ในยุคสมัยปัจจุบัน  การใช้ชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงไป ต้องทำอะไรแข่งกับเวลาอยู่เสมอ ไม่ว่าจะกิน หรือทำงาน ล้วนแล้วแต่ต้องมีเวลามาบีบบังคับอยู่ตลอด ทำให้หลายๆคนก็ลืมที่จะใส่ใจดูแลตัวเองไป ไม่ออกกำลังกาย ร่างกาย ผิวพรรณก็เลยดูไม่สดใส  แต่ก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะในเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป วิวัฒนาการก็มีมากขึ้น  อาหารเสริม หลากหลายรูปแบบถูกผลิตออกมาล่อตาล่าใจ สาวกคนขี้เกียจกันเป็นแถว ^^ (รวมตัวบียอนด้วยนะ ฮ่าๆ)  มาให้ได้เลือกซื้อกัน  ส่วนตัวแล้ว อาหารเสริมก็อาจมีความสำคัญ เพราะมันจะช่วยเติมเต็มสิ่งที่ร่างกายเราขาดไป  แต่ถ้าทานมากเกินไปก็อาจจะตกค้างและอาจจะเกิดอันตรายกับร่างกายเราได้  เพราะฉะนั้นวันนี้บียอนขอนำเคล็บลับ สุขภาพดี ผิวสวย จากผักผลไม้จากธรรมชาติโดยไม่ต้องเพิ่งอาหารเสริมมาให้แฟนบาริโอได้ติดตามและแบ่งปันความหล่อ ความสวยกันถ้วนหน้านะครับ ^^

     มะเขือเทศ หรือ Tomato   มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Lycopersicon Esculentum Mill  อันทีจริงแล้วหลายๆคนอาจจะคิดว่ามะเขือเทศเป็นผัก  แต่แท้ที่จริงแล้ว มะเขือเทศถือเป็น ผลไม้  เพราะ ข้อมูลทางพฤกษศาสตร์ ผลไม้คือส่วนของรังไข่ที่เจริญเติบโตเต็มที่ของพืชดอก ส่วนผัก คือพืชที่กินได้ ไม่ว่าจะเป็น ราก ใบ ก้าน หัว หน่อ ดอก นั้นเองครับ

     สำหรับมะเขือเทศผลไม้ลูกสีแดงสดสีสวยงาม อาจจะดูสวยในภายนอก แต่ถ้าจะให้กินสดๆ  เชื่อว่าหลายๆคนก็อาจจะมีอาการยี้กันขึ้นมาทันที แต่มะเขือเทศเองก็มีหลายสายพันธุ์ที่จะมีรสชาติหวานให้พอกินได้ อย่าง มะเขือราชินี หรือมะเขือเทศเชอรี่ เป็นต้น

ประโยชน์ของมะเขือเทศ

     มะเขือเทศมีสารจำพวก แคโรทีนอยด์ ชื่อ ไลโคปีน ( Lycopene ) ซึ่งเป็นสารสีแดง และมีประโยชน์มหาศาลในเชิงผิวพรรณ นอกจากนี้มะเขือเทศยังมี วิตามินหลายชนิด เช่น
วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินเค โดยเฉพาะวิตามินเอ และวิตามินซี มีในปริมาณสูง

     ไลโคปีนยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่มีฤทธิ์แรงมากในด้านการต่อต้านอนุมูลอิสระสาเหตุสำคัญของโรคเสื่อมมีส่วนช่วยลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย ปรับระบบฮอร์โมนและภูมิคุ้มกัน รวมถึงยังช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ รวมถึงโรคหลอดเลือดหัวใจได้อีกด้วย

     นอกจากนี้แล้วยังสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา ช่วยเป็นยารักษาโรคผิวหนัง โดยใช้ ใบตำให้ละเอียดทาบริเวณที่เป็น  และช่วยแก้อาการปวดฟัน โดยนำราก ลำต้น และใบแก่ต้มกับน้ำรับประทาน

     ผลของมะเขือมีรสเปรี้ยว เสริมวิตามินซี เป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยดับกระหาย ช่วยให้กระเพาะอาหาร ลำไส้ ไต ให้ทำงานได้ดีขึ้น และยังสามารถต้านอนุมูลอิสระ ขับสารพิษจากร่างกาย และเหมาะที่จะเป็นอาหารสำหรับคนเป็นโรคนิ่ว วัณโรค ไทฟอยด์ หูอักเสบ และเหยื่อตาอักเสบ โดยรับประทานผลสด

     ช่วยรักษาสิว สมานผิวหน้าให้เต่งตึง โดยใช้น้ำมะเขือเทศพอกหน้า หรืออาจจะมะเขือเทศสุกฝานบาง ๆ แปะบนใบหน้า จะช่วยให้ผิวหน้าอ่อนนุ่ม บำรุงผิวพรรณไม่แห้งกร้าน

Tip
การทานมะเขือเทศแปรรูป หรือผ่านการปรุงสุกนั้น ไม่ทำให้คุณค่าของมะเขือเทศหายไป แต่จะยิ่งเพิ่มคุณค่าให้กับมะเขือเทศมากยิ่งขึ้น เนื่องจากไลโคปีนมีคุณสมบัติที่ละลายในไขมันได้ง่าย ร่างกายจึงดูดซึมไลโคปีนได้มากขึ้นเป็นพิเศษจากเทคนิคการประกอบอาหารเพราะ ไลโคปีนทนต่อความร้อนจึงไม่ต้องกังวลว่าสารไลโคปีน จะลดจำนวนลงไม่ว่าจะผ่านกระบวนการผัดหรือต้มก็ตาม ตรงกันข้าม กับพบว่าปริมาณไลโคปีนสูงขึ้นมาก เนื่องจากมีการผ่านกระบวนการทำให้เข้มข้นขึ้น ดังนั้น อาหารอิตาเลียน พวกพิซซ่า สปาเก็ตตี้ ที่มีการแต่งรสด้วยซอส หรือผลิตภัณฑ์มะเขือเทศเข้มข้น (Tomato paste) ที่ผลิตจากมะเขือเทศ เป็นต้น

     สรรพคุณมะเขือเทศนี้ขอบอกว่าเยอะจริงๆเลยนะครับ ถ้าจะรับประทานสดขอแนะนำให้ทานมะเขือเทศราชินี เพราะรสชาติอร่อยจิ้มกับน้ำตาลหรือเกลือ หรือนำไปทำสลัด ก็ได้ตามใจชอบ ทานวันละ 20 ลูกต่อวัน รับรองว่าผิวพรรณสวย เปล่งปลั่ง จนคนรอบข้างต้องทักแน่ๆ  แต่ถ้าใครที่รับประทานสดไม่เก่ง บียอนให้แนะนำให้ทานเป็นอาหารที่ปรุงด้วย มะเขือเทศ อาทิเช่น  ผัดมักโรนี  นั้นเองครับ

Tip
รักษาสิวด้วยเนื้อมะเขือเทศ
บดมะเขือเทศสดแล้วทาให้ทั่วใบหน้า จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ทุกวันก็จะเห็นผล แนะนำสำหรับรักษาสิวที่เรื้อรังไม่หายขาดนะครับ ^^ หรือถ้าใครอยากหน้าใสๆก็ทำได้ แต่อาจจะทำ 3 ครั้งใน 1 สัปดาห์ครับ

     เห็นคุณประโยชน์ของมะเขือเทศกันไปแล้ว ยังไงก็อย่าลืมทานมะเขือเทศกันเยอะๆนะครับ สุขภาพและ ผิวพรรณของเราจะได้สวย สดใส กันไปนานแสนนานกันเลยทีเดียว ^^
     เห็นไหมละครับการดูแลตัวเองไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงแค่เริ่มจากจุดเล็กๆ อย่างวิธีที่ง่ายที่สุดคือการเลือกรับประทานของที่มีประโยชน์นั้นเองครับ เพียงแค่นี้เราก็ได้มีสุขภาพที่แข็งแรง พร้อมที่จะดำเนินชีวิตในวันต่อๆไปแล้วแหละนะครับ สำหรับวันนี้บียอนต้องขอตัวลาไปก่อน ไว้เจอกันใหม่คราวหน้า สวัสดีครับ ^^

ขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือ มหัศจรรย์ผักและผลไม้
www.pharmacy.mahidol.ac.th
www.gigail.com