รัชกาลที่ 9 กับพระอัฉริยภาพด้านกีฬาเรือใบ
By – | October2019 | Living Young |
Cr. Scontent.fbkk10-1.fna.fbcdn
หากจะกล่าวถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 คงไม่มีคนไทยท่านไหนไม่รู้จัก กษัตริย์ผู้ปกครองประเทศไทยยาวนานกว่า 70 ปี กษัตริย์ผู้เป็นมากกว่ากษัตริย์ ทรงยังเป็นบิดาของชนชาวไทยทั้งปวงอีกด้วย ในบทความนี้ อยากจะขอกว่าถึงพระอัจฉริยะภาพของพระองค์ในด้านกีฬา ที่ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาทั้งของชาวไทย และของนานาประเทศ หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะมีความสุขกับบทความนี้นะคะ
นอกจากพระอัจฉริยะในการทรงงาน พระอัจฉริยะด้านการกีฬาของในหลวงรัชกาลที่ 9 (หรือพระเกียรติในปัจจุบันคือ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร) ก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยเฉพาะพระปรีชาสามารถด้านกีฬาเรือใบ ที่มีติดตัวมาตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์ ซึ่งเกิดจากความชื่นชอบส่วนพระองค์ และหมั่นฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ จนสามารถคว้าเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 ที่จัดขึ้นในประเทศไทย
Cr. I.pinimg
หากเล่าย้อนเรื่องราวก่อนที่พระองค์จะประสบความสำเร็จ และกว่าจะเชี่ยวชาญด้านการเล่นกีฬาเรือใบ เริ่มตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์ ทรงโปรดปรานกีฬาเรือใบอย่างมาก อีกทั้งยังทรงชื่นชอบงานช่างเป็นชีวิตจิตใจ พระองค์ทรงทำการต่อเรือด้วยฝีพระหัตถ์ของพระองค์เอง หลักฐานสำคัญเห็นได้จากความในบทพระราชนิพนธ์ ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เรื่อง เจ้านายเล็กๆ ยุวกษัตริย์ ทรงกล่าวไว้ว่า “พระอนุชาได้เริ่มทำแบบเรือต่างๆ ด้วยไม้ เช่น แบบเรือรบที่ไม่มีขาย ในระยะนั้นกำลังทำเรือ ใบที่ใหญ่พอสมควร ใบก็เย็บเองด้วยจักรเสร็จแล้ว เหลือแต่การทาสี เมื่อเริ่มไปแล้ว ก็พอดีเป็นเวลาที่กำลังจะตัดสินว่าจะอพยพออกไปสวิตเซอร์แลนด์ ทรงเล่าว่า ทุกคนก็ถามอย่างล้อๆ ว่า เรือจะแห้งทันไหม”
Cr. I.pinimg
แม้จะมีภารกิจมากมายแต่พระองค์ก็ไม่เคยละทิ้งความตั้งใจในการต่อเรือด้วยฝีพระหัตถ์ของพระองค์ทรงศึกษา ประดิษฐ์คิดค้น และลองผิดลองถูก โดยเรือใบลำแรกได้พระราชทานชื่อว่า “เรือราชปะแตน” ซึ่งเป็นเรือใบพระที่นั่งเอ็นเตอร์ไพรส์ ในเวลาต่อมาพระองค์หันมาเล่นเรือใบประเภท โอ เค (International O.K. Class) ทรงสร้างเรือใบขึ้นมาด้วยพระองค์เองนามว่า “นวฤษษ์” และทรงต่อเรือใบประเภท โอ เค ขึ้นอีกหนึ่งลำ โดยในคราวนี้ทรงพระราชทานชื่อให้เรือใบใหม่ว่า “VEGA” (เวคา)
Cr. Praew
โดยเรือที่มีชื่อว่า “เวคา” นี้เอง ที่พระองค์ทรงใช้ในการเดินเรือข้ามอ่าวไทยจากพระราชวังไกลกังวล จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มาถึงหาดเตยงาม จังหวัดชลบุรี ด้วยตัวของพระองค์เอง และมีการจำกัดผู้ติดตามเพียง 3 คน 3 ลำ เท่านั้น ในระยะทางกว่า 97 กิโลเมตร (ประมาณ 60ไมล์ทะเล) ใช้เวลายาวนานกว่า 17 ชั่วโมง แต่ต่อให้การเดินทางจะไกลและใช้เวลานานขนาดไหน พระองค์ก็ยังทรงอารมณ์ขัน เมื่อมีคนถามว่าในขณะที่ทรงเรืออยู่พระองค์เดียวท่างกลางทะเลกว้างขวาง และระยะทางที่ไกลโพ้น พระองค์ทรงทำอะไรระหว่างทาง พระองค์เพียงแย้มพระสรวลเบา ๆ ด้วยใบหน้าแห่งความสุขแล้วตอบกลับมาว่า “ฟังยี่เกจากวิทยุที่นำติดกระเป๋ามา”
Cr. I.pinimg
ทันทีที่เดินทางมาถึงหาดเตยงาม ซึ่งเป็นฐานทัพของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้นำธงราชนาวิกโยธินมาปักไว้เหนือก้อนหินใหญ่บนชายหาดกลางอ่าวเตยงาม ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่สำคัญของที่แห่งนี้ไปแล้ว
Cr. Tnews
ฝีมือการทรงเรือใบของพระองค์ ไม่ใช่แค่ความชื่นชอบ แต่ความสามารถของพระองค์ยังเก่งกาจ พิสูจน์ได้จากรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 คว้าเหรียญทอง การแข่งขันแล่นเรือใบในกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศไทย ในวันที่ 16 ธันวาคม 2510 ซึ่งพระองค์ถือเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรก และพระองค์เดียวในเอเชีย ที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขัน
Cr. Silpa-mag
สิ่งสำคัญที่สำคัญที่ทำให้คนทั่วโลกต่างชื่นชมพระองค์ก็คือ ทรงมีสปิริตและน้ำใจนักกีฬาเต็มร้อย ซื่อตรง และปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด โดยครั้งหนึ่งในการแข่งขันพระองค์เสด็จออกจากฝั่ง แต่เรือใบแล่นไปโดนทุ่น ซึ่งถือว่าเป็นการผิดกติกา เหตุการณ์ในครั้งนั้นอาจไม่มีใครเห็น แต่พระองค์ก็เลือกที่จะแล่นเรือกลับเข้าฝั่ง เนื่องจากเห็นว่าพระองค์ทำฟาว์ล ทรงเล่นต่อไม่ได้แล้ว
Cr. I.pinimg