ทุกประเทศล้วนมีเทศกาลที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เพราะเทศกาลคือการจัดงานในช่วงเวลาแห่งความพิเศษ หรือการทำติดต่อกันมาจากเรื่องราวในอดีตในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง และสืบต่อกันมาจนกลายเป็นเทศกาลที่จัดติดต่อกันเป็นประจำทุกปี ซึ่งในต่างประเทศก็ไม่ได้แตกต่างจากประเทศไทยเราที่มีการจัดเทศกาลประจำปี และเป็นที่เฝ้ารอคอย
ในทวีปยุโรป ถือเป็นหนึ่งทวีปที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องการที่จะไปเยือน เพื่อศึกษา ซื้อของ หรือท่องเที่ยวเพื่อความสนุก ซึ่งในทวีปยุโรปมีหนึ่งประเทศที่ถือเป็นต้นกำเนิดแห่งสถาปัตยกรรม ความงาม และแฟชั่น มากมาย นั่นคือประเทศอิตาลี ประเทศอิตาลีถือเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์เฉพาะยังคงประเพณี และเทศกาลที่สวยงามต่างๆมากมายสำหรับเดือนนี้ทางบริษัทบาริโอ จึงเอาใจคนรักการออกแบบตกแต่งภายใน และรักในการท่องเที่ยวต่างประเทศ จึงขอนำเทศกาลต่างๆที่โด่งดังภายในประเทศอิตาลี พร้อมช่วงเวลาในการท่องเที่ยวมาฝากเผื่อใครชื่นชอบ และได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนดินแดนที่สวยงามแห่งนี้
เทศกาลของประเทศอิตาลี จะเน้นความสวยงามของวัฒนธรรม ศิลปะด้านการแสดง การแต่งตัวที่สวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ ความโดดเด่นเหล่านี้ทำให้ประเทศอิตาลี เต็มไปด้วยความพิเศษ และน่าเยี่ยมชมอีกช่วงเวลาหนึ่ง อย่ารอช้าเราไปดูเทศกาลต่างๆในประเทศอิตาลีพร้อมๆกันเลยดีกว่าค่ะ
เทศกาลเทศกาลคาร์นิวัล
เทศกาลคาร์นิวัล หรือเทศกาลหน้ากากนี้มีมายาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1268 แต่การเฉลิมฉลองโดยสวมหน้ากากรวมถึงการแต่งองค์ทรงเครื่องที่มาพร้อมกับความอลังการ ซึ่งเพิ่งจะมีขึ้นในเกือบสองร้อยปีให้หลัง เมื่อช่างทำหน้ากากหรือ “mascareri” ได้รวมตัวกันก่อตั้งสมาคมขึ้นอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1436 เมื่อศตวรรษที่ 18 การสวมหน้ากากของชาวเวนีซนั้นถือเป็นเรื่องปกติสำหรับชีวิตประจำวัน เพราะเป็นการปกปิดความเป็นส่วนตัวของผู้คนในการใช้ชีวิตให้สุดเหวี่ยงโดยที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะจำอัตตาลักษณ์ที่แท้จริงของตนได้ แต่หลังจากการยึดครองของกองทัพนโปเลียนในปีค.ศ.1797 การสวมใส่หน้ากากกลายเป็นสิ่งต้องห้าม และผู้ฝ่าฝืนจะต้องโทษด้วยความตาย อาจจะเป็นเพราะกลัวผู้ก่อความผิด จนกระทั่งนักศึกษาของ Academy of Fine Art ได้รื้อฟื้นเทศกาลหน้ากากกลับมาในปีค.ศ.1970 ผู้คนจะสวมใส่เสื้อผ้าหลากสีที่สวยงามอลังการงานสร้าง และจะออกมาเดินฉลองกันบนท้องถนน กิน ดื่ม ในเทศกาลนี้ชาวเมืองใช้ชีวิตแบบที่ไม่ต้องกลัวใครจำได้ และเป็นอิสระ ถือเป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งหนึ่งในชีวิต
เทศกาลคาร์นิวัล จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคม ถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาว เป็นระยะเวลา 12 วัน จัดขึ้นที่เมืองเวนีซ ลักษณะของงานจะมีการแต่งตัวแฟนตาซี และสวมหน้ากากเดินกันทั่วเมือง สวยงามตระกาลตาเลยก็ว่าได้หากใครที่ได้ไปเยือนจะไม่มีวันลืมมันอย่างแน่นอน
เทศกาลศิลปะและดนตรี
อิตาลีดินแดนที่เต็มไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรม เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยจินตนาการ ความรื่นเริงของเสียงเพลง และรวมเหล่าศิลปิน นักออกแบบไว้มากมาย ทำให้เกิดเป็นเทศกาลศิลปะและดนตรี โดนมีการบรรเลงดนตรีของวงที่มีชื่อเสียง และบนท้องถนน (อิตาลี: Maggio Musicale Fiorentino) ซึ่งงานศิลปะและดนตรีจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนมิถุนายน ที่เมืองฟลอเรนซ์ แคว้นทัสกานี
เมืองฟลอเรนซ์ แคว้นทัสกานี ถือเป็นสถานที่ที่ก่อกำเนิดศิลปิน นักคิด นักเขียน และเหล่าอัจฉริยะมากมาย เมืองฟลอเรนซ์ถือเป็นเมืองหนึ่งในประเทศอิตาลีที่สวยงาม อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และมีความหลากหลาย ซึ่งเทศกาลดนตรีถือเป็นเทศกาลรื่นเริง และรวมเหล่าคนรักเสียงดนตรี และนักดนตรีมากมาย ช่วงเทศกาลนี้จึงเหมาะสำหรับเหล่าศิลปินที่จะไปเยี่ยมชมเทศกาลนี้
เทศกาลอีสเตอร์
เทศกาลอีสเตอร์ คือเทศกาลทางศาสนาของประเทศอิตาลี ซึ่งคล้ายกับเมืองไทยที่เป็นเทศกาลทางศาสนาของทั่วทุกแคว้น ภายในเทศกาลนี้จะประกอบด้วยการเดินขบวนกู๊ดฟรายเดย์ หรือที่เรียกกันว่าวันอาทิตย์อีสเตอร์ จะจัดขึ้นในช่วงวันอาทิตย์ และวันจันทร์ ปลายเดือนมีนาคมหรือต้นเมษายน ลักษณะภายในงานเทศกาลนี้ จะมีการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ พระสันตะปาปาจะมีกระแสรับสั่งถึงคริสตศาสนิกชนในวันอาทิตย์อีสเตอร์ เทศกาลอิสเตอร์ในประเทศอิตาลีจะจัดขึ้นที่นครรัฐวาติกันอย่างใหญ่โตเป็นงานรื่นเริง
ในเทศกาลนี้ทุกบ้านเรือนจะจัดตกแต่งบ้านภายในบ้าน และภายนอกบ้านอย่างสวยงาม เพื่อเป็นการต้อนรับการกลับมาของพระเยซู รวมทั้งการกลับมาของธรรมชาติอีกครั้ง เทศกาลนี้มีสัญลักษณ์คือไข่ และกระต่าย ซึ่งไข่จะหมายถึงการเกิด และการเริ่มต้นใหม่ ส่วนกระต่ายคือ ความอุดมสมบูรณ์ แต่แท้จริงแล้ว 2 อย่างนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับศาสนาคริสต์แต่อย่างใดแต่เป็นการปฏิบัติสืบต่อกันมา
ในช่วงเทศกาลอีสเตอร์นี้ ตามท้องถนน และร้านค้าต่างๆจะมีช็อกโกแลตรูปกระต่าย หรือ ไข่ที่มีสีสันสวยงาม วางจำหน่ายกัน นำมาซ่อน และเล่นเกมหาของที่ถูกซ่อน รวมทั้งให้เป็นของขวัญกันอย่างสนุกสนานหากใครมีโอกาสได้ไปเยือนอิตาลีในช่วงนี้ก็อย่าลืมจับจ่ายไข่ และกระต่ายเป็นของติดไม้ติดมือมานะคะ
เทศกาลโอเปร่า
อิตาลีดินแดนแห่งศิลปะ การร้องโอเปร่าถือเป็นการแสดงที่สำคัญของทวีปยุโรป โอเปร่าเป็นการร้องที่ต้องใช้ความสามารถ พลังเสียง และความไพเราะของน้ำเสียง มีลักษณะที่ค่อนข้างแตกต่างจากการร้องประเภทอื่น ประเทศอิตาลีจึงมีเทศกาลโอเปร่าจัดขึ้นทุกปี ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเวโรนา แคว้นเวเนโตซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเวนีซ เมืองแห่งนี้มีสีสันสดใส รื่นรมย์ สบายตามีการแสดงเปิดหมวกตามจัตุรัสต่างๆ ซึ่งที่แห่งนี้เองยังก่อกำเนิดเรื่องราวความรักของหนุ่มสาว และได้รับการประพันธ์เป็นบทละครจากฝีมือของวิลเลียม เชกสเปียร์ ในเรื่อง “โรมิโอกับจูเลีย” ซึ่งเป็นเรื่องราวที่โด่งดังไปทั่วโลกเชื่อว่าหลายคนคงรู้จักกันดี
ปัจจุบันมีการแสดงโอเปร่า หรือคอนเสิร์ตกลางแจ้งในสนามกีฬา ซึ่งจัดขึ้นในช่วงฤดูร้อนประมาณช่วงเดือนมิถุนายน และมักจะแสดงละครยอดนิยมเรื่อง Aida ของจูเซ็ปเป แวร์ดี ซึ่งหลายคนก็รอคอยเทศกาลนี้สำหรับคนรักโอเปร่าก็ไม่ควรพลาด ที่สำคัญการไปชมการแสดงต้องจองตั๋วล่วงหน้าซึ่งสถานที่จัดการแสดงก็รองรับคนได้แค่ 25,000 คนเท่านั้น
เทศกาลลดราคาสินค้าประจำปี
เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นสำหรับชาวยุโรป อิตาลี และนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อสินค้าแบรนด์เนม ราคาแพง และเชื่อว่าเทศกาลนี้คงถูกอกถูกใจเหล่าสาวๆ เพราะเป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเพื่อลดราคาสินค้าประจำปี มีการจัดขึ้นทั่วประเทศอิตาลี ในช่วงเดือนกรกฎาคม และหลังจากเดือนกรกฎาคมก็จะเป็นช่วงเวลาแห่งการพักร้อน ร้านค้า และกิจการในเมืองต่างๆจะปิด และผู้คนจะไปพักผ่อน หย่อนใจตามทะเล ดังนั้นในช่วงเดือนกรกฎาคมถือเป็นเดือนที่ไม่ควรไปเพราะเป็นเดือนที่ร้านค้าส่วนใหญ่จะปิดนั่นเองซึ่งเทศกาลลดราคานี้จะจัดขึ้นที่ The Galleria Vittorio Emanuele มิลาน ซึ่งมิลานคือสถานที่ และศูนย์นำแฟชั่นระดับโลก เป็นแหล่งกำเนิดสินค้าแบรนเนมด์ราคาแพงมากมาย แถมยังมีความสวยงามตระกาลตา มีการออกแบบเป็นโครงเหล็ก หรูหรา น่าท่องเที่ยวเป็นที่สุด นอกจากนี้ขอเพิ่มเติ่มไปที่กรุงปารีส เอาใจคนรักการซื้อสินค้าราคาแพงและเป็นร้านค้าที่โด่งดัเป็นที่นิยมคือ Galeries Lafayette ซึ่งเป็นร้านขายเสื้อผ้าหรูราคาแพง มีประชาชนจำนานมาก มักจะมาเข้าคิวรอยาวเหยียดเพื่อซื้อสินค้าในราคาประหยัด และที่นี่ยังลดอย่างยิ่งใหญ่มากกว่าอิตาลีอีกด้วย
เทศกาลฉลองฤดูกาลเก็บเกี่ยวองุ่นที่ใช้ทำไวน์
ไวน์ คือเครื่องดื่มที่เกิดจากการสรรค์สร้างของมนุษย์ที่รองจาก 200เบียร์ ซึ่งไวน์คือเครื่องดื่มของเหล่าชนชั้นสูง หรือเหล่าผู้ดี ซึ่งมีมาอย่างยาวนานราว 2000 ปี ซึ่งไวน์เกิดจากการหมักบ่มอย่างธรรมชาติจากผลไม้ อย่างองุ่น ประเทศอีตาลีถือเป็นต้นกำเนิดไวน์ ทำให้ได้รับขนานนามว่า บ้านแห่งไวน์ หรือดินแดนแห่งไวน์ เพราะเป็นแหล่งผลิตไวน์ที่โด่งดัง เทศกาลนี้จัดขึ้นในช่วงเดือนกันยายน ในแคว้นทัศคานี ในเทศกาลจะมีไวน์ชั้นดีให้ชิม กับเสียงดนตรี
องุ่นที่นำมาผลิตไวน์ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์เดียวกัน หรือหลายสายพันธุ์ ล้วนทำให้รสชาติไวน์แตกต่างกันออกไป ดังนั้นเทศกาลฉลองฤดูเก็บเกี่ยวองุ่นที่ใช้ทำไวน์ถือได้ว่าเป็นการแสดงถึงเอกลักษณ์ของชาวอิตาลีนั่นเอง เทศกาลนี้จึงจัดอย่างยิ่งใหญ่ และเหมาะสำหรับคนรักไวน์
เทศกาลที่กล่าวมาถือเป็นเทศกาลที่มีความสำคัญของชาวอิตาลี และเหล่านักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบประเพณีของชาวตะวันตก ทำให้เหล่าเทศกาลต่างๆได้จัดขึ้นในช่วงเทศกาลแห่งการท่องเที่ยว ซึ่งเทศกาลเหล่านี้เป็นการสร้างรอยยิ้มให้แก่คนในประเทศ ในแคว้นต่างๆ รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่มีโอกาสได้ไปเยือน และบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ และความโด่งดังของประเทศอิตาลี หากใครมีโอกาสก็ลองเช็คเทศกาล ฤดูกาลรวมทั้งการวางแผนล่วงหน้าเพื่อความสุขในการท่องเที่ยวเมืองแห่งประวัติศาสตร์ และการออกแบบดีไซด์หากไปอิตาลี เชื่อว่าทุกคนต้องหลงรักอย่างแน่นอน
ขอขอบคุณ
หนังสือใครๆก็ไปอิตาลี ฉบับปรังปรุงใหม่
www.mushroomtravel.com
www.romatravel.co.th
Pinterest
|