา
“ชาจีน” นับเป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงเป็นอันดับต้นของโลก ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว สีสัน รสชาติ กลิ่นหอม รวมถึงวัฒนธรรมการดื่มชาที่มีมาอย่างยาวนาน ทำให้ชากลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทั่วทุกมุมโลก เกิดเป็นรูปแบบการรับประทานชาจีนควบคู่กับอาหาร หรือขนม อีกทั้งชาจีนยังมีสรรพคุณในการช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดคอลเรสเตอรอล กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง อีกทั้งยังช่วยป้องกันฝันผุ และกระตุ้นภูมิคุ้มกันอีกด้วย ถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์เป็นอย่างมากเลยทีเดียว
ประวัติชา
Cr. th.gofreedownload
ตามตำนานกล่าวว่า ชา เริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณ 5,000 ปีที่แล้ว โดยเกิดขึ้นในสมัยจักพรรดิเฉินหนง (Shen Nong, 神農) ผู้เป็นหนึ่งในสามราชา (ซานหวง, 三皇) ซึ่งเป็นผู้ที่วางรากฐานอารยธรรมของจีนตามความเชื่อของชาวจีน [บางตำราหรือบางความเชื่อในศาสนาเฉิน (Shenism หรือ Chinese folk religion) เชื่อว่า เฉิยหนง เป็นหนึ่งในเทพเจ้า หรือเทวนิยมแบบจีน] โดยเฉินหนงเป็นผู้สอนให้ชาวจีนเรียนรู้ที่จะทำการเพาะปลูก การใช้สมุนไพรต่างๆ อีกทั้งยังเชื่อว่าเป็นผู้คิดค้น จอบ คันไถ และระบบชลประทานอีกด้วย
Cr. Blockdit
ชา เกิดขึ้นจากความบังเอิญโดยเชื่อว่าวันหนึ่งขณะที่ เฉินหนง ทำการต้มต้มน้ำเพื่อให้ได้น้ำสะอาดสำหรับดื่ม (บ้างเชื่อว่า เฉินหนง มีสุขภาพที่ไม่แข็งแรง จึงต้องต้มน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ และทำให้ร่างกายอบอุ่น) ระหว่างทำการต้มน้ำอยู่นั้น ก็เกิดลมแรงพัดใบชาที่อยู่ใกล้ๆ ตกลงไปในหม้อต้มน้ำนั้น
Cr. Kknews
ครั้งที่เกิดเหตุบังเอิญดังกล่าว เฉินหนง ก็ได้ดื่มน้ำต้มเดือดที่มีใบชาอยู่ในหม้อน้ำนั้น ก็รู้สึกประหลาดใจกับรสชาติของน้ำต้มใบชานั้น ที่มีรสชาติที่ดี หอม อีกทั้งยังรู้สึกสดชื่นเลือดลมเดินสะดวก เฉินหนงจึงเริ่มการเผยแพร่การดื่มชา อีกทั้งยังสอนให้ชาวบ้านทำการปลูกชาอีกด้วยตามตำนานของชาวจีน
Cr. i.pinimg
ในปี 2559 ที่ผ่านมามีการขุดค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีในสุสานของจักรพรรดิจิงตี้ (Jing Di, 景帝) ของราชวงศ์ฮั่น จากหลักฐานที่ค้นพบระบุว่าราชวงศ์ฮั่นเริ่มมีการดื่มชามาตั้งแต่ช่วงต้นรัชสมัยของจักรพรรดิจิงตี้ (ราวๆ 155 – 141 ก่อนคริสตกาล) โดยชาที่ใช้ดื่มในราชวงศ์ฮั่นล้วนเป็นยาที่ใช้รักษามากกว่าการบริโภคในชีวิตประจำวัน
อ้างอิงจากวรสารงานวิจัย : Earliest tea as evidence for one branch of the Silk Road across the Tibetan Plateau
ภาพหลักฐานการค้นพบก้อนชาเขียวในสุสานราชวงฮั่น เทียบกับตัวอย่างก้อนชาเขียวที่ขุดพบที่ Ngari ในทิเบต